เอลลี่ (Brooke D’Orsay) พนักงานโรงงานผลิตขนมในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อไวท์เดียร์ ได้รับมอบหมายให้ช่วยต้อนรับนิค (Daniel Lissing) ผู้บริหารของบริษัทที่จะมาดูงาน ซึ่งตอนแรกๆ ทั้งคู่ก็เหมือนจะเข้ากันไม่ค่อยได้ แต่ก็คงเดาได้นะครับว่าเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากทั้งคู่จะเข้ากันได้ดีแล้ว ยังจะมีการตกหลุมรักกันและกันด้วย
Christmas in Love หนังสูตร Hallmark ที่ผมตั้งใจดูเพื่อผ่อนคลายโดยเฉพาะครับ แนวนี้ดูง่ายเบาสบายอยู่แล้ว และผลก็คือตามนั้นครับ หนังมาพร้อมความโรแมนติกเบาสมอง โดยหนังจะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างพระ-นางเป็นหลัก ดังนั้นกว่า 80% เราจึงจะได้เห็นพระ-นางอยู่ด้วยกัน คุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดกัน แล้วสายใยรักก็เริ่มก่อตัวขึ้นตามลำดับ
ถือเป็นหนังดูเพลินครับ แต่ก็อาจจะไม่ได้พิเศษอะไร ความกลมกล่อมลื่นไหลยังไม่ถึงขนาดหนังใหญ่ๆ โดยหนังจะแนะนำให้เราได้รู้จักพระ-นางผ่านบทสนทนา ว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน มาจากไหน มีความฝันอะไร มีปมในใจหรือไม่ ฯลฯ ซึ่ง D’Orsay กับ Lissing ก็เล่นคู่กันได้ดี ฝ่ายหญิงก็ดูเป็นสาวมั่นนักทำงาน โอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และหนังยังสื่อคาแรคเตอร์นี้ผ่านงานประดิษฐ์ของเธอ ซึ่งก็คือหรีดประดับวันคริสต์มาสครับ หนังสื่อให้เห็นว่าเธอเป็นคนทำงานแฮนด์เมดด้วยความใส่ใจในรายละเอียด และให้ความสำคัญกับ “คน” ก่อนอื่นใด
ในขณะที่ฝ่ายชายตอนแรกก็เป็นนักธุรกิจที่หมายมั่นจะสร้างผลกำไรให้บริษัทครับ แนวคิดแรกๆ ของเขาเลยก็คืออยากจะปลดพนักงานแล้วเอาเครื่องจักรมาทำงานแทน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มผลผลิตและประหยัดต้นทุนได้อย่างยิ่ง แต่พอเขาได้มาใกล้ชิดกับนางเอก ได้สัมผัสกับชาวเมืองไวท์เดียร์ และลงมือทำขนมด้วยตนเอง เขาก็เริ่มตระหนักถึงคำกล่าวของพ่อที่ว่า “ลงทุนในคน แล้วเขาจะให้ใจกับเรา”
ตอนแรกพระเอกก็คิดแบบหนึ่ง พอเจอนางเอกก็เริ่มเปลี่ยนใจ และสุดท้ายก็หันมาเชื่อในพลังของพนักงาน ลงสูตรตามนั้นครับ
ถือเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ ครับ แต่ถ้าถามว่าขาดอะไรไหม ก็ขอตอบว่ายังขาดลูกเล่นสีสันในการเดินเรื่อง ว่าง่ายๆ คือหนังเล่าแบบตรงๆ ซื่อๆ จนอาจจะออกแนวทื่อไปบ้างในบางวาระ ไม่มีการปรุงรสบิ้วอารมณ์ กราฟความหวานเค็มเปรี้ยวในเรื่องเลยไม่กระดิกสักเท่าไร – แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานหนัง Hallmark น่ะครับ
สองดาวหน่อยๆ ครับ
(6/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Christmas Movies, Drama, Romance