Secret Headquarters เรื่องนี้ผิดจากที่คาดไปพอสมควร ตอนแรกดูจากโปสเตอร์ก็เข้าใจไปว่าจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีตัวเอกแสดงโดย Owen Wilson แล้วก็มีเด็กๆ มาแจมช่วยพิทักษ์โลกอะไรเทือกนั้น

แต่เอาเข้าจริงมันไม่เชิงแบบนั้นครับ คือ Wilson เป็นซูเปอร์ฮีโร่น่ะใช่ แต่พี่เขาไม่ใช่ตัวเอก โผล่มาแค่ 1 ใน 3 ของหนัง เรื่องของเรื่องคือ Wilson มาเล่นเป็นชายชื่อแจ็คที่ได้รับพลังจากต่างมิติ แล้วก็กลายเป็นฮีโร่พิทักษ์โลกนามว่าเดอะการ์ด แต่ทีนี้แจ็คเขามีลูกครับ ซึ่งก็คือชาร์ลี (Walker Scobell) โดยหนุ่มน้อยคนนี้ไม่รู้เลยว่าพ่อคือเดอะการ์ด แล้วก็ห่างเหินกับพ่อตามสไตล์ – เพราะพ่อไม่มีเวลาให้ แล้วยังไม่บอกเหตุผลอีก เลยยิ่งห่างกันไปใหญ่

ทีนี้มีอยู่วันหนึ่งชาร์ลีไปแกร่วอยู่ในบ้านของพ่อพร้อมทั้งชวนเพื่อนๆ มาเล่น แต่แล้วพวกเขาก็ค้นเจอทางลับนำไปสู่ฐานลับของเดอะการ์ดที่ซ่อนอยู่ พวกเด็กๆ เลยเล่นสนุกกับเครื่องมือไฮเทคสารพัด แต่ทีนี้เล่นแล้วชักเลยเถิด จนทำให้ผู้ร้ายที่หมายจะแย่งพลังของเดอะการ์ดไปอย่างอาร์กอน (Michael Peña) รู้ที่ซ่อนลับนี้ แล้วก็ยกขบวนมาหมายจะยึดพลังของเดอะการ์ดไป ทำให้เด็กๆ ต้องหาทางสู้

ใช่ครับ สรุปเลยคือเป็นหนังเด็กสู้กับเหล่าร้ายในฐานของซูเปอร์ฮีโร่ มีโดนหลอกบ้าง โดนขู่บ้าง มีหลงกลผู้ร้ายบ้างอะไรบ้าง ซึ่งถ้าถามว่าสนุกไหม ก็ตอบได้ว่าถ้าเป็นเด็กดูอาจจะโอเค หรือถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่คิดเยอะ ไม่คาดหวังอะไรเลยก็อาจจะพอไหว แต่สำหรับผมนั้นยอมรับเลยว่าเฉยครับ การผจญภัยของเด็กๆ ในเรื่องมันเป็นอะไรที่เห็นมาจนชิน และว่าตามจริงคือซีรี่ส์บางเรื่องที่มีเด็กๆ เป็นตัวเอกแล้วก็ไปผจญภัยกันยังดูสนุกและตื่นเต้นกว่า

ตอนต้นๆ ดูน่าสนใจครับ แต่พอกลายเป็นว่าเด็กๆ ผจญภัยกันเอง เล่นสนุกกันเองมันก็ดูน่าสนใจน้อยลง การสู้กันระหว่างเด็กกับเหล่าร้ายก็กลางๆ ครับ คือไม่ได้ลุ้นอะไรมาก จริงๆ ผมยังคิดเลยนะว่าตัวเดอะการ์ดจะมาช่วยเมื่อไร เพราะในฐานทัพมันน่าจะมีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง แต่นี่เหมือนเดอะการ์ดไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าฐานโดนจู่โจม คือถ้าจะเอาช่องโหว่นี่ผมว่าหนังมีหลายจุดอยู่ครับ เลยพยายามปิดตาไม่มอง ไม่งั้นคงเจอจุดพร่องความสนุกมากกว่านี้

แล้วตัวร้ายอย่างอาร์กอนนี่ก็แอบสับสน เพราะจริงๆ แกดูโหดนะ บางอย่างที่ทำนี่คือเหี้ยมเลยล่ะ แต่เหมือนหนังมันมีเพดานน่ะครับ เลยพยายามกดความโหดของอาร์กอนไว้ มันเลยดูประดักประเดิด ยิ่งตอนท้ายที่ตีกับเดอะการ์ดนี่ผมว่าดูต๊องเลยล่ะ เหมือนบางจังหวะหนังก็ทำตัวไม่ถูกนะ จะแรงมากก็ไม่ได้เพราะเป็นหนังเด็กดู แต่ก็แอบแรงอยู่ในบางฉาก แต่ภาพก็พยายามจะให้มันดูไม่แรง – รู้สึกว่าหนังยึ้กๆ ยักๆ ไม่รู้จะไปทางไหนดี ประมาณนั้นน่ะครับ

ถ้าเอาแนวใกล้ๆ ก็คงเป็น Spy Kids น่ะครับ ผมว่าอันนั้นสนุกกว่านะ แล้วก็ถือว่าสนุกกว่า We Can Be Heroes หน่อยนึง

ตอนแรกก็แปลกใจเพราะเห็นชื่อ Jerry Bruckheimer อำนวยการสร้างก็นึกว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้ แต่สักพักก็นึกได้ว่าพี่ Jerry แกก็เคยทำหนังขาย Effect ให้เด็กๆ ดูอย่าง G-Force มาแล้ว ก็เลยหายแปลกใจ เพราะมันก็คงมีกันบ้างแหละที่พี่เขาจะมาทำหนังสไตล์นี้

ไม่ถึงสองดาวครับ

(5.5/10)