
ผมนี่รอชมเลยครับสำหรับสารคดีชุดนี้ที่ว่าด้วยปริศนาการหายตัวไปของ Elisa Lam ที่โรงแรมเซซิล โรงแรมที่มีเรื่องราวน่ากลัวเกิดขึ้นมากมายตลอดหลายปีที่มันเปิดทำการ
ผมนี่รอชมเลยครับสำหรับสารคดีชุดนี้ที่ว่าด้วยปริศนาการหายตัวไปของ Elisa Lam ที่โรงแรมเซซิล โรงแรมที่มีเรื่องราวน่ากลัวเกิดขึ้นมากมายตลอดหลายปีที่มันเปิดทำการ
เป็นหนังที่ตั้งชื่อไทยได้อล้าอลังมากครับ ประหนึ่งเป็นหนังว่าด้วยผู้ก่อการร้ายยึดเมืองแล้วตำรวจต้องมาปะฉะดะก่อนจะเผด็จศึกกัน แต่เอาเข้าจริงเนื้อหาไม่ได้ใหญ่เบอร์นั้นครับ
เกิดคดีฆาตกรรมหญิงสาวคนหนึ่งในบริษัทใหญ่กลางเมืองลอสแองเจลิส ทำให้จอห์น คอนเนอร์ (Sean Connery) และ เว็บสเตอร์ สมิธ (Wesley Snipes) 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกส่งมาเพื่อไขคดี
คิดอยู่พักหนึ่งว่าจะเขียนดีไหม แต่สุดท้ายก็บอกตัวเองว่าเขียนๆ ไปเถอะ 555 ซึ่งก็ต้องออกตัวก่อนว่าผมอาจมองไม่เหมือนคนอื่นเท่าไรนะครับ เพราะดูแล้วหนังเรื่องนี้กระแสดี คนชมเยอะ ซึ่งจริงๆ หนังมันก็มีดีนั่นแหละ เพียงแต่อาจไม่ใช่ทางของผม
ถือเป็นผลงานอีกเรื่องของ Nicolas Cage ที่อาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมเท่าผลงานอื่นๆ ในอดีต แต่ก็ถือว่าพี่เขาได้แสดงฝีมือในระดับที่น่าพอใจครับ
เรื่องนี้ดูแล้วอึ้งครับ คือจริงๆ แล้วก็ได้ยินมาว่าหนังไม่ใคร่จะเวิร์กสักเท่าไร แต่ไม่นึกว่ามันจะจืดได้ถึงขนาดนี้
ระหว่างดูหนังเรื่องนี้ผมจะนึกถึง Phone Booth เป็นระยะๆ ครับ อาจเพราะทั้งเรื่องนั้นและเรื่องนี้กำกับโดย Joel Schumacher ลีลาบางประการเลยมีความคล้ายคลึงกัน และโทนเรื่องก็ว่าด้วยคนที่ต้องกลายเป็นตัวประกันในพื้นที่จำกัดเหมือนกันด้วย
วิลล์ (Nicolas Cage) และลอร่า (January Jones) คือคู่รักที่หวานแหววจนใครๆ ต้องอิจฉา แต่แล้ววันหนึ่งลอร่าถูกคนร้ายทำร้ายปางตาย นั่นทำให้วิลล์รู้สึกเจ็บแค้นอย่างมากที่ตนไม่สามารถปกป้องเธอได้
วันก่อนพูดถึงหนังภาคต่อของวิ่งสู้ฟัดที่ไม่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดไปแล้ว มาวันนี้ก็จะขอพูดถึงหนังที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวิ่งสู้ฟัด แต่ได้ใช้ชื่อไทยว่าวิ่งสู้ฟัดนะครับ
คำนิยามที่เหมาะที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ก็คงเป็น “เอ็กซ์เมนอัพยา” น่ะครับ เพราะในเรื่องเราจะได้เจอคนที่มีพลังพิเศษแตกต่างกันไป แต่ที่มาของพลังนั้นมันคือยาครับ ประมาณว่าเสพแล้วพลังจะบังเกิดอะไรประมาณนั้น