เจ้าชัคกี้โดนเล่นซะร่างกระจุยในภาคก่อน มันก็ยังไม่ยอมตายอีก (ตายยากพอๆ กับพวกโกงกินเลยวุ้ย) คราวนี้ชัคกี้ฟื้นได้อีกก็เพราะทิฟฟานี่ (Jennifer Tilly) อดีตแฟนสาวตอนเขายังเป็นชาร์ส ลี เรย์ ได้ไปปลุกชีพเขาขึ้นมา
และพอชัคกี้ฟื้นเขาเลยตอบแทนด้วยการฆ่าทิฟฟานี่ แล้วก็จับเอาวิญญาณของเธอมาใส่ลงไปในตุ๊กตาซะเลย (ตัวจะได้เท่าๆ กันและทำอะไรบางอย่างได้น่ะครับ อิอิ … นี่ผมไม่ได้ล้อเล่นเลยนะ ) แล้ว 2 ตนนี้ก็ออกเดินทางไปยังหลุมศพของชัคกี้เพื่อที่จะได้ไปเอาเครื่องรางวิเศษที่จะสามารถทำให้พวกเขาเป็นคนได้อีกครั้ง (ทำไมไม่คิดแบบนี้ตั้งแต่ภาคแรกฟะ มัวแต่ไปไล่ฆ่าเด็กอยู่ได้)
ภาคนี้กำกับโดย Ronny Yu (คนที่มาทำ Freddy Vs. Jason นั่นไงครับ) หนังนั้นสนุกและสยองแบบตลกร้ายครับ เน้นเชิงเสียดสีมากขึ้น มีอะไรให้ฮามากขึ้น เอาแค่ตอนต้นนี่หนังก็ล้อหนังสยองเพียบแล้วครับ คือตอนที่ตำรวจเดินไปเอาซากของชัคกี้ในโรงเก็บนั้น เราจะได้เห็นของจากหนังสยองขวัญเรื่องดังมากมาย ตั้งแต่หน้ากากกัปตันเคิร์กของไมเคิล ไมเยอร์ส (จาก Halloween), หน้ากากาฮ็อคกี้ของเจสัน (จาก Friday the 13th), กรงเล็บของเฟรดดี้ (จาก A Nightmare on Elm Street), เลื่อยยนต์ของเลทเธอร์เฟซ (จาก The Texas Chainsaw Massacre) แล้วก็ยังมีพวกเศษหุ่นปีศาจจากหนังชุด Puppet Master อีกต่างหาก
ยังครับมันยังกัดไม่หมด ยังมีอยู่ฉากหนึ่ง จะมีเหยื่อรายหนึ่งที่โดนชัคกี้ฆ่า โดยมีตะปูปักเต็มหัว ซึ่งอันนี้ก็กัดพี่พินเฮดแห่ง Hellraiser แบบเต็มๆ ล่ะครับ (เป็นปีศาจที่หัวมีตะปูปักน่ะครับ) แล้วเจ้าชัคกี้ยังมีหน้าพูดอีกว่า “เราเคยเห็นแบบนี้ที่ไหนมาก่อนหว่า?” กวนจริงๆ เลยครับ ดังนั้นไอ้ตอนดูรอบแรกนั่นผมก็ฮาตลอดล่ะครับ เพราะมันขยันกัดชาวบ้านจริงๆ
ส่วนเรื่องความสยองก็อาจจะไม่มากอะไร แต่ฉากน่ากลัวก็ยังมีครับ เพียงแต่หนังมันเน้นเป็นเชิงตลกร้ายไปมากกว่าจะสยองแบบภาคแรก ก็ถ้าทำใจหน่อยหนังก็สนุกไปอีกแบบครับ ส่วนดาราในภาคนี้ก็ไม่ค่อยน่าสนเท่าตอนก่อนๆ เพราะหนังมาเน้นที่ตัวชัคกี้กับทิฟฟานี่มากกว่านี่ครับ ที่พอน่าจดจำก็มี John Ritter ดารายอดฝีมืออีกรายกับบทกวนโอ๊ยสุดขีด เป็นหัวหน้าตำรวจวอร์เรน คินเคด ที่ติดจะโรคประสาทหน่อยๆ ครับ ทำอะไรบ้าๆ แปลกๆ ตลอด นอกนั้นก็ธรรมดา แม้แต่ดาราสาวที่ผมชอบอย่าง Katherine Heigl ก็ยังออกมาสวยอย่างเดียวมากกว่าครับ ไม่น่าพูดถึงอะไรอื่นอีก
แต่ที่ผมยอมรับอีกประการคือ ตัวละครอย่างทิฟฟานี่เนี่ย มีความลึก เออ ตอนเป็นหุ่นนี่แหละครับ เธอยังมีอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งก็ทำให้ผมอึ้งอยู่เหมือนกันกับสิ่งที่เธอตัดสินใจทำลงไปในตอนท้าย ไม่นึกว่าเธอจะมีมิติขนาดเนี้ยเลยนะ
เอาเป็นว่าหนังสนุกปนสยองครับ สไตล์ล้อเลียนตัวเองน่ะแหละ ถ้าไม่คิดมากดูก็เพลินดีครับ
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Comedy, Horror, Slasher Movies