ในที่สุดก็ได้ดูสักทีครับกับ กระบี่เย้ยยุทธจักร เวอร์ชั่นแรก (ของฉบับหนังจีนชุด) ที่ได้เฮียโจวเหวินฟะเล่นเป็นเล่งฮู้ชง

อย่างแรกเลยที่ทำก่อนดูคือปรับใจและบอกตัวเองครับว่านี่คือหนังจีนชุดอายุจะ 40 ปีแล้ว ก็เลยต้องมีการทำใจรับสำหรับการเดินเรื่องสไตล์เก่าๆ ที่อาจไม่ฉับไวนัก คิวบู๊ก็ไม่พลิ้วไหวเท่าสมัยใหม่ แล้วก็งานฉากรุ่นเราสู้ ไม่ว่าจะถ้ำแฮนด์เมด น้ำตกทำมือ ฯลฯ อะไรเหล่านี้เป็นไปตามยุคสมัยครับ และจริงๆ สำหรับสมัยนั้นก็ต้องถือว่าทำออกมาได้โอเคแล้วล่ะ

ยอมรับว่าช่วงต้นดูแล้วยังไม่ติดนัก ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ผาไม้ดำ ยาวมาจนถึงช่วงแนะนำเล่งฮู้ชงและตัวละครอื่นๆ ที่หัวซาน อันที่จริงต้องบอกว่าบางช่วงนี่ดูแล้วแอบงงๆ เหมือนกันครับ เหมือนการเล่าเรื่องบางทีก็ดูวนๆ บางทีก็ดูโดดไปโดดมา ยังไม่สมูธนัก แต่สิ่งที่ทำให้ยังดูต่อก็คือเหล่าดาราหน้าคุ้นเคยนี่แหละครับ

มารู้สึกว่าหนังเริ่มจะเข้าที่ก็ตอนหลิวเจิ้นฟง (เยิ่นต๊ะหัว) ประกาศล้างมือน่ะครับ ช่วงนั้นความเข้มข้นก็เริ่มมา ดราม่าเริ่มเกิด แล้วหลังจากนั้นเรื่องก็ถือว่าโอเคขึ้นในระดับดูได้เรื่อยๆ

ครั้นพอได้ดูจนจบผมก็นั่งสงบนิ่งถามตัวเองอยู่พักหนึ่งครับว่ารู้สึกอย่างไร คำตอบที่ผุดขึ้นในใจก็คือ เป็นหนังจีนชุดที่โอเคสำหรับเมื่อ 40 ปีก่อน พลังสำคัญเลยคือเหล่าดาราที่ถือว่าระดับท็อป ตั้งแต่โจวเหวินฟะ, เฉินซิ่วจู (เยิ่นอิ๋งอิ๋ง), ชิเหม่ยเจิน (เยวี่ยหลิงซาน), เจิงเจียง (เยวี่ยปุ๊ฉวิน), ตงเหว่ย (หลินผิงจือ), เยิ่นต๊ะหัว, หลิวตัน (เถียนป๋อกวง), หวงมั่นหนิง (แม่ชีอี้หลิน), กงไหง (ตงฟางปุ๊ป้าย), หลิวเส้าหมิง (เยิ่นหว่อสิง) และ หยางเจ๋อหลิน (จั๋วเหลิ่งซาน)

ในขณะที่ประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องฝ่ายธรรมะและพรรคมารที่มิอาจอยู่ร่วมโลก, วิญญูชนจอมปลอม, การแก่งแย่งอำนาจ และความบ้าอำนาจ, การสรรหาสารพัดเหตุผลมาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตน, ด้านมืดของฝ่ายธรรมะ และด้านสว่างของฝ่ายมาร ฯลฯ ก็ได้รับการนำเสนอในระดับหนึ่งครับ แต่จะยังไม่ถึงกับมีการตีความลงลึกลงซึ้งเท่าฉบับใหม่ๆ ซึ่งอันนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติอีกเช่นกันครับ ถ้าพูดถึงการตีความประเด็นพวกนี้ฉบับใหม่จะตอบโจทย์มากกว่า

ว่ากันตามความรู้สึกแล้ว หนังถือว่าโอเคในระดับกลางๆ ครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะโครงเรื่องของกระบี่เย้ยยุทธจักรนั้นมีความแกร่งอยู่ประมาณหนึ่งอยู่แล้ว โครงเรื่องมันสนุกอยู่แล้วน่ะครับ แต่ถ้าว่ากันถึงการเล่าเรื่องก็อาจจะยังไม่ออกรสแบบเต็มที่ ยังไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร

แล้วระหว่างดูนี่ยอมรับว่าเห็นใจบทของเยิ่นอิ๋งอิ๋งจริงๆ กลายเป็นว่าเธอดูไม่เด่นเท่าที่ควรน่ะครับ – ว่ากันว่าช่วงนั้น TVB พยายามจะดันชิเหม่ยเจินมากกว่า เลยทำให้บทศิษย์น้องเยวี่ยหลิงซานดูมีพื้นที่บนจอเยอะ ดูแล้วก็รู้สึกแบบนั้นอยู่เหมือนกันครับ – แต่นึกไปก็นะ เยิ่นอิ๋งอิ๋งนี่เป็นนางเอกที่โดนลดบทบาทบ่อยมากคนหนึ่งเลยนะ อย่างฉบับปี 2013 นี่ก็โดนเจ๊ตงฟางขโมยความเด่นไปเสียเยอะเชียว

ส่วนของดีนอกจากดาราแล้ว ก็ต้องขอยกให้เพลงเลยครับ เพลง Siu Ngo Kong Woo (笑傲江湖) ที่ร้องโดย Johnny Yip และ Frances Yip ถือว่าไพเราะอมตะอย่างแท้จริง

ถ้าถามว่าน่าดูไหม ก็ต้องแล้วแต่ความชอบล่ะครับ ถ้าใครอยากตามมาดูให้ครบทุกฉบับ (แบบผม) ก็ลองชมกันได้ครับ แล้วก็ต้องอย่าลืมปรับความคาดหวังก่อนดูด้วยนะครับ น่าจะทำให้ท่านรู้สึกคล่องคอกับหนังมากขึ้น

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)