Adventure

Gravity (2013) กราวิตี้ มฤตยูแรงโน้มถ่วง

maxre41414sdefault

ในยุคสมัยที่คำว่า “หนังดี” มีได้หลายนิยาม Gravity อาจไม่ใช่หนังดีที่โดนใจใครหลายๆ คน

หนังอะไรก็ไม่รู้ ตัวละครมีแค่สอง เรื่องก็เกิดบนอวกาศที่ไม่มีอะไรสักอย่าง กล้องหมุนๆ คว้างๆ วิงๆ เวียนๆ เดินเรื่องไปเรื่อย ไม่มีอะไรหักมุม… หลายคนแอบถามในใจ ว่าอะไรคือความสนุก?

แต่สำหรับคนอีกกลุ่ม กลับสัมผัสได้ถึงพลังดารา แม้จะเล่นกันแค่ 2 คน แต่เจ๊แสงดาวเล่นได้เข้ม ยิ่งยามเธออยู่คนเดียวและเริ่มเศร้า เราก็อดไม่ได้ที่จะอินและหนาวไปกับเธอ, เฮีย George Clooney แม้ตัวจะอยู่กลางอวกาศที่ดูหนาวเหน็บ แต่พี่แกนำความอบอุ่นมาสู่จอได้

Effect ภาพอวกาศมันเวิ่งว้าง พอถึงฉากระเบิดหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันก็ชวนให้เราตื่นตาไปกับภาพตรงหน้า และดึงดูดให้อยากติดตามไปจนจบ อยากรู้ว่าเรื่องมันจะไปลงเอยที่ตรงไหน

ระหว่างดูก็เกร็งอย่างแรง ตอนไหนตัวละครหลุดจากฐานหรือยานลอยไปในอวกาศ เราแอบกำหมัดจิกตัวเองโดยไม่รู้ตัว รู้สึกเหมือนเราไปลอยอยู่กลางอวกาศกับเขาด้วย…

… เพียงเห็นภาพตรงหน้า ก็สะท้านมาถึงข้างใน

คนกลุ่มหลังจะรู้สึกว่าอะไรๆ มันลงตัว มันได้อารมณ์ มันสดใหม่ ทั้งหมดนี้หลอมรวมจนทำให้ Gravity ไม่เรียกว่า “หนังดี” ไม่ได้แล้ว

สรุปว่า Gravity ดี-ไม่ดี, สนุก-ไม่สนุก จึงตอบและรับรู้ได้เฉพาะคน

คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมอยู่ในกลุ่มแรกหรือกลุ่มหลัง

หนังคว้าออสการ์ไป 7 ตัว ได้แก่ รางวัลกำกับภาพ, ตัดต่อ, Effect, มิกซ์เสียง, ตัดต่อเสียง, งานดนตรี (ที่ Steven Price คุมอารมณ์หนังเหมือนสั่งได้) และผู้กำกับ Alfonso Cuarón ซึ่งทั้งหมดนั้นสมควรได้จริงๆ ครับ อะไรต่อมิอะไรมันได้ที่เหลือเกิน

หนังเรื่องนี้ไม่ต้องรีบดูครับ แต่ขอให้ได้ลองดูสักหนหนึ่ง…

ลองเอาตัวเราไปอยู่กลางอวกาศ ที่ซึ่งมีเพียงตัวเอง ความคิด และความเงียบ… ลองสักครั้งครา

ณ ที่แห่งนั้นเราอาจพบเจออะไรบางอย่าง ได้เห็นอะไรบางสิ่งชัดขึ้น

ไม่ได้หมายถึงจักรวาลนะครับ แต่หมายถึง เห็นตัวเอง

ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างอวกาศกับตัวตนของเรา อะไรอยู่ไกลกว่ากัน

สามดาวครับ

Star31

(8/10)