หลังจากงาน Rush Hour ภาคแรกดังแล้ว ชื่อของเฉินหลงก็ฮ็อตขึ้นมาในบัดดล แล้วทีนี้ก็มีงานสารพัดยื่นเข้ามาครับ และนี่คืองานต่อจาก Rush Hour นั่น
เฮียเฉินกับบทจาง เหวิน องค์รักษ์จากเมืองจีนที่เดินทางมายังอเมริกาเพื่อช่วยเหลือองค์หญิงเพ่ย เพ่ย (Lucy Liu) ที่โดนหลู่ฟาง (Roger Yuan) จับมาเรียกค่าไถ่ และที่นี่เองเขาได้เจอกับรอย โอ แบนนอน (Owen Wilson) โจรปล้นรถไฟจอมต๊อง แล้วทั้งคู่ก็จับมือกันเพื่อช่วยเหลือองค์หญิง
หนังเหมือนจะตามรอยความสำเร็จของ Rush Hour นะครับ แล้วดูเหมือนจะเป็นการแก้ตัวของค่าย Buena Vista ด้วย เพราะแรกเริ่มเดิมทีนั้น บทหนัง Rush Hour ได้ถูกเสนอไปยัง Disney ก่อนเพื่อน แต่ที่นั่นดันปฏิเสธครับ แล้วยังบอกอีกว่าทุนสร้าง 30 ล้านของ RH นั้นเยอเกินไปสำหรับหนังที่มีแต่ดาราโนเนมจากฮ่องกง แล้วเป็นไงครับ RH โกยไป 140 กว่าล้าน ทาง Buena Vista (บริษัทใหญ่ของ Disney) ก็รีบตามมาขอคืนดีกับเฮียเฉินเราแทบไม่ทันน่ะสิครับ แล้วก็ทำอันนี้ออกมาอย่างรวดเร็ว
พูดถึงตัวหนังก็ทำออกมาได้ดีครับ น่าติดตามและสนุกสนาน แม้จะยังไม่ลื่นไหลเท่า RH นะ ทว่าหนังก็ดูสนุกดีครับ ไม่ผิดหวังหรอกครับผม อีกอย่างหนังยังแทรกแง่คิดเกี่ยวกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้อย่างดีทีเดียว โดยเฉพาะที่จางเหวินพูดว่า “แม้พระอาทิตย์จะขึ้นจากแผ่นดินที่เรามา แต่มันมาตกที่นี่” ก็แปลว่า ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในจีนอีกแล้วครับ เขามาอยู่ที่นี่ อเมริกาซึ่งมันเป็นอีกวัฒนธรรมที่เขาต้องยอมรับมันแล้ว แต่ผมก็คิดในอีกแง่จากคำพูดนี้นะครับว่า วัฒนธรรมแม้จะต่างกันแต่มันก็อยู่ใต้ฟ้าเดียวกันอยู่ดีนั่นแหละ
พี่เฉินก็เล่นได้ฮาและได้แสดงความสามารถหลากหลายขึ้นกว่าใน Rush Hour ครับ อย่างไอ้ฉากใช้เชือกผูกกับเกือกม้าเป็นอาวุธนั่นถือว่าโชว์ฟอร์มเลยครับ ราวไปถึงฉากบู๊ก็ออกจะจริงจังกว่าใน RH มากทีเดียว ตัวหนังจะว่าไปมันก็จริงจังด้วยนั่นแหละครับผม แต่เป็นไปในโทนฮาๆ มากกว่าจะเป็นหนังตะวันตกแบบเต็มตัว
แต่หนังก็กัดเชิงคารวะหนังตะวันตกหลายเรื่องนะครับ เช่นชื่อจางเหวินนั่นก็เป็นคำแผลงมาจาก John Wayne หรือ ชื่อของเจ้าหน้าที่ตัวร้าคู่แค้นของรอยที่ชื่อ เนธาน แวน คลีฟ (ที่ Xander Berkeley แสดง) ก็เอานามสกุลมาจาก Lee Van Cleef ดาราหนังคาวบอยเช่นกัน
Owen Wilson ก็กวนตีนถึงใจครับ ฉากฮาเยอะพอตัว แม้พี่แกจะไม่บ้าเท่า Chris Tucker ก็ตาม (ไอ้นั่นมันเสียสติแล้วล่ะครับ) แต่ก็บ้าแบบต๊องๆ อย่างตอนที่เขาต้องดวลปืนกับเนธานแล้วในหัวก็คิดเรื่องบ้าๆ เป็นคุ้งเป็นแควนั่นก็บอกถึงความต๊องได้เยอะแล้วล่ะครับ
ส่วนดาราหญิงอย่าง Lucy Liu ก็ไม่ได้เด่นมากนัก แค่วางท่านิ่งๆ แต่คนที่ได้ใจและขโมยความเด่นกลับเป็น Brandon Merrill สาวอินเดียนแดงที่น่ารักโคตรๆ และยังแกร่งอีกด้วย ผมว่าเธอเด่นมากๆ เลยล่ะครับ (เพียงแต่เธอไม่เห็นไปเล่นหนังเรื่องอื่นอีกเลยอ้ะ)
สรุปว่าสนุกสนานไม่ผิดหวังครับผม ดนตรีก็ดีเช่นเดียวกัน แต่จะค่อนข้างลงหนักทางอารมณ์มากกว่าใน RH น่ะครับ
สองดาวครึ่งน่ะสิครับ
(7/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Comedy