
“พ่อแม่เต้าเต๋อจิง” เปรียบได้ดั่งชา ที่ควรจิบช้าๆ
ลิ้มทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง
ค่อยๆ ให้ธรรมชาติของชา แผ่ซ่านซึมลึกสู่ตัวเรา
“พ่อแม่เต้าเต๋อจิง” เปรียบได้ดั่งชา ที่ควรจิบช้าๆ
ลิ้มทีละน้อย แต่บ่อยครั้ง
ค่อยๆ ให้ธรรมชาติของชา แผ่ซ่านซึมลึกสู่ตัวเรา
ผมอ่านเล่มนี้รอบแรกเพราะเป็นงานที่อาจารย์สั่งครับ แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ก็ติดใจทั้งแง่รสชาติและสาระ จนอ่านจบอย่างรวดเร็ว
ชื่อของหนังสือเล่มนี้ อาจก่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนโดน “ตั้งกระทู้หาเรื่อง” แต่อันที่จริงแล้ว เล่มนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง ในการทำความเข้าใจความเป็น “พุทธ” และยังชี้ชวนให้เราเอาแนวคิดแบบพุทธมาใช้ เพื่อสร้างความสุขและงดงามให้กับชีวิต
ผมเคยเล่าถึง “แห่งความงดงามของชีวิต” ไปแล้วหนหนึ่ง ซึ่งเล่มนั้นกับเล่มนี้มีความคล้ายกัน ตรงที่เป็นหนังสือแนวอ่านให้ตกผลึก ชี้ชวนให้ครวญคิด ก่อนจะผันเป็นเข็มทิศให้เราใช้เป็นแนวทางในการก้าวเดินบนผืนโลก… ก้าวเดินแบบงดงาม เติบโต และมีวุฒิภาวะ
“ปรัชญาประโลมใจ” คือหนังสือแง่คิดปรัชญาที่คัดเอาชีวิตของนักปรัชญาในอดีต 6 ท่านมาบอกเล่า เพื่อให้ผู้อ่านเช่นเรา ใช้เรื่องราวของพวกเขามา “เป็นเครื่องเยียวยาและปลอบประโลมใจของตน”
“แห่งความงดงามของชีวิต เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ที่เหมาะจะอยู่เป็นเพื่อนกับทุกคนในทุกโอกาส และทุกครั้งที่หยิบมาอ่านไม่ว่าจะหน้าที่เท่าไรก็ตาม ความมีชีวิตชีวาก็จะเคลื่อนไหวปลุกใจให้แจ่มใสเบิกบานเมื่อนั้น” อาจารย์โสรีช์ได้กล่าวไว้ที่ปกหลังของหนังสือ… และผมเห็นด้วยทุกประการครับ