
Guillermo del Toro’s Cabinet of Curiosities ถือว่าเข้าทางผมครับ ชอบนักล่ะเรื่องสั้นแนวเขย่าขวัญแบบนี้ เรียกว่ารอดูตั้งแต่ประกาศสร้างกันเลยล่ะ และบัดนี้ก็ได้ดูจบครบเรียบร้อยทั้ง 8 ตอน อันได้แก่
Guillermo del Toro’s Cabinet of Curiosities ถือว่าเข้าทางผมครับ ชอบนักล่ะเรื่องสั้นแนวเขย่าขวัญแบบนี้ เรียกว่ารอดูตั้งแต่ประกาศสร้างกันเลยล่ะ และบัดนี้ก็ได้ดูจบครบเรียบร้อยทั้ง 8 ตอน อันได้แก่
นั่งดู Stranger Things ปี 4 จบตั้งแต่เย็นวันศุกร์ที่ลงสตรีม 2 ตอนสุดท้ายครับ ตอนแรกกะดูจบแล้วจะร่ายเลยแบบที่ทำทุกปี แต่พอดูจบปีนี้แล้วก็บังเกิดความรู้สึกหลากหลายผสมอยู่ในใจ จนผมตัดสินใจทิ้งความรู้สึกไว้หนึ่งคืน ให้ความคิดตกตะกอนเรียงตัวว่าตกลงแล้วผมรู้สึกอย่างไรกับซีซั่นนี้บ้าง
ทันทีที่ผมได้ดูตัวอย่างซีรี่ส์นี้ผมก็รอดูเลยครับ เพราะมันน่าจะเข้าทางผมแบบเต็มๆ กับซีรี่ส์แนว Anthology หรือเรื่องสั้น แบบจบในตอน ที่มาพร้อมจินตนาการและเรื่องราวแปลกประหลาด หัวผมนี่ก็นึกไปถึง The Twilight Zone ยิ่งบอกว่าเอาเค้าโครงมาจากเรื่องของ R.L. Stine แล้วด้วย ในหัวก็นึกถึงซีรี่ส์เก่าอย่าง Goosebumps และ The Haunting Hour ขึ้นมาเลย
ในฐานะแฟนหนังชุด The Evil Dead นี่ถือเป็นการรอคอยที่ยาวนานมากครับ กว่าเราจะได้รู้ชัดว่าอีตาแอชแขนเลื่อยยนต์ (Bruce Campbell) มีชะตากรรมเป็นเช่นไร หลังจากเหตุการณ์ใน Army of Darkness (ที่ยังอุตส่าห์มีตอนจบออกมา 2 แบบให้เราเลือกเล่นๆ ซะอีก 555)
ในปีที่ 4 ของ Angel ท่านจะได้พบกับความเข้มข้นแบบสุดๆ ของเรื่องราวครับ เพราะปมทั้งหลายที่พี่ Joss Whedon แกอุตส่าห์ปูไว้ตั้งแต่ปีก่อนๆ จะแปรเปลี่ยนเป็นความมันส์แบบมหึมาในปีนี้นี่แหละครับ
มาต่อกันครับ เรื่องราวของแองเจิ้ล (David Boreanaz) แวมไพร์ผู้มีวิญญาณและคอยปกป้องชาวเมืองแอล.เอ ให้พ้นจากปีศาจชั่วร้ายทั้งหลาย ซึ่งซีรี่ส์นี่ก็ดำเนินมาถึงปีที่สามแล้วนะครับ ซึ่งปีนี้นอกจากจะมีการต่อสู้กับปีศาจทั่วๆ ไปแล้ว ด้านเนื้อหาหลักก็เข้มข้นมากเลยนะครับ
ปีที่ 2 ของซีรี่ส์ที่แตกแขนงมาจาก Buffy the Vampire Slayer กับเรื่องราวของแวมไพร์ผู้มีวิญญาณ นามว่าแองเจิ้ล (David Boreanaz) ซึ่งได้ตั้งบริษัทนักสืบ แองเจิ้ล อินเวสติเกชั่น เพื่อคอยรับทำคดีคนหายและรับหน้าที่ต่อกรกับปีศาจทุกชนิด (ซึ่งไม่ได้มีแต่แวมไพร์ครับ แต่จะมีตัวบ้าอะไรโผล่มาอีกเพียบ)
ยอมรับว่าแอบกลัวเหมือนกันครับว่าปี 3 นี่ควาสนุกจะดร็อปลงมาบ้างไหม แต่ที่ไหนได้ปีนี้กลายเป็นปีที่มันส์ที่สุด สนุกและน่าติดตามที่สุดมากกว่า 2 ปีแรกเสียอีก
ซีรี่ส์ชุดนี้ก็เป็นภาคต่อแยกแตกแขนงออกมาจาก Buffy ครับ เนื้อเรื่องต่อจากตอนจบของ Buffy ปี 3 เลย
เชื่อว่า The Mist ฉบับหนังทำให้หลายคนพูดไม่ออกกับตอนจบของมันก็ จำได้ว่าผมนั่งอึ้งอยู่ในโรงไปพักหนึ่ง แต่ก็พูดได้เต็มปากครับว่ามันเป็นหนึ่งในหนังที่ดัดแปลงจากนิยายของ Stephen King ได้อย่างดีมากๆ เรื่องหนึ่ง