
เนื่องจากผมไม่เคยสัมผัสเกมมา ก่อนจึงไม่อาจทราบได้ว่า Dead Rising: Watchtower ออกมาเหมือนหรือต่างกับเกมแค่ไหนน่ะนะครับ แต่เท่าที่พอจะบอกได้ก็คือ ถ้าใครชอบดูหนังซอมบี้ เรื่องนี้ก็ถือว่าดูเพลินๆ แก้ขัดได้ในระดับหนึ่ง
เนื่องจากผมไม่เคยสัมผัสเกมมา ก่อนจึงไม่อาจทราบได้ว่า Dead Rising: Watchtower ออกมาเหมือนหรือต่างกับเกมแค่ไหนน่ะนะครับ แต่เท่าที่พอจะบอกได้ก็คือ ถ้าใครชอบดูหนังซอมบี้ เรื่องนี้ก็ถือว่าดูเพลินๆ แก้ขัดได้ในระดับหนึ่ง
หนังเรื่องนี้ออกแนวกึ่งสยอง ระทึก ผสมกับตลกล้อเลียนหนังแนวสัตว์ประหลาดและซอมบี้หน่อยๆ ครับ โดยผู้กำกับ Larry Cohen ที่ชอบทำหนังสยองผสมอารมณ์ขันแปลกๆ อย่างหนังชุดไตรภาค It’s Alive เป็นต้น
ยอมรับว่าระยะหลังมาเนี่ย หากให้เทียบระหว่าง Resident Evil เวอร์ชั่นหนังกับเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นว่าชอบฉบับไหนมากกว่ากันแล้ว ดูเหมือนว่าคำตอบของผมจะเป็นว่า ผมจะสนุกเพลินกับเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมากกว่าทุกทีครับ
หนังเรื่องนี้คือหนึ่งในความผิดพลาดแห่งปีของผมเลยครับ… เปล่าครับ ไม่ใช่ดูแล้วรู้สึกพลาดนะ แต่พลาดเพราะดันไม่ได้ดูต่างหาก (ยังคงรู้สึกเศร้ามาจนถึงทุกวันนี้ 555)
สิ่งแรกที่อยากจะบอกคือ กะไว้แล้วครับว่าพอดูจนจบนะ ยังไงมันก็จะต้องจบแบบปลายเปิด ทิ้งเชื้ออะไรสักอย่างไว้เผื่อทำตอนต่ออีกอยู่ดี แม้ชื่อจะบอกว่า The Final Chapter แค่ไหนก็เถอะ
อันว่าผีห่าอโยธยานั้น ตัวข้าพเจ้าเองก็คำนวณเป็นแม่นมั่นว่าตัวหนังก็คงไม่มีอะไรมากมายนัก หรือความสนุกเองก็อาจไม่ได้มากมายสักเท่าใด ครั้นพอได้รับชมเข้าจริงๆ แล้ว ก็พบว่าการคำนวณของข้าพเจ้านี้ หาได้ผิดเพี้ยนไปจากที่คาดไม่ (555)
ตอนพิเศษของ Doctor Who นะครับ หลังจากตอน The Next Doctor และ Planet of the Dead ยังไม่โดนใจ แต่พอดูตอนนี้เท่านั้นแหละครับ ยกนิ้วปรบมือให้เต็มพิกัดไปเลย เพราะมันสนุก+สยองได้ถึงใจมากๆ