รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Wedding March 4: Something Old, Something New (2018), รีสอร์ทนี้มีรัก 4

Untitled09099

สำหรับภาคนี้ที่วิลโลว์ เลค อินน์ ก็ยังคงมีเรื่องวุ่นๆ อุ่นหัวใจตามเคยครับ ทุกอย่างเริ่มตรงที่มิค (Jack Wagner) และโอลิเวีย (Josie Bissett) ไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจนอกสถานที่หลังจัดผัดผ่อนมานาน (เพราะงานเยอะมากมาย) แล้วพวกเขาก็ได้ไปเที่ยวสมใจครับ… ประมาณวันนึงได้

ใช่ครับ มีเหตุให้พวกเขาต้องกลับไปที่รีสอร์ท ตั้งแต่คู่รักแอ๊บบี้ รุสโซ (Merritt Patterson) และร็อบ แอตเวลล์ (Andrew W. Walker) กำลังจะวิวาห์กัน และแอ๊บบี้ก็ต้องการความช่วยเหลือจากโอลีเวียอย่างยิ่ง นอกจากนี้เกรซ (Emily Tennant) ลูกสาวของโอลิเวียยังแอบมาหาแม่พร้อมกับเซอร์ไพรส์ใหญ่โต จนทำให้วันพักของมิคและโอลิเวียต้องจบลงเร็วกว่ากำหนด

ภาคนี้จัดว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ ตัวหนังอาจไม่ถึงกับซึ้งหรือกลมกล่อมแบบจัดๆ แต่ก็ถือว่าน่าพอใจสำหรับหนังชุดนี้ ถ้าให้เรียงความชอบแล้ว ผมชอบภาคนี้มากกว่าภาค 2 ครับ พอๆ กับภาคแรก แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังชอบภาค 3 มากที่สุดอยู่

ของดีในหนังยังคงอยู่ที่วิวสวยๆ ที่หนังนำมาฝากครับ แม้โลเคชั่นอาจจะเดิมๆ เป็นรีสอร์ทประจำที่แสนคุ้นตา แต่ผมก็ยอมรับว่าทีมงานขยันหามุมสวยๆ ที่ยังไม่เคยจับมาขึ้นกล้อง เอามานำเสนอเป็นระยะๆ อย่่างภาพต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ซุ้มแต่งงานนั่นเป็นต้น หรือภาพริมทะเลสาบเดิมๆ ก็ยังมีการวางตำแหน่งจับภาพให้ออกมาไม่จำเจได้ จุดนี้ก็ขอชมตากล้อง Ryan McMaster ที่ทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่ภาค 2 และสำหรับภาคนี้เขาก็ยังทำหน้าที่เดิมได้อย่างพอเหมาะครับ

การดูหนังภาคนี้ทำให้ผมย้อนคิดไปถึงตอนตัวเองแต่งงานครับ ประเด็นหลักของภาคนี้คือความทุกข์ของตัวละครที่ชื่อแอ๊บบี้ที่กำลังจะแต่งงานกับร็อบ แต่ทีนี้ครอบครัวของฝ่ายชายเขามีฐานะดีครับ ในขณะที่เธอเป็นหญิงสาวบ้านๆ เธอเลยรู้สึกกดดันกลัวว่าจะจัดงานแต่งออกมาแล้วไม่สมกับหน้าตาของฝ่ายเจ้าบ่าว แล้วมันก็กลายเป็นปมในใจเธอมาตลอด จนกระทั่งตอนท้ายน่ะครับ ปมถึงคลี่คลาย และมาพร้อมแง่คิดง่ายๆ ว่าไม่มีงานแต่งใดจะสมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมดหรอก

Untitled09100

กระทั่งภาพของงานแต่งบางงานที่ดูดี สวยสดงดงาม และ Perfect สุดๆ เอาเข้าจริงๆ มันก็อาจไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น หรือมันอาจไม่ได้เป็นไปตามที่บ่าวสาวต้องการจริงๆ ก็ได้ เช่น อาจถูกจัให้ใหญ่โตอลังการตามความประสงค์ของพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่เห็นแก่หน้าแก่ตาของตนมากกว่าความต้องการที่แท้จริงของลูก – นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในหลายงานแต่งครับ จนไปๆ มาๆ เจ้าบ่าวเจ้าสาวบางคู่ก็ต้องเก็บความอัดอั้นไว้ แล้วไปจัดงานแต่งใหม่อีกรอบ ให้ออกมา “ตามความต้องการที่แท้จริงของทั้งสอง”

ในฐานะที่แต่งงานแล้ว อยากให้กำลังใจทุกคู่บ่าวสาวที่กำลังจะจัดงานครับ อยากบอกว่า อย่าคิดมากเลยหากมันมีบางสิ่งบางอย่างไม่เป็นไปดั่งใจ ระหว่างจัดงานก็อาจมีเรื่องให้ปวดหัว มีอะไรหลุดๆ พลาดๆ ซึ่งเราเลือกได้นะครับว่าเราจะมองมันอย่างไร เราจะมองมันเป็นตราบาปเป็นจุดบกพร่องให้เสียใจก็ได้ หรือมองให้ได้รอยยิ้ม มองแบบเข้าใจว่าไม่มีอะไรเป็นไปดั่งใจเราได้ทั้งหมดหรอก ให้มองว่ามันเป็นสีสันส่วนหนึ่งของความทรงจำ – มันแล้วแต่จะมองจริงๆ ครับ

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องแม่ๆ ลูกๆ ระหว่างโอลิเวียและเกรซ ที่เกรซกำลังจะแต่งงานกับเอริค (Blair Penner) อันทำให้โอลิเวียรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะคนเป็นแม่อย่างเธอนั้นแม้ลูกจะโตแค่ไหน แต่ก็ยังมองเห็นลูกเป็นเด็กน้อยอยู่เสมอ ซึ่งนี่คือสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต้องยอมรับครับ ว่ามันจะมีวันหนึ่งที่ลูกเราจะโต จะออกจากอ้อมอกเราไป และใช้ชีวิตของตนเอง ตัดสินใจเลื่อกทางเดินชีวิตด้วยตัวของเขาเอง – วันที่เราต้องปล่อยมือจากลูก มันย่อมมาถึงเสมอครับ

ปมนี้คนเป็นพ่ออย่างผมก็รู้สึกเหมือนกันครับ ณ ตอนนี้ยังไม่เจอ แต่ก็รู้นั่นแหละว่าวันนั้นต้องมาถึง และเราคงใจหวิวใจหายไม่ใช่น้อยเมื่อถึงวันนั้น สิ่งที่พอทำได้คือเตรียมใจรับ และใช้เวลาในทุกวันนี้ ที่ลูกยังอในอ้อมอกเราให้คุ้มค่าที่สุด

ปมนี้ถือว่าเป็นส่วนเสริมครับ ไม่ได้ขยี้แบบหนักๆ อะไร แต่ก็ปมนี้มักมาพร้อมฉากประจำ นั่นคือฉากที่โอลิเวียเอาอัลบั้มลูกตอนเด็กๆ มาเปิดเพื่อรำลึกถึงวันวาน – ฉากแบบนี้ก็เกิดในชีวิตจริงอยู่เรื่อยๆ เหมือนกัน จริงไหมล่ะครับ

สรุปว่าภาคนี้ดูได้แบบเพลินๆ ครับ แล้วดาราขาประจำอย่าง Aaron Pearl ในบทดุ๊ค ก็ยังตามมาเป็นพ่อครัวให้กับรีสอร์ท ส่วนจูลี่ลูกสาวของมิคนั้น หนังอธิบายว่าเธอเรียนซัมเมอร์ครับ เลยไม่ได้กลับมาอยู่ที่รีสอร์ท ภาคนี้เราเลยไม่ได้เห็นเธอ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)