
เรื่องนี้สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นหนังของ John Woo ที่ผมชอบน้อยที่สุดครับ
เรื่องนี้สำหรับผมแล้ว ถือว่าเป็นหนังของ John Woo ที่ผมชอบน้อยที่สุดครับ
ชื่อบอกว่าเป็นภาค 3 แต่เอาเข้าจริงแล้วไม่ได้เป็นภาคต่ออะไรกับโรงเรียนกำจัดผีหรอกครับ แต่เป็นการเอาชื่อหนังที่ขายได้มาใส่ลงไปเพื่อเรียกผู้ชมนั่นเอง (เพราะว่าตามจริงแล้ว โรงเรียนกำจัดผีทั้ง 3 ภาคไม่ได้เป็นหนังภาคต่อกันเลยแม้แต่เรื่องเดียว)
โรงเรียนกำจัดผี หรือ Ghost Busting นั้นถือว่าประสบความสำเร็จครับ ในบ้านเราก็จัดว่าดังพอตัว จนทีมงานจากหนังเรื่องนั้นยกกันมาทำหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะผู้กำกับ Sze Yu Lau, ได้พี่หวังจิ้งมาเขียนบทให้ และนำแสดงโดย เฉินไป่เสียน, ชิวซู่เจิน, จงฟะ, ชาร์ลี เฉา เรียกว่ายกพลจากเรื่องนั้นกันมาเลยล่ะ
ยุคประมาณปี พ.ศ. 2530 กว่าๆ ช่วงนั้นถือเป็นยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูของหนังจีนฮ่องกงเลยครับ มีมาให้ชมเยอะมาก และแต่ละเรื่องก็จะมีความสนุกในแบบของตัวเอง ซึ่งโดยส่วนตัวผมขอจำแนกหนังจีนในสมัยนั้นออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ครับ ประเภทแรกคือออกแนวจริงจัง อย่างหนังดราม่าหนักๆ, แอ็กชันแน่นๆ , กำลังภายในเน้นๆ หรือหนังผีสยองแบบดุๆ อันนี้ก็ถือเป็นประเภทแรก
ปิดตำนานอย่างเป็นทางการแล้วครับสำหรับ Ip Man เวอร์ชั่น Donnie Yen หนังจบแบบจบแน่นอน แต่ก็เป็นไปได้ครับว่าในอนาคตเดี๋ยวก็คงมีคนเอาเรื่องอาจารย์ยิปมาทำใหม่อีกแหงๆ แต่ไว้ถึงวันไหนเราค่อยมาว่ากันครับ
ภาคแยกของ Ip Man นะครับ โดยจับเอาตัวละคร จงเทียนฉี (จางจิ้น) จากภาค 3 มาขยายเรื่องราว
นี่คือยิปมันภาคเดอะ บีกินนิ่งครับ อำนวยการสร้างโดย Kwok Lam Sin หนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง Ip Man ภาคแรก (ฉบับ Donnie Yen) แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นภาคแยกอย่างเป็นทางการ เพราะทีมงานคนอื่นๆ ที่ทำเรื่องนี้เป็นคนละชุดกับฉบับ Donnie Yen ครับ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากองค์ประกอบหลายๆ อย่าง รวมถึงสไตล์บางอย่างจะแตกต่างออกไป
ชื่อไทยของหนังเรื่องนี้ติดหูผมมานานครับ ฟังทีแรกก็สะดุดหูเลย แต่เพิ่งมามีโอกาสได้ดูก็หลังจากดู Ip Man ไปหลายภาคแล้ว ซึ่งผมก็มารู้ตอนดูนี่แหละว่า Wilson Yip แห่ง Ip Man เป็๋นคนกำกับ และพี่ Donnie Yen นอกจากเล่นนำแล้ว ยังเป็นคนกำกับคิวบู๊ด้วย
ไซอิ๋วภาคนี้นี่กลายเป็นภาคที่ผมชอบที่สุดในบรรดา 3 ภาคที่สร้างกันมาครับ ยอมรับว่าคาดไม่ถึงเหมือนกัน ตอนแรกผมคิดว่าตัวเองน่าจะเฉยๆ นะ เพราะจำได้เลยว่าตอนดูไซอิ๋วฉบับเก่าๆ แล้วพอถึงตอนเมืองแม่ม่ายทีไร ผมจะรู้สึกเฉยๆ กับตอนนี้ทุกที มันรู้สึกเหมือนเป็นตอนเบาๆ+เอาฮาน่ะครับ ไม่ได้มีปีศาจให้ปราบ พล็อตไม่ได้ซับซ้อน ปมไม่ได้มากมาย สิ่งที่พวกพระถังต้องรับมือก็คือเหล่าสตรีในเมืองลับแลที่มากกฎเยอะกติกา แต่ละคนนี่ออกแนวหญิงเยอะจนบางทีก็อดรำคาญไม่ได้
จุดหนึ่งที่จัดว่าน่าเสียดายในภาคนี้คือการที่ Donnie Yen ไม่กลับมารับบทซุนหงอคง ซึ่งคนที่มารับบทแทนก็คือ กั๊วฟู่เฉิง (ที่ภาคก่อนเล่นเป็นปีศาจกระทิง) ที่แม้ว่าพี่แกจะแสดงได้ดีอยู่ แต่ในแง่แอ็กชันลีลากังฟูแล้ว ยังไงป๋า Donnie ก็พริ้วกว่าครับ