Comedy

Pretty Woman (1990) ผู้หญิงบานฉ่ำ

1558908366.01.LZZZZZZZ

หนังเรื่องดังที่แจ้งเกิด Julia Roberts ด้วยบทวิเวียน หญิงขายบริการริมถนนผู้มีจิตใจงดงาม เธอได้พบเจอกับ เอ็ดเวิร์ด ลิวอิส (Richard Gere) นักธุรกิจหนุ่ม ซึ่งเมื่อเขาได้รู้จักเธอมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชอบเธอมากเท่านั้น สุดท้ายก็รักกันน่ะแหละฮะ

ด้วยสูตรแบบซินเดอเรลล่า (ประเภทว่าหญิงจนๆ ได้พบกับหนุ่มรวยๆ แล้วก็รักกันน่ะครับ ถ้าบ้านเราเรียกว่า น้ำเน่า) ซึ่งเป็นสูตรที่ถูกใจผู้ชมส่วนใหญ่อยู่แล้ว ตัวหนังก็ดูสนุกครับ เจ๊ Julia ฉายเสน่ห์แบบสุดๆ สวย ฉลาด เซ็กซี่ มีครบ พระเอกไม่รักก็ไม่ไหวแล้วล่ะครับ ส่วน Gere ก็เรื่อยๆ ครับ เคมีเข้ากับเจ๊ Julia ได้ดี แต่ก็โดนเจ๊แกขโมยความเด่นไปหลายครั้งเหมือนกัน

ถึงกระนั้นก็เหอะ ต้องยอมรับครับว่าคู่นี้ขึ้นจอแล้วเหมาะสมกันแบบสุดๆ ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากจริงๆ – แล้วว่ากันว่านะครับ ตอนที่ Gere กับเจ๊ Julia มาแสดงทดสอบคู่กันต่อหน้าทีมงานเนี่ย ทุกฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่าเคมีของทั้งคู่เข้ากันแบบสุดๆ แต่แล้ว Gere กลับรู้สึกเหมือนติดๆ อะไรบางอยางในใจ เขารู้สึกเหมือนว่าบทนี้ยังไม่ใช่ และเตรียมจะพูดกับทีมงานอยู่แล้วเชียวว่าขอไม่เล่น

แต่แล้วเจ๊ Julia เธอก็เดินมาหาเขา พร้อมเขียนโน้ตเล็กๆ ส่งให้เขา โน้ตนั้นเขียนว่า “please say yes”เท่านั้นล่ะครับ Gere เปลี่ยนความรู้สึกทันที และตอบตกลงในบัดดล

แล้วความกลมกล่อมทั้งหลายนี่ก็ต้องชมผู้กำกับ Garry Marshall ด้วยครับ ที่คุมหนังได้ดี ลงตัว และโรแมนติกซะขนาดนี้ – แล้วทุกท่านยังจำบท บาร์นี่ย์ พนักงานโรงแรมแสนดีที่แสดงโดย Hector Elizondo ได้ไหมครับ ทราบไหมครับว่าตอนถ่ายทำน่ะ Marshall อยากให้ Elizondo มารับบท (เพราะ 2 คนนี้ทำงานร่วมกันเป็นประจำอยู่แล้ว) แต่ทาง Disney กลับบอกว่าจากทุนสร้างน่ะมันไม่พอนะ ไม่มีงบสำหรับจ่ายค่าตัวให้ Elizondo หรอก

แล้วไงรู้ไหมครับ – ปรากฏว่า Marshall ควักกระเป๋าเอาเงินตัวเองนี่แหละจ่ายเป็นค่าตัวให้กับ Elizondo ไปเลย – ต้องยอมรับครับว่าใจของเขานี่หนักแน่นจริงๆ

หนังอาจจัดว่าน้ำเน่านะครับ แต่ดูแล้วเพลิน อิ่มอกอิ่มใจ แฝงอะไรๆ ที่มัน Feel Good ลงไปด้วย จนไม่แปลกใจเลยที่หนังจะฮิตถล่มทลาย ทำเงินทั่วโลกไปกว่า $463 ล้าน ส่วนเงินลงทุนนั้นเพิ่งจะ $14 ล้านเท่านั้นครับ เรียกว่าโกยกระหน่ำดังระเบิดจริงๆ

และพอลองว่ารายได้กระหน่ำขนาดนี้ เงินส่วนที่ Marshall จ่ายเป็นค่าตัวให้ Elizondo นั้น Disney ก็ยอมจ่ายคืนให้เขาแบบเต็มจำนวนครับ

ส่วนเจ้าของไอเดียเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้คือ J.F. Lawton ครับ ซึ่งเขานั้นได้รู้จักกับหญิงขายบริการคนหนึ่ง แล้วก็ได้แรงบันดาลใจเอาเรื่องราวของเธอมาเขียนบวกด้วยพล็อตแบบซินเดอเรลล่ามาใส่ลงไป และตอนแรกหนังเรื่องนี้จะใช้ชื่อว่า $3,000 (ตามจำนวนเงินที่เอ็ดเวิร์ดจ่ายให้กับวิเวียน) แต่สุดท้าย Disney ก็ขอเปลี่ยนเป็น Pretty Woman ตามชื่อเพลง Soundtrack ที่ถูกใส่ลงมาเป็นเพลงหลักของหนัง – อีกอย่างคือจริงๆ ตามบทหนังดั้งเดิม เรื่องราวจะจบลงแบบไม่แฮปปี้ครับ (จริงๆ คือมันออกจะ Dark Ending เลยด้วยซ้ำ) ทาง Disney เลยขอร้องให้ Lawton เปลี่ยนตอนจบให้เป็นแบบแฮปปี้แทน แล้วเราก็ได้ตอนจบแบบในหนังมาครับ

ส่วนบทเอ็ดเวิร์ดนั้น ก่อนที่จะมาลงเอยที่ Gere ก็เคยมีดาราอย่าง Christopher Reeve, John Travolta, Sylvester Stallone, Harrison Ford, Bruce Campbell, Christopher Lambert และ Al Pacino มาลองแคสครับ แต่ก็ไม่มีใครเหมาะเท่า Gere

ส่วนบทวิเวียนนั้น ก็มีการแคส Drew Barrymore และ Winona Ryder แต่ Marshall ก็รู้สึกว่า 2 คนนี้ยังเด็กเกินไปสำหรับบท แล้วคนถัดมาที่เกือบจะได้บทไปก็คือ Diane Lane ครับ แต่เนื่องจากเธอติดถ่ายหนังเรื่องอื่นพอดี เลยจำเป็นต้องบอกปัดไป และดาราคนอื่นๆ ที่เคยถูกเล็งไว้ก็ยังมี Uma Thurman, Jennifer Connelly, Jodie Foster และ Valeria Golino ครับ โดยเฉพาะคนหลังนี่คือเกือบแบบสุดๆ เรียกว่าเข้ารอบสุดท้ายตีคู่มากับ Julia Roberts เลย แต่ในที่สุดเจ๊ Julia ก็มาวินและได้บทไปครับ

และว่ากันว่าคู่ดาราที่ผู้บริหารของ Disney ในตอนนั้นอยากให้มาแสดงคู่กัน คือ Sean Connery และ Meg Ryan ครับ

ก่อนจบขอปิดท้ายด้วยประโยคในเรื่องที่ผมชอบมากๆ ครับ นั่นคือตอนท้ายที่เอ็ดเวิร์ดปืนบันไดขึ้นไปหาวิเวียน และพูดว่า “เจ้าชายมาช่วยเจ้าหญิงลงจากหอคอยแล้ว”

วิเวียนเลยตอบไปว่า “… เธอรอช่วยเจ้าชายกลับลงไปต่างหาก”

สรุปง่ายๆ เลยครับ ว่าคอหนังรอมคอมยังไงก็ต้องลองลิ้มหนังเรื่องนี้สักครั้งคราครับ

สองดาวครึ่งบวกๆ ครับ

Star22

(7.5/10)

PPP004

pretty_woman_1990_0-h_2016