Liam Neeson กับหนังแนวประจำของเขาครับ 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ป๋าแกตะบันบู๊โดยเฉลี่ยคือปีละเรื่องกว่าๆ จนอดคิดไม่ได้ครับว่าทำไมมีคนขยันมาหาเรื่องป๋าเขาบ่อยจัง จริงๆ โหงวเฮ้งป๋าเขาออกจะดูมีบารมีนะ ดูเป็นคนมีของ ไม่น่ามีใครมาหาเรื่องถี่แบบนี้ (555)

และสำหรับ Honest Thief ก็มาแนวนั้นครับ ป๋า Liam รับบท ทอม โดแลน จอมโจรปล้นแบงค์มือพระกาฬที่ปล้นมาเป็นสิบที่และไม่เคยถูกจับได้ แต่ทีนี้ชีวิตเขาก็มาเปลี่ยนไปครับเมื่อเขาได้เจอกับแอนนี่ วิลกินส์ (Kate Walsh) สาวมั่นที่เขาตกหลุมรักและหมายจะใช้ชีวิตกับเธอไปจนแก่

ทว่าใจเขารู้สึกไม่สงบครับ เขากลัวว่าสักวันหนึ่งอดีตของเขาจะตามมาทำลายความสุขระหว่างเขาและเธอ เขาเลยตัดสินใจจะมอบตัวเพื่อรับโทษ ยอมติดคุกให้เสร็จๆ จะได้ออกมาเริ่มชีวิตใหม่แบบไร้กังวล

แต่ก็เหมือนมีกรรมน่ะครับ คิดจะทำดีแท้ๆ ดันเจอวิบากโดย 2 เอฟบีไอ จอห์น (Jai Courtney) และรามอน (Anthony Ramos) ที่หมายจะฮุบเงินที่เขาปล้นไปเสียเอง แล้วยังหาเรื่องใส่ความเขาอีก งานนี้ทอมเลยต้องโดดลงสนามพะบู๊อีกหน เพื่อล้างมลทินให้ตนเอง

ในแง่ความมันส์ก็อาจไม่เยอะเท่าไรครับ อันนี้ว่ากันตรงๆ เลย ช่วงต้นหนังค่อนข้างจะเรื่อยๆ ไม่ได้ชวนติดตามนัก กระทั่งตอนที่ทอมโดนพวกจอห์นใส่ความก็ยังไม่ค่อยลุ้นเท่าที่ควร แต่ก็ยังดีน่ะครับที่หนังได้ฝีมือการแสดงแบบเอาอยู่ของเหล่าดารามาช่วยเอาไว้ เลยพอจะประคองหนังได้บ้าง – แต่ก็อย่างที่บอกน่ะครับ ว่าไม่ถึงกับสนุกอะไรมาก

หนังเริ่มเข้าท่าเอาตอนครึ่งหลังครับ พอทอมต้องงัดสมองมาย้อนรอยพวกเจ้าหน้าที่ขี้ฉ้อ คือมันอาจจะไม่ได้ถึงขั้นดวลสมองกันแบบมันส์ๆ หรอกครับ แต่ก็โอเคกว่าครึ่งแรก ยังพอมีอะไรให้ตามดูบ้าง

โดยรวมแล้วหนังก็มาตามสูตรคุ้นเคยของหนังป๋า Liam เขาน่ะครับ ประเภทว่าป๋าต้องโดนโยนเข้าไปในสถานการณ์อะไรสักอย่าง ถูกบังคับให้ต้องบู๊และเอาตัวรอด กับเรื่องนี้ก็ลงสูตรเป๊ะ ไม่ได้แปลกใหม่อะไร

หนังกำกับโดย Mark Williams โปรดิวเซอร์ที่อยู่ในวงการมาหลายสิบปีเหมือนกัน แต่ในแง่การกำกับแล้วเขาเพิ่งทำหนังดราม่า A Family Man มาเรื่องเดียวครับ ส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 และผลงานถัดจากนี้ของเขาก็คือ Blacklight ที่เป็นการร่วมงานกับป๋า Liam อีกหน

สำหรับเรื่องนี้ก็อย่างที่บอกน่ะครับ ดูได้เรื่อยๆ แต่ไม่ได้สนุกหรือน่าจดจำอะไร สิ่งที่ช่วยหนังไว้ได้มากคือการแสดงของป๋า Liam และดาราสมทบน้อยใหญ่ครับ ส่วนความระทึกก็ไม่มาก แอคชั่นนี่ต้องทำใจเลยเพราะมีไม่เยอะ ฉากไล่ล่าก็ไม่ได้เร้าใจอะไรขนาดนั้น ช่วงต้นค่อนข้างเรื่อย มาโอเคเอาช่วงครึ่งหลัง ดูจบแล้วก็จบกัน ไม่ได้รู้สึกอยากดูซ้ำ

ตัวหนังลงทุนราว $30 ล้านครับ และได้เงินคืนไปราว $31 ล้านจากทั่วโลก ว่าง่ายๆ คือไม่ค่อยทำเงินนัก ส่วนหนึ่งคงเพราะหนังซ้ำทางผลงานระยะหลังของป๋าเขาน่ะครับ และตัวหนังเองก็ไม่ได้เจ๋งอะไรมากด้วย เลยไม่เปรี้ยง

แต่กระนั้นหากเป็นแฟนป๋า Liam ก็ลองดูกันได้ครับ… ไม่รู้นะ สำหรับผมแล้วแม้หนังจะไม่เวิร์ก แต่การแสดงของป๋าเขาเนี่ยไว้ใจได้อยู่แล้ว ดูป๋าเขาเล่นก็พอกล้อมแกล้มน่ะ แม้จะไม่สนุกสนานถึงใจ แต่ก็ถือว่าแวะไปให้กำลังใจป๋าเขาก็แล้วกัน

สองดาวครับ

(6/10)