
เรื่องนี้ดูแล้วอึ้งครับ คือจริงๆ แล้วก็ได้ยินมาว่าหนังไม่ใคร่จะเวิร์กสักเท่าไร แต่ไม่นึกว่ามันจะจืดได้ถึงขนาดนี้
เรื่องนี้ดูแล้วอึ้งครับ คือจริงๆ แล้วก็ได้ยินมาว่าหนังไม่ใคร่จะเวิร์กสักเท่าไร แต่ไม่นึกว่ามันจะจืดได้ถึงขนาดนี้
ระหว่างดูหนังเรื่องนี้ผมจะนึกถึง Phone Booth เป็นระยะๆ ครับ อาจเพราะทั้งเรื่องนั้นและเรื่องนี้กำกับโดย Joel Schumacher ลีลาบางประการเลยมีความคล้ายคลึงกัน และโทนเรื่องก็ว่าด้วยคนที่ต้องกลายเป็นตัวประกันในพื้นที่จำกัดเหมือนกันด้วย
วิลล์ (Nicolas Cage) และลอร่า (January Jones) คือคู่รักที่หวานแหววจนใครๆ ต้องอิจฉา แต่แล้ววันหนึ่งลอร่าถูกคนร้ายทำร้ายปางตาย นั่นทำให้วิลล์รู้สึกเจ็บแค้นอย่างมากที่ตนไม่สามารถปกป้องเธอได้
แม้หนังระยะหลังๆ ของพี่ Nicolas Cage จะไม่ค่อยเข้าตา แต่ผมก็ยังตามไปดูเสมอครับ อารมณ์เหมือนเป็นคนรู้จักเก่าแก่ที่ติดตามกันมานาน ยังไงใจก็ยังนึกถึงและพร้อมจะแวะไปให้กำลังใจเสมอหากมีโอกาส
เฮียเฉินหลงกลับมาอีกครั้งในหนังวิ่งสู้ฟัดโดยที่คราวนี้เป็นเรื่องราวใหม่ครับ กล่าวคือตัวเอกไม่ใช่เฉินกูกู๋อีกต่อไป (แต่ก็ยังแซ่เฉินอยู่) แต่ก็ยังว่าด้วยภารกิจเสี่ยงตายจับผู้ร้ายของนายตำรวจอยู่เหมือนเดิม
วันก่อนพูดถึงหนังภาคต่อของวิ่งสู้ฟัดที่ไม่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดไปแล้ว มาวันนี้ก็จะขอพูดถึงหนังที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวิ่งสู้ฟัด แต่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดนะครับ
คำนิยามที่เหมาะที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ก็คงเป็น “เอ็กซ์เมนอัพยา” น่ะครับ เพราะในเรื่องเราจะได้เจอคนที่มีพลังพิเศษแตกต่างกันไป แต่ที่มาของพลังนั้นมันคือยาครับ ประมาณว่าเสพแล้วพลังจะบังเกิดอะไรประมาณนั้น
เรื่องนี้สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นหนังของ John Woo ที่ผมชอบน้อยที่สุดครับ
ริค โคแวน (Don ‘The Dragon’ Wilson) อดีตซีไอเอที่หันหลังให้กับชีวิตผาดโผนแล้วผันตัวมาปเนครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เขาพยายามเลี้ยงลูกชาย (John Patrick White) ให้ห่างไกลจากโลกแห่งความรุนแรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
Don ‘The Dragon’ Wilson รับบท จิม ทรูเดลล์ ชายหนุ่มที่โดนใส่ความในข้อหาฆาตกรรม เขาเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหนีเอาชีวิตรอด และหาทางสืบความจริงว่าใครกันแน่ที่ใส่ร้ายเขา และพวกมันต้องการอะไร