และนี่คือเรื่องที่ 5 ของหนังชุด A Cinderella Story ครับ มาในชื่อตอนว่า Christmas Wish
สูตรของหนังชุดนี้ยังคงเหนียวแน่นครับ นั่นคือการเอาเรื่องซินเดอเรลล่ามาเล่าใหม่ในแบบโมเดิร์น แล้วก็ตามสูตรอีกเช่นกันว่าดาราที่จะมารับบทนางเอกต้องเป็นนักร้อง ที่จะมารับบทสาวน้อยเสียงดีที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักร้อง แต่ถูกปิดกั้นโอกาสไม่ให้ได้แจ้งเกิด และโดนสับโขกสารพัดโดยแม่เลี้ยงใจร้ายและลูกๆ ขี้อิจฉา แต่แล้วโชคชะตาก็จะพาเธอไปเจอกับชายหนุ่มรูปงามที่จะกลายมาเป็นรักแท้ของเธอ
สำหรับภาคนี้นางซินของเรามีนามว่าแคท เดคเกอร์ (Laura Marano) ส่วนแม่เลี้ยงใจร้ายคือเดียร์ดร้า (Johannah Newmarch) ตามด้วยลูกขี้อิจฉาจอย (Lillian Doucet-Roche) และเกรซ (Chanelle Peloso) และที่ขาดไม่ได้คือเจ้าชายสุดหล่อ โดมินิค วินเทอร์การ์เดน (Gregg Sulkin)
ภาคนี้เหมือนจะมีการปรับสูตรหน่อยครับ นั่นคือแทนที่แคทจะปลอมตัวไปเจอพระเอก กลับเป็นพระเอกซึ่งเป็นคนรวยปลอมเป็นคนธรรมดามาทำงานเป็นคนแต่งชุดซานต้าในซานต้าแลนด์ ที่ซึ่งแคททำงานอยู่เป็นเอลฟ์ – แล้วก็ใช่ครับ พวกเขารักกัน อันนี้ไม่พลิกโผ
แล้วแคทยังมีสัตว์เลี้ยงตัวน้อยนามว่าบรูโน่ด้วยครับ กับโทนหนังที่มีวันคริสต์มาสเป็นฉากหลัง แล้วก็มีความเป็นหนังเพลงใส่ลงไปหน่อยๆ เรียกว่าพยายามใส่อะไรใหม่ๆ ลงไปอย่างละนิดละหน่อย แต่โดยรวมแล้วหนังก็คือซินเดอเรลล่ากลับชาติมาเกิดนั่นแหละครับ
ตัวหนังก็จัดว่าดูได้เพลินๆ Marano น่ารักดี ผมชอบแววตาของเธอนะ ดูบ้องแบ๊วใสๆ ดี ส่วน Sulkin ก็ดูเหมาะกับบทพระเอก ท่าทางดูจริงใจดี ส่วน Newmarch ในบทแม่เลี้ยงก็นับว่าน่าตบใช้ได้ เล่นได้ร้ายแบบไม่ต้องโวยวาย เน้นหน้านิ่งๆ พูดเนียนๆ สรรหาสารพัดเหตุผลมาเอาดีเข้าตัวและเห็นแก่ตัวได้อย่างน่ารังเกียจแท้ๆ – อันนี้น่าจะถือเป็นคำชมน่ะนะครับ 555
สารภาพอย่างหนึ่งว่าการนั่งดูหนังชุดนี้ เป็นการทดสอบความอดทนของผมอย่างหนึ่ง ทดสอบว่าตัวเองจะทนความน่ารำคาญของแม่เลี้ยงและลูกๆ ได้ไหม ก็ยอมรับนะครับว่าแอบหงุดหงิดระหว่างดูอยู่เหมือนกัน อาจเพราะเป็นคนไม่ชอบคนน่ารำคาญแบบนี้ คือถ้าเจอในชีวิตจริงก็ขอเดินหนีอย่างเดียวเลยแล้วกัน และที่ผ่านมาหลายภาคก็ยังพอทนได้ แต่กับภาคนี้รู้สึกว่าพวกแม่เลี้ยงนี่น่าตบเหลือจะเอ่ย บทพูดก็เห็นแก่ตัวและเอาแต่ได้สุดๆ จนแอบ Fast Forward หลายช่วงอยู่เหมือนกัน
แต่ยังดีครับที่นางเอกน่ารักอยู่บ้าง พระเอกก็ดูแมนใช้ได้ อีกคนที่รู้สึกชอบคือ Barclay Hope ที่รับบทเป็นพ่อพระเอก การวางตัวต่างๆ ดูภูมิฐานน่าเชื่อถือ เวลาต้องเข้าฉากกับแม่เลี้ยงก็วางตัวพอดี ไม่ได้ดูเลอะเทอะไร้สมองแบบหนังตลกหลายๆ เรื่อง ก็เลยพอจะทำให้รู้สึกโอเคกับหนังในตอนท้ายๆ เมื่อปมต่างๆ กำลังจะได้รับการเฉลย และอีกรายที่ถือว่าน่าจดจำไม่เลวก็คือ Isabella Gomez ในบทไอร่า เพื่อนซี้ของแคท
Michelle Johnston ที่เคยกำกับภาคที่แล้ว ตามมากำกับภาคนี้ครับ ก็ถือว่าคุมหนังได้โอเคอยู่ แม้ว่าตอนนี้อาจไม่ใช่ตอนที่ดีที่สุดก็ตาม แต่แม้จะไม่เด่นไม่เด็ดแต่ก็ยังดูได้เรื่อยๆ – ยกเว้นคนที่เอียนกับหนังพล็อตนี้เต็มกลืนก็อาจรู้สึกไม่โอเคกับหนังครับ
ตามดูมาหลายภาค ก็ถือว่าหนังชุดนี้ดูได้เพลินๆ น่ะนะครับ แต่ใจก็คิดภาวนานะ ว่าอยากให้ซินเดอเรลล่าในชีวิตได้รับสิ่งดีๆ ในตอนท้ายแบบในหนังบ้าง เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าในนาทีที่ผมกำลังพิมพ์อยู่นี้ จะมีซินเดอเรลล่าอีกกี่ร่างที่กำลังเวียนว่ายฝ่าความลำบากยากเข็ญอยู่ในโลกเบี้ยวๆ ใบนี้
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Christmas Movies, Comedy, Family, Musicals, Romance