
The Lost City เรื่องนี้ตั้งใจจะดูเพื่อผ่อนคลายเลยครับ ไม่คาดหวังอะไรมาก ขอเพียงดูสนุกเพลินก็พอ แล้วผลที่ได้ก็ตามนั้นครับ
The Lost City เรื่องนี้ตั้งใจจะดูเพื่อผ่อนคลายเลยครับ ไม่คาดหวังอะไรมาก ขอเพียงดูสนุกเพลินก็พอ แล้วผลที่ได้ก็ตามนั้นครับ
ความรู้สึกที่ผมมีต่อ Uncharted อยู่ในระดับไล่ๆ กับ Tomb Raider เวอร์ชั่น Alicia Vikander และอาจจะมากกว่า Tomb Raider เวอร์ชั่น Angelina Jolie ทั้ง 2 ภาคอยู่สักหน่อย… ว่าง่ายๆ คือดูได้เรื่อยๆ แต่ยังไม่โดนใจแบบเต็มๆ น่ะครับ
สำหรับผมการดู The Pirates: The Last Royal Treasure มันได้อารมณ์ 2 in 1 ครับ นั่นคือ ครึ่งแรกออกแนวเรื่อยๆ ครั้นพอถึงครึ่งหลังค่อยรู้สึกว่าสนุกเหมือนกันแฮะ
เรื่องนี้จัดว่าดูได้เพลินๆ เลยครับ สำหรับใครที่โหยหาหนังผจญภัยสำหรับทุกคนในครอบครัวแบบ The Goonies ผมแนะนำเรื่องนี้เลย คือมันอาจจะไม่ได้สุดยอดน่ะนะครับ แต่ดูเอาบันเทิงได้ มีกลิ่นอายความรักในครอบครัว และได้รสความเป็นหนังผจญภัยล่าขุมทรัพย์แบบครบสูตร
ผมรู้จัก Dora ก็เพราะลูกสาวชอบดูครับ เรียกได้ว่าชอบมากเลยก็ว่าได้ นั่งดูต่อๆ กันได้หลายตอนโดยไม่เบื่อ ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างเรานั้นดูแล้วก็อาจจะไม่ได้ชื่นชอบอะไรมาก เนื้อเรื่องดูง่ายๆ จนหลายทีก็ง่ายเกินไป และเรื่องราวแต่ละตอนก็มีสูตรจนเหมือนดูแบบวนลูปอยู่ในที แต่มันก็มีความสุขตรงที่ได้เห็นลูกของเรามีความสุขในการดูนั่นแหละครับ
The Librarians เริ่มต้นจากการเป็นหนังสำหรับฉายทีวีครับ ทำออกมา 3 ภาคโดยมี Noah Wyle แสดงเป็น ฟลินน์ คาร์เซ่น ยอดบรรณารักษ์ที่มีหน้าที่ปกป้องสมบัติมหัศจรรย์ทั่วโลก
รู้ไหมครับว่าผมต้องใช้เวลาราวหนึ่งวันกว่าจะมานั่งเขียนถึงอินดี้ภาค 4 นี่ได้ เพราะตอนดูจบรอบแรกแล้วอารมณ์มันกึ่มๆ ใช้ได้เหมือนกัน
ออกตัวเลยครับว่าไม่เคยอ่านฉบับนิยายมาก่อน จึงไม่สามารถบอกเปรียบเทียบถึงความสนุกได้ และไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเกี่ยวกับหนังเลย (แต่ก็พอจะเดาได้น่ะครับว่านิยายคงสนุกกว่า ตามสูตรอยู่แล้ว)
หนังบู๊ผจญภัยดูเอาเพลินของเฮียเฉินหลงครับ ก็ถ้าให้ว่าแบบอ้อมค้อมเลยก็คือหนังดูได้เรื่อยๆ แบบไม่ต้องคาดหวังอะไร เหมาะกับใครก็ตามที่อยากเพลินกับมุกฮาๆ กับลีลาบู๊แบบเฮียเฉินน่ะครับ
โปสเตอร์ของ Tomb Robber หรือ ล่าขุมทรัพย์ หุบผาทมิฬ ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะได้ดูหนังผจญภัยเข้า “ถ้ำ” ไปหาสมบัติ (เพราะภาพในโปสเตอร์มันคือ “ถ้ำ” ชัดๆ นี่หน่า)