
ผมเปิดเรื่องนี้ดูแบบแก้เหงาครับ ประมาณว่าเปิดหนังอะไรก็ได้เป็นเพื่อนระหว่างทำงาน ไม่ได้ตั้งใจดูอะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ไปๆ มาๆ หนังดันดูเพลินกว่าที่คาด เรียกความสนใจจากผมได้มากกว่าที่คิด
ผมเปิดเรื่องนี้ดูแบบแก้เหงาครับ ประมาณว่าเปิดหนังอะไรก็ได้เป็นเพื่อนระหว่างทำงาน ไม่ได้ตั้งใจดูอะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ไปๆ มาๆ หนังดันดูเพลินกว่าที่คาด เรียกความสนใจจากผมได้มากกว่าที่คิด
เรื่องราวของ ดาบมังกรหยก ฉบับจอใหญ่ครับ ได้ หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทเตียบ่อกี้ ผู้ทีี่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กเพราะถูกชาวยุทธบีบคั้นให้เผยที่ซ่อนของราชสีห์ขนทองเจี่ยซุ่น
ตอนแรกผมนึกว่า พยัคฆ์ตะลุยพยัคฆ์ หรือ Flying Swords of Dragon Gate เป็นการรีเมค คัมภีร์แดนพยัคฆ์ (Dragon Inn) แต่ไปๆ มาๆ มันเป็นภาคต่อครับ
หนังแอ็กชั่นหมัดมวยของ หลี่เหลียนเจี๋ย หรือ Jet li กับบท ฮั้วหยวนเจี่ย วีรบุรุษชาวจีนที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญกับชาวต่างชาติที่หมายจะมารุกรานอธิปไตยชาวจีน ไม่ว่าจะพวกตะวันตกที่ดูถูกว่าวัฒนธรรมชาวจีนช่างล้าหลัง ตัวก็เล็กจนพากันขนานนามว่าชาวจีนคือขี้โรคเอเซีย
หลังจากเฉินเจียลั่ว (เจิ้นเส้าชิว) ประมุขพรรคดอกไม้แดงรับ ปึงซีเง็ก หรือ ฟงไสหยก (หลี่เหลี่ยนเจี๋ย) เป็นลูกบุญธรรมแล้วก็พาเข้าสู่พรรค แต่เมื่อได้เข้าพรรคแล้ว เขากลับพบว่าแม้แต่ในพรรคเองก็เต็มไปด้วยความขัดแย้ง มีคลื่นทั้งใต้น้ำและบนน้ำ จนในที่สุดเขาจึงต้องลงมือพิทักษ์ความถูกต้องบนแนวทางของตนเอง
เป็นเรื่องราวของ ฟงไสหยก หรือถ้าออกเสียงแต้จิ๋วก็จะเป็น ปึงซีเง็ก น่ะนะครับ โดย พี่หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทนี้ซึ่งก็มีทำออกมา 2 ภาคด้วยกัน
ได้มีการทดลองเพิ่มศักยภาพมนุษย์ในชื่อโครงการ 701 แต่แล้วเมื่อการทดลองถูกยกเลิก ทำให้พวกมนุษย์ทดลองต้องถูกกำจัดทั้งหมด แต่ก็มีหนึ่งในนั้นที่หนีออกไปได้ เขาคือ แบล็คแมสค์ (หลี่เหลียนเจี๋ย) ยอดฝีมือที่สุดในโครงการ
จะว่าไปแล้ว The Expendables 3 ยังถือว่าดูได้ตามสไตล์หนังบู๊ที่มีฉากแอ็กชันเน้นๆ ระเบิดเบิ้มๆ สาดกระสุนถี่ๆ ดนตรีเร้าๆ มุขฮาแทรกเป็นพักๆ เรียกว่าสูตรสำเร็จหนังบู๊ยุค 80 – 90 ถูกนำมายำไว้ในนี้ บวกด้วย Effect ที่ลงทุนอลังขึ้น ตามด้วยดาราขาลุยทั้งระดับตำนานและหน้าใหม่ มาร่วมกันบู๊แบบแน่นจอ
ผมฟินกับ The Expendables 2 ที่สุดในบรรดา 3 ภาคครับ
หลายคนรีเควสท์ให้ผมรีวิวเรื่องนี้ และผมก็คิดเสมอครับว่าถ้าเขียนออกมา มันคงไม่เชิงเป็นรีวิว แต่จะเป็นบทความแนว “คนชราออกมารำลึกความหลัง ตามด้วยการเชียร์ดารานักบู๊ที่เราโตมาพร้อมหนังของพวกเขา”