รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

When A Stranger Calls (1979) ต้นฉบับของ “โทรมาฆ่า อย่าอยู่คนเดียว”

41seRA4j9UL

ผมเคยรีวิว When A Stranger Calls ฉบับรีเมคที่ Camilla Belle แสดงไปเมื่อนานมาแล้วน่ะนะครับซึ่งรีวิวนั้นก็ออกแนวบ่นซะมากกว่า (555) เพราะเวอร์ชั่นนั้นออกแนวเรื่อยๆ แล้วผมก็ตามหาเวอร์ชั่นต้นฉบับเรื่อยมาครับ เนื่องจากได้ยินว่าเด็ด ซึ่งก็ต้องขอบคุณ Youtube ล่ะครับ ที่ช่วยให้ฝันเป็นจริง (ใครสนใจ ลองตามไปหาดูได้นะครับ น่าจะยังมีอยู่)

และพอดูเสร็จก็ได้คำตอบทันทีว่า “มันเด็ดจริงแท้เลยเน้อ”

ปรากฏว่าเนื้อเรื่องที่เราเห็นในฉบับรีเมคนั้นเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของต้นฉบับครับ เพราะในเวอร์ชั่นรีเมคเนื้อเรื่องมันจะวนอยู่แค่พี่เลี้ยงสาวสวยคนหนึ่ง โดนคนโรคจิตโทรก่อกวนจนเธอตื่นกลัว แล้วก็วิ่งวนวิ่งล่าในบ้านจนหนังจบ แต่สำหรับต้นฉบับนี้ การโทรก่อกวนเป็นแค่เหตุการณ์เริ่มต้นเท่านั้นครับ

จิลล์ จอห์นสัน (Carol Kane) สาวน้อยที่ถูกคนโรคจิตโทรมาสั่นประสาท ขณะเธอกำลังทำหน้าที่พี่เลี้ยงลูกของคุณหมอแมนดาคิส (Carmen Argenziano) ว่ามันกำลังจ้องมองเธออยู่ ว่ามันอยู่ในบ้านหลังนั้น อีกทั้งมันยังถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “Have You Checked the Children?” ราวกับว่ามันกำลังจะทำร้ายลูกๆ ของคุณหมออย่างนั้นแหละ… ซึ่งประเด็นคือมันไม่ได้ขู่อย่างเดียวน่ะสิครับ

เนื้อเรื่องถัดจากนั้นผมไม่ขอเล่าดีกว่าครับ จะได้ไปติดตามตื่นเต้น และลุ้นกันเอาเอง บอกได้แค่ว่าเนื้อเรื่องข้างบนนั้นเป็นแค่ตอนเริ่มต้นครับ ถัดจากเหตุการณ์ในบ้านก็ยังมีเรื่องราวการตามสืบตามล่าอีกพอตัว ซึ่งก็จัดว่าเข้มข้นใช้ได้เหมือนกัน

สำหรับที่มาของหนังเรื่องนี้นะครับ ก็เกิดจากเรื่องเล่าสไตล์ Urban Legends ของอเมริกาเกี่ยวกับฆาตกรโรคจิตที่คอยโทรศัพท์ไปกวนประสาทพวกพี่เลี้ยงสาวๆ ก่อนจะลงมือสังหารเด็กหรือพี่เลี้ยงอย่างสยดสยอง ซึ่งเรื่องนี้ก็เตะตา Fred Walton คนทำหนังนายหนึ่งที่กำลังอยากได้บทหนังดีๆ มาแจ้งเกิดให้ตัวเองพอดี

เขาเลยจับเอาตำนานมาเขียนเป็นบทครับ แล้วก็ทำออกมาเป็นหนังสั้น ความยาวประมาณ 20 นาที (ซึ่งก็คือ 20 นาทีแรกของหนังนั่นเอง) และตั้งชื่อว่า The Sitter แต่ทีนี้พอดีว่าหนัง Halloween ที่มีแนวทางคล้ายๆ กันสามารถทำเงินทำทองได้อย่างมากมาย จน Walton ตัดสินใจจะทำหนังเรื่องนี้ให้เป็นหนังโรงเลยครับ เลยจัดการหาทุนและถ่ายทำต่อจนจบ โดยขอแรง Steve Feke ให้มาช่วยคิดบทต่อด้วย และแล้วผลที่ได้ก็ออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ในที่สุด

ยอมรับครับว่าฉบับนี้ลงตัวกว่าฉบับรีเมคมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะฉบับรีเมคนั้นเอาแค่เรื่องส่วนที่เจ้าโรคจิตโทรมาก่อกวนพี่เลี้ยงในบ้าน แล้วก็พยายามลากยาวเล่าให้มันครบเวลา จึงทำให้มีส่วนอืดๆ ยืดๆ เยอะมาก แต่เวอร์ชั่นต้นฉบับนี่เล่าตรงประเด็นแบบฉับๆ เลยครับ เรื่องส่วนที่จิลล์เจอมันโทรมาหลอนน่ะมีแค่ 20 นาทีนิดๆ เท่านั้น ถัดจากนั้นมาก็มีการสืบสวนตามล่าไอ้บ้าคนนี้ ก่อนจะมาขมวดปมอีกทีในช่วงท้าย ที่ทำได้ระทึก และน่าจะทำให้ใครหลายคนหลอนได้เลยล่ะครับ ผมเองยังติดตากับซีนสุดท้ายอยู่เลย นำเสนอภาพปิดเรื่องได้หลอนดีจริงๆ

maxresdefault

จุดที่เด็ดอีกอย่างคือความระทึกครับ หนังทำได้ถึงจริงๆ อย่างตอนจิลล์โดนมันโทรมาหลอนนั้น บรรยากาศในบ้านมันชวนอึดอัดจริงๆ นะครับ ดนตรีประกอบยังมาบิลด์แบบได้ผลอีกต่างหาก หรือซาวน์ประกอบ พวกเสียง “กริ๊งงง” หรือเสียง “ตื้ดดดด” ของโทรศัพท์น่ะ สร้างอารมณ์ผวากำลังเหมาะเลยล่ะครับ

ก็แนะนำเลยครับ สำหรับคนชอบหนังหลอนประสาท ระทึกแบบไม่เหนือธรรมชาติ (กล่าวคือ เหตุสยองในเรื่อง เกิดจากคนที่มีอาการทางจิตล้วนๆ) น่าจะถูกใจนะครับ แม้หนังจะเก่าแต่ลีลาการเล่านั้น น่าปรบมือและยังระทึกไม่สร่างครับ

ตัวหนังเองก็ดังไปพอตัวตอนออกฉายครับ ลงทุนประมาณ 7 แสนต้นๆ ทำเงินคืนมาประมาณ 21 ล้านเหรียญครับ นับว่ากำไรไม่น้อย และตัวหนังเองก็ยังได้รับคำชมไปพอตัว อีกทั้งยังแจ้งเกิดให้ผู้กำกับ Walton ได้สมใจครับ ทำให้เขาได้กำกับหนังอย่าง April Fool’s Day ในเวลาต่อมาด้วย แต่เรื่องนั้นก็ไม่เด็ดเท่าเรื่องนี้หรอกครับ

สิ่งที่หนังทำสำเร็จอีกอย่างคือ ทำให้เราหลอนตอนประโยค “Have You Checked the Children?” โผล่ขึ้นมาครับ ได้ยินทีไรให้เกิดความผวาขึ้นมาทุกที

ระทึกเข้มข้นแบบนี้ ต้องสองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)