ออกตัวครับว่าไม่เคยอ่านนิยาย แต่ได้ดูหนังมาหลายตอน ได้เจอหูปาอี (จ้าวโหย่วถิง, Mark Chao), เชอร์ลี่ หยาง (Chen Yao) รวมถึงเจ้าอ้วน (Li Feng) หลากเวอร์ชั่น และถึงตอนนี้ก็ยังงงๆ เพราะเรื่องแต่ละเวอร์ชั่นก็มีปมมีประเด็นต่างกันไป
สำหรับ Chronicles of the Ghostly Tribe นี้เล่าเรื่องตอนหูปาอีผจญภัยครั้งแรกๆ เข้าไปสำรวจยังถ้ำปริศนาที่มีร่องรอยของสัตว์ยักษ์จากยุคดึกดำบรรพ์ แล้วก็ได้ไปเจอกับสิ่งก่อสร้างในตำนาน ซึ่งตอนแรกผมก็นึกว่าหนังทั้งเรื่องจะว่าด้วยการผจญภัยไปยังสถานที่แห่งเดียว แต่กลายเป็นว่าหนังผจญภัยจริงๆ เอาตอน 40 นาทีแรกครับ ถัดจากนั้นก็โดดมาเล่าถึงหูปาอีที่ออกจากถ้ำมาได้ จากนั้นก็เล่าถึงชีวิตของเขาในหลายปีต่อมา อันเป็นปมไปสู่การผจญภัยอีกหนในตอนท้ายเรื่อง
สิ่งแรกที่เตะตาคืองานสร้างครับ ถือว่าเกรดเอทีเดียว ไม่ว่าจะภาพถ้ำที่อลังการดูมีรายละเอียด หลายฉากนี่ออกแบบมาได้น่าตื่นตา และ CG ก็เนียนใช้ได้ แล้วก็รวมไปถึงการถ่ายภาพครับ ไม่ว่าจะฉากผจญภัยหรือฉากเล่าเรื่องธรรมดาทั่วไปก็ถือว่าถ่ายออกมาได้สวยพอตัว ดูเป็นหนังเกรดเอที่ลงทุนน่ะครับ
ส่วนอารมณ์ผจญภัยนั้นจริงๆ มันจะไปหนักที่ 40 นาทีแรกมากกว่า เพราะช่วงต้นนี่ได้ผจญภัยแบบจริงๆ จังๆ ในขณะที่ครึ่งหลังนี่หนังออกแนวบอกเล่าชีวิตที่พลิกผันของหูปาอีมากกว่า แม้จะมีฉากโบราณสถานหรือสถานที่พิสดารบ้างแต่ก็ไม่ใช่การผจญภัยแบบครึ่งแรก ยิ่งช่วงท้ายนี่กลายเป็นออกแนวสู้กับสัตว์ประหลาดกินคนไปเลย
ตอนดูจบผมก็นั่งเงียบๆ ถามตัวเองอยู่ในหัวอยู่พักหนึ่งครับว่าตกลงแล้วรู้สึกอย่างไรกับหนัง เพราะมันก็ผิดจากที่คาดไปพอตัว เพราะตอนแรกนึกว่าหนังจะว่าด้วยหนึ่งทริปการผจญภัยของเหล่าตัวละครแบบหนังล่าสมบัติทั่วๆ ไป แต่กลายเป็นว่าหนังมันผสมผสานครับ ครึ่งแรกเป็นแนวผจญภัย ตอนกลางๆ เป็นหนังชีวิตบวกด้วยการตามปมปริศนาไขตำนาน ก่อนที่ตอนท้ายจะกลายเป็นหนังฟัดกับสัตว์ประหลาด
ถ้าถามว่าหนังทำได้ถึงไหม ก็ตอบได้ว่ากลางๆ ครับ คือมันดีเป็นอย่างๆ และยังไม่ถึงเป็นอย่างๆ สำหรับจุดที่เข้าท่าก็อย่างที่บอก คืองานสร้างที่จัดว่าเกรดเอ ดาราก็เล่นกันได้พอเหมาะ อย่างตัวเอกหูปาอีในเรื่องจ้าวโหย่วถิงก็เล่นได้ไม่เลว เพียงแต่บุคลิกลีลาของเขายังไม่เด่นสักเท่าไร
ตอนต้นที่ผจญภัยก็ถือว่าพอได้น่ะครับ พวกความลุ้นความตื่นเต้นน่ะไม่เยอะ เพราะเดาออกได้ไม่ยากว่าใครจะอยู่หรือใครจะตาย รวมถึงแต่ละด่านที่ตัวละครต้องฝ่าก็ไม่ได้มีลุ้นอะไรมากนัก แต่จุดดีคืองานสร้างนี่แหละ อย่างตอนปาอีไต่ลงถ้ำน้ำแข็งครั้งแรกนี่ดูสวยและอลังการใช้ได้
ไปๆ มาๆ ช่วงที่ผมชอบคือตอนกลางๆ ครับ ตอนที่ปาอีค่อยๆ ได้รู้เกี่ยวกับตำนานต่างๆ การเล่าเรื่องช่วงนี้น่าสนใจและเป็นการโหมโรงที่ไม่เลว จนแอบคิดเลยว่าช่วงท้ายนี่จะมันส์นะ เพราะมันเปิดปมและปูตำนานเอาไว้ได้ค่อนข้างดี แต่กลายเป็นว่าตอนท้ายมันไปสุดตรงการสู้กับสัตว์ประหลาดน่ะครับ พวกปริศนาต่างๆ ยังไม่ได้ไข เหมือนหนังปูพื้นไว้สำหรับภาคต่อไป ตอนดูจบเลยรู้สึกห้วนๆ และค้างๆ คาๆ อยู่เหมือนกัน
ถ้าจะต้องสรุปสำนานก็บอกได้ว่าหนังดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้เน้นการผจญภัยมากนักนะ มันคือหนังตำซั่วอยู่ในทีครับ มีหลากแนวรวมอยู่ในเรื่อง ซึ่งถ้าให้พูดตรงๆ ก็คือยังไม่สุดสักแนว แต่ส่วนหนึ่งอาจเพราะผมดูแบบไม่คาดหวังอะไรก็เลยเพลินไปกับเรื่องราว ช่วงต้นก็เพลินไปกับการเดินสำรวจถ้ำอลังการ ส่วนตอนกลางก็เพลินไปกับเรื่องตำนานต่างๆ ที่หนังผูกสร้างขึ้นมา ส่วนที่ออกจะไม่เพลินเท่าไรคือตอนท้ายที่หนังกลายเป็นแนวสัตว์โลกน่ารักไปแทน
ไม่ถึงสองดาวครับ
(5.5/10)