รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Kate & Leopold (2001) เคตและลีโอโพลด์ ข้ามเวลามาพบรัก

Untitled09271

Kate & Leopold คือหนังรักข้ามเวลาที่ถือว่าทำได้น่าพอใจอีกเรื่องหนึ่ง

เรื่องเริ่มต้นเมื่อท่านดยุคลีโอโพลด์ (Hugh Jackman) ที่มีชีวิตอยู่ในปี 1876 ทะลุเวลามาโผล่กลางมหานครนิวยอร์คในยุคปัจจุบัน และที่แห่งนั้นเขาได้พบกับเคต (Meg Ryan) สาวเก่งนักโฆษณาที่ไม่เชื่อเลยว่าลีโอโพลด์มาจากอดีตจริงๆ แล้วสายสัมพันธ์รักระหว่างเขาทั้งสองก็เริ่มก่อตัวขึ้นจนได้

เรื่องนี้พี่ Hugh หล่อมากครับ เป็นสุภาพบุรุษทรงเสน่ห์ มีความอ่อนโยนนุ่มละมุน คือถ้าเปรียบเป็นขนมปังนี่พี่ท่านกลมกล่อมหอมมันนวลนุ่มชุ่มเนย คือดูเป็นผู้ชายไฮคลาสท์ที่หาได้ยากมากๆ ครับ และสำหรับเรื่องนี้พี่เขาเล่นได้ดีจริงๆ สีหน้า แววตา ท่าทางมันแมนและไนซ์สุดๆ จนผมยกให้เป็นจุดเด่นของหนังเลยครับ พี่เขาเลอค่ามากจริงๆ

ส่วน Ryan ก็น่ารักเหมือนเคยครับ แต่รู้สึกเลยว่าพี่ Hugh แกรัศมีเปล่งประกายครองหน้าจอมากกว่า หลายฉากนี่พี่ Hugh กลายเป็นคนประคองดันให้ Ryan ดูเด่นด้วยซ้ำ จุดนี้ยอมรับเลยครับว่าพี่ Hugh แกของจริงจริงๆ

บทสมทบอื่นๆ ก็ถือว่าพอเหมาะตามที่บทจะเปิดโอกาสครับ ไม่ว่าจะ Liev Schreiber ที่จริงๆ ก็น่าจะเด่นนะ แต่กลายเป็นบทรองแบบรองมากๆ ไปเลย กลายเป็นว่า Breckin Meyer ในบทชาร์ลี น้องชายของเคตจะดูเด่นกว่าและขโมยซีนได้มากกว่าในหลายวาระ อีกคนที่ถือว่าน่าจดจำคือ Bradley Whitford ในบท เจ.เจ แคมเดนเจ้านายของเคตที่ได้รับบทเรียนการเป็นสุภาพบุรุษจากลีโอโพลด์ไปหลายกระบวนเหมือนกัน

Untitled09273

อีก 2 คนที่จริงๆ น่าจะเด่นแต่อาจมีพื้นที่ในจอน้อยไปหน่อยคือ Philip Bosco ดาราลายครามผู้ล่วงลับกับบทโอทิส ผู้ดูแลลีโอโพลด์ที่ซื่อสัตย์และรู้ใจเขาที่สุด และ Natasha Lyonne ในบทดาร์ซี่ ผู้ช่วยของเคตที่นอกจากจะให้กำลังใจเธอแล้ว ยังพยายามผลักดันให้เคตทำในสิ่งที่ควรทำอีกด้วย (จนบางซีนแอบขำว่าตกลงใครเป็นเจ้านายกันแน่ 555) และเราจะยังได้พบกับ Viola Davis ในบทเล็กๆ เป็นตำรวจหญิงที่ตั้งท่าจะปรับลีโอโพลด์ครับ

ในแง่การเดินเรื่องตอนต้นๆ นี่ผมว่าเรื่อยๆ ครับ พลังยังไม่เยอะ หรือตอนที่ลีโอโพลด์มาถึงโลกยุคปัจจุบันใหม่q ความน่าสนใจก็ยังไม่เยอะ ต้องรอจนกลางเรื่องน่ะครับ เมื่อลีโอโพลด์ได้มาเจอกับชาร์ลีแล้วก็เริ่มสานสายใยรักกับเคต เมื่อนั้นความน่าสนใจเริ่มไหลมาเทมา โดยส่วนตัวผมชอบตอนกลางๆ ของเรื่องที่สุดครับ หลายอย่างนำเสนอได้อย่างน่าจดจำ ในขณะที่ตอนท้ายอะไรๆ ดูจะรวบรัดเร่งรีบไปบ้าง ตอนสรุปจบเลยออกจะห้วนไปสักหน่อย

โดยส่วนตัวผมว่า James Mangold ในยุคนั้นฝีมือในการกำกับหนังโรแมนติกอาจยังไม่คล่องมือเต็มร้อย เพราะพี่ท่านแจ้งเกิดมาจากหนังแนวดราม่า ไม่ว่าจะ Heavy, Cop Land และ Girl, Interrupted (ซึ่งจริงๆ แล้ว Heavy ก็มีความเป็นหนังรักอยู่บ้าง แต่ดีกรีจะหนักไปทางดราม่ามากกว่า) สำหรับเรื่องนี้ก็อย่างที่บอกครับ ตอนต้นกับตอนท้ายอาจยังไม่สุด แต่ตอนกลางถือว่าน่าพอใจ ซึ่งความดีความชอบส่วนใหญ่ก็เพราะพี่ Hugh นั่นแหละ

ดนตรีของ Rolfe Kent เข้าท่าทีเดียวครับ ได้อารมณ์หนังโรแมนติกผสมกับกลิ่นอายดนตรียุคเก่านิดๆ เข้ากับหนังได้อย่างพอดี และอีกคนที่ขอชมคือผู้กำกับภาพ Stuart Dryburgh (เคยชิงออสการ์จากหนัง The Piano) ที่สามารถจับภาพมหานครนิวยอร์คมานำเสนอได้แปลกตาพอสมควร มันดูมีความเป็นปัจจุบันผสมกับบรรยากาศเก่าๆ น่ะครับ เพราะปกติภาพเมืองนิวยอร์คในหนังเรื่องอื่นมันก็จะดูทันสมัย เป็นเมืองที่ว่องไวและไม่เคยหลับ แต่กับเรื่องนี้เราจะได้สัมผัสกับเมืองนิวยอร์คที่ชีพจรดูจะเต้นช้าลง มีจังหวะพักหายใจ ซึ่งก็น่าสนใจดี

หนังมีฉากน่ารักๆ อยู่พอตัวครับ ที่ผมชอบสุดต้องยกให้ฉากที่ลีโอโพลด์ทำอาหารเช้าให้เคต แล้วเคตกินทั้งน้ำตา (ด้วยความสุข) แล้วน้องชายของเคตก็แอบมองอยู่ ฉากนี้ชอบมาก เป็นฉากที่น่ารัก ดูอบอุ่น สื่อตัวตนของลีโอโพลด์ เคต และน้องของเคตได้แบบกำลังดี

Untitled09272

จริงๆ หนังมีแก่นแกนที่น่าสนใจนะครับ อย่างหนึ่งเลยที่รู้สึกว่าหนังพยายามนำสื่อก็คือ ความเป็นสุภาพบุรุษยุคเก่าของลีโอโพลด์ที่ความสุขุมลุ่มลึกของเขาเป็นของแปลกสำหรับโลกยุคใหม่อันแสนว่องไว แล้วลีโอโพลด์ก็ชนะใจคนยุคใหม่หลายๆ คนด้วยความสุขุมแบบคนยุคเก่านั้น – อีกนัยหนึ่งก็คือ โลกยุคใหม่บางครั้งก็วุ่นวาย เนื่องจากลืมวิถีอันเรียบง่าย ลืมแนวทางอันสุขุมลึกซึ้งไป

ไม่ว่าจะเคต (ที่ชีวิตต้องพึ่งตัวเองเสมอมา ไหนจะต้องไขว่คว้าตำแหน่งเพื่อความมั่นคงของตน), ชาร์ลี น้องของเคต (ที่เรียนรู้ว่าการจะชนะใจหญิงนั้น หาใช่จะใช้ความหวือหวาท่าเยอะหรือขี้เก๊กในการชนะใจ แต่ควรจะทำตนให้เป็นสุภาพบุรุษที่หนักแน่น แสดงให้เธอเห็นว่าเขาสามารถเป็นที่พึ่งให้เธอได้) ซึ่งผมชอบนะครับ ประเด็นแบบนี้จริงๆ มีพลัง แต่หนังก็นำเสนอได้เพียงระดับหนึ่ง ซึ่งก็พอเข้าใจน่ะว่าหนังมีอะไรต้องเล่าหลายอย่าง แต่เวลามันจำกัด ประเด็นนี้เลยถูกลดทอนบทบาทลงไป

หนังลงทุน $48 ล้าน ได้คืนมาจากในอเมริกา $47 ล้าน และรวมทั่วโลก $76 ล้าน ก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ก็น่าจะโปะทุนได้ตอนหลังครับ (ตอนลงแผ่นและฉายทีวี-เคเบิ้ล)

นี่อาจไม่ใช่หนังรักที่เด็ดขาดเต็มร้อย แต่ก็ถือว่าดูเพลินและได้แง่คิดดีๆ อยู่ครับ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่อาจนำเอาความสุขุมและสุภาพของลีโอโพลด์มาลองติดตั้งในตัวเอง หรือใครชอบหนังรักโรแมนติกที่บุคลิกพระเอกชวนฝันแบบสุดๆ ล่ะก็ หนังเรื่องนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)