มาครับ ใกล้ปีใหม่จะหมดปีเก่าแล้ว ผมก็จะยังตั้งหน้าเอาหนังที่มันดูแล้วเพลินเพลินเจริญใจมาเล่าให้ฟังนะครับผม (หนังสยองเก็บไว้ปีหน้าโน่น 555)

และนี่ก็เป็นหนังเก่าในช่วงรุ่งเรืองยุคแรกๆ ของชายที่ชื่อ โจวซิงฉือ ตอนนั้นถ้าจำกันได้ รู้สึกพี่แกจะเอาตัวละครแทบทุกตัวในนิยายจีนที่ดังๆ น่ะนะครับมาเล่นหมด จะอุ้ยเสี่ยวป้อ, ถังไป่หู่, หงอคง หรือจะยาจกซู เอามาเล่นสนุกเลยครับ แล้วตอนนั้นมันก็ออกมาฮาดีด้วย ทีนี้ช่วงนั้นท่านเปาก็โด่งดังเหมือนกันครับ พี่โจว ของเราก็เลยมีท่านเปากะเขาบ้าง

เปาหลงซิง (พี่โจวของเรานั่นเอง) ผู้สืบเชื้อสายจากท่านเปาบุ้นจิ้นโดยตรง แต่พี่แกไม่ได้มีความยุติธรรมหรอกครับ ดำรงตำแหน่งแค่ขุนนางขั้น 9 เป็นรองนายอำเภอต๊อกต๋อยที่เห็นแก่เงินเป็นหลัก ว่าคดีแต่ละทีหากมีเงินทองมากองให้ก็จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ทุกรอบจนชาวบ้านชาวเมืองเกลียดกันถ้วนหน้า

แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้เกิดคดีฆาตกรรมล้างตระกูลขึ้น พยานผู้รอดชีวิตมีเพียงคนเดียว นั่นคือ อาเลี่ยน (จางเหมี่ยน) นางถูกทำร้ายและขืนใจโดยฉางเวย (Collin Chou) ลูกชายเจ้ากรมนาวี ฉางเกิน (กุ๊ฟง, Ku Feng) คดีนี้ใหญ่ครับ อาซิงเองก็อยากจะตัดสินคดีอย่างขาวสะอาดซักครั้งในชีวิตก็เลยสู้หัวชนฝา แต่ทำไงได้ล่ะครับเล่นไปงัดข้อกับเจ้ากรมนาวี ก็เลยโดนเล่นซะเอง ทั้งโดนถอดแล้วก็โดนจำคุกด้วยซ้ำทำให้เขากับเลขาคนสนิท (ใครจะรับบทนี้นอกจาก อู๋ม่งต๊ะ ล่ะครับ 555) ต้องหลบหนีออกจากคุกแล้วก็หาทางล้างมลทินให้ตัวเองและนำความเป็นธรรมคืนให้กับคนที่ต้องตายไป

แล้วเรื่องราวมันจะไปทางไหน อันนี้แนะนำให้ดูเพื่อคลายความเครียดได้เลยครับ

ลองว่าหนังของ โจวซิงฉือ ล่ะรับประกันความฮาได้ล่ะครับ แม้จะมีช่วงที่หนังแกเริ่มฝืดๆ ก็เหอะ แตเรื่องนี้ยังอยู่ในระยะฮาหายห่วง ความสนุกของตัวหนังเองก็เยอะอยู่แล้วนะครับ แล้วยังดีที่ได้ทีมอินทรีดั้งเดิมมาพากย์ด้วย คือตอนมันเข้าโรงรอบแรกนั้นก็ทีมนี้แหละครับ ผมล่ะโคตรติดใจจนต้องซื้อเก็บเลยเพราะพวกพี่แกพากย์ได้บ้ามาก ฮาโคตร แล้วก็โชคดีเป็นสองชั้นตอนผมซื้อฉบับแผ่นมาเก็บก็ได้เวอร์ชั่นเดิม ก็ฮากันตกขอบล่ะครับ

ส่วนเนื้อหาสาระก็ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันหรอกครับ แค่เหมือนเอาเหตุการณ์มาใส่ๆๆ เดินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เท่านั้นเอง เน้นฮากันเป็นหลัก แต่ถึงอย่างนั้นนะครับ ก็ยังไม่วายมีฉากให้อึ้งเหมือนกัน อย่างตอนที่อาเลี่ยนโดนลากออกไปจากศาลหลังจากโดนหาว่าเป็นคนฆ่าคนทั้งตระกูล แล้วเลือดก็เกลื่อนพื้นนี่นับว่าแรงเลยล่ะครับ ดูแล้วเข้าใจเลยครับว่าทำไมอาซิงจึงสาบานว่าจะคืนความเป็นธรรมให้นางให้ได้ ฉากที่ว่านี่พี่โจวเองก็เล่นได้ดีมากเหมือนกัน

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับความยุติธรรม การฉ้อฉลและอิทธิพลชั้นสูงนั้น หนังก็ด่าแบบตรงๆ ซัดแบบแรงๆ ไม่มีอ้อมค้อมทั้งสิ้น ก็สะใจกันไปล่ะครับ

ทีมนักแสดงนั้รครบทีมฮาของ อาซิง อยู่แล้วล่ะครับ ทั้งพี่โจวหรือจะลุงอู๋แล้วก็จางหมิ่น แล้วก็ตัวประกอบหน้าคุ้นทั้งหลายในหนังพี่โจวเขา ซึ่งพวกนี้เล่นฮากันได้เข้าขาอยู่แล้วล่ะครับ จริงแค่ดู พี่โจว แกต่อปากกับ ลุงอู๋ นี่ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว มันต่อมุขกันได้ฮามากๆ แล้วมุกนี่ยิงเพียบครับจะลามกจะเสียดสี ฟังกันฮากลิ้งอ้ะ อันนี้ก็ชมทีมพากย์ด้วยครับ มุกเด็ดที่สุดจนผมยกให้เป็นหนึ่งในการพากย์ครั้งที่ดีที่สุดของทีมอินทรีเลยล่ะครับ ฮาเบรคแตกขนานแท้

ส่วน จางเหมี่ยน ก็เล่นได้น่าสงสารมากๆ ครับ แววตาท่าทางดูเป็นผู้รับเคราะห์จริงๆ ในขณะที่วายร้ายอย่าง Collin Chou ก็ร้ายโคตรๆ ครับ น่าถีบมาก ดูเป็นลูกนักการเมืองที่ชั่วช้าได้สมบทบาทเหลือเกิน พี่ท่านคนนี้ในเวลาต่อมาก็โกอินเตอร์ไปเป็น เซราฟ องครักษ์ชุดขาวผู้พิทักษ์เทพพยากรณ์ใน The Matrix สองภาคหลัง แล้วก็เล่นใน DOA ด้วยครับ ขานี้ก็เล่นได้เยี่ยมจริงๆ

แล้วยังมีดาราสมทบอย่าง จงลี่ถี (หรือ คริสตี้ ชุง) กับ เหลียงหย่งจง มารับบทเป็นสองพี่น้อง ลี่ฟง กับ ฟงลี่ (ตอนเปิดตัวสองคนนี้แล้วต่างคนต่างก็แนะนำตัวสลับกันไปมานี่ก็บ้าเหมือนกันครับ) แล้วก็มี ไช่เส้าเฟิน มารับบทเป็นนางงามของหออันดับหนึ่งในเมือง แต่รายที่บ้าสุดหนีไม่พ้นแม่เล้าของหอนี่แหละครับ รับบทโดย เยิ่นสงตัน คือหนังฮามากที่กำหนดให้เจ๊แกเป็นคนปากตลาด ด่าแหลกจนไม่มีใครสู้ ทำให้ อาซิง หลังจากหลบหนีมาก็ต้องมาซ่อนตัวที่หอนี่ แล้วก็ต้องไปฝึกวิชาการใช้ลิ้นใช้ปากด่าชาวบ้านจากเจ๊คนนี้นี่แหละครับ จะได้เอาไปสู้กับพวกทนายวายร้ายได้ (จะได้เถียงทันคนอื่นน่ะว่างั้นเถอะ) เลยมีการฝึกวิชาครับ ไอ้มุกอันนี้ก็บ้าพอกัน

จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือ มันฮาทั้งเรื่องครับ มีช่วงให้อึ้งในเชิงดราม่าบ้าง แล้วจากนั้นก็ฮาต่อเนื่อง อันนี้ก็ชมหมดทุกคนแหละครับ หนังกำกับโดย พี่หวังจิ้ง เจ้าเก่า ไฮไลท์ของหนังมาอยู่ตรงไคลแม็กซ์นี่แหละครับ คือมีการตัดสินคดีในศาล แต่มันจะมีทนายจอมเจ้าเล่ห์โผล่มาด้วย เปาหลงซิงก็ต้องหาทางรับมือโดยการเถียงกลับไป ช่วงที่ว่านี่ท่านฮาได้ไม่เว้นวรรคล่ะครับ ไม่รู้มันสรรหาบ้าบออะไรมาด่ากันขนาดนั้น เชื่อเถอะครับผมไม่เคยขากรรไกรค้างขนาดนี้มาก่อนเลย

เอาเป็นว่านะครับ อยากดูหนังคลายเครียด เชื่อเถอะครับเรื่องนี้โคตรๆ ฮาตลอด แต่อาจไม่เหมาะกับเด็กนะ เพราะมีมุกหยาบๆ อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าท่านเป็นผู้ใหญ่ล่ะสบายครับ ฮาโคตรๆ ดูได้เลยไม่ต้องคิดมากครับ เอามาดูให้หายเครียดกันไปเลยครับ

เรียกว่าหนังก็ดี แล้วทีมพากย์ก็ลงตัวด้วย (ของเดิมที่พากย์โดยอินทรีน่ะนะครับ)

สองดาวครึ่งบวกๆ สิครับ หนังฮาระดับนี้น่ะ

(7.5/10)