ปีนี้ Netflix บ้านเราทำท่าจะเอาจริงเอาจังกับหนังคริสต์มาสครับ เพราะขนมาให้ดูเยอะมาก ในขณะที่ HBOGo ดูจะเงียบๆ ไป หนังโรแมนติก Hallmark ก็เอามาไม่ถี่เหมือนเมื่อก่อน (และกลายเป็นว่าหนังรัก Hallmark บางเรื่องที่เคยอยู่กับ HBOGo ก็มาลงที่ Netflix แทน) – เอาเป็นว่าก็ขอบคุณ Netflix ล่ะครับที่เอาหนังแนวนี้มาให้ดูเยอะขึ้น อย่างน้อยท่านก็จะได้ผมนี่แหละที่คอยไล่ตามดู

Christmas Encore จริงๆ มีองค์ประกอบที่น่าสนใจครับ ตัวเอกคือ ชาร์ล็อตต์ (Maggie Lawson) นักแสดงสาวที่พยายามแคสงานอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้งานแจ้งเกิดเสียที และในขณะที่เธอกำลังจะถอดใจก็เผอิญมีคนตามเธอไปแคสงานละครเวที A Christmas Carol เธอเลยไปลองดู และที่นั่นเองเธอก็ได้พบกับจูเลียน วอล์คเกอร์ (Brennan Elliott) โจทก์เก่าที่เธอไม่ใคร่จะชอบหน้าเขานัสักเท่าไร

ที่ว่าน่าสนใจก็เพราะ ในเรื่องบอกว่าคณะละครเวทีที่ชาร์ล็อตต์กำลังจะไปร่วมงานนั้นตั้งใจจะแสดง A Christmas Carol ฉบับตีความใหม่ครับ กล่าวคือจะไม่ได้เล่าเรื่องของตาเฒ่าสครูจผู้ไร้จิตใจอีกต่อไป แต่จะคิดใหม่ทำใหม่ปรับให้เข้ากับยุคสมัย และชาร์ล็อตต์ก็เลยพรีเซนต์แนวคิดของเธอที่จะเปลี่ยนตัวเอกเป็นหญิงสาววัยทำงานในโลกปัจจุบัน ฟังดูก็น่าสนใจดีน่ะนะครับ

แต่เอาเข้าจริงกลายเป็นว่าประเด็นนี้ถูกใช้เพื่อทำให้ชาร์ล็อตต์ได้รับเลือกเท่านั้นครับ ไม่ได้มีการสานต่ออะไรมากมาย และพล็อตหลักๆ ก็จะไปเน้นความรักที่ก่อตัวระหว่างจูเลียนกับชาร์ล็อตต์ ซึ่งจริงๆ ก็พอเข้าใจน่ะครับว่าหนังมันก็เป็นแนวโรแมนติกวันคริสต์มาสน่ะเน้อะ การจะเน้นจุดนี้ก็ไม่แปลกหรอก แต่มันก็อดเสียดายไม่ได้น่ะครับ เพราะจริงๆ การตีความ A Christmas Carol ใหม่โดยให้ตัวเอกเป็นผู้หญิงและปรับเข้ากับยุคปัจจุบันมันน่าสนใจดีออก

สำหรับตัวหนังก็ถือว่าเรื่อยๆ ครับ พลังสำคัญอยู่ที่การแสดงของ Lawson ที่มาพร้อมความสดใสและน่ารัก ผมชอบที่หนังพาเราไปรู้จักกับเธอในหลายวาระ ไม่ว่าจะตอนสดชื่สดใส หรือตอนอ่อนล้าอ่อนกำลังใจ หรือวาระเล็กๆ อย่างตอนที่เธอนั่งนิ่งๆ มองไปรอบๆ ร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ – พอดีว่าตอนนั้นเธอกำลังจะได้งานประจำที่เมืองอื่นแล้ว เธอเลยเริ่มใจหายและมองร้านอาหารที่เธอทำงานมานานด้วยความอาลัย – ฉากเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ Lawson ถ่ายทอดได้ดีครับ

ส่วน Elliott ก็ถือว่าแสดงได้เหมาะตามสไตล์พระเอก Hallmark ในขณะที่ดาราสมทบรายอื่นๆ ถือว่าทำหน้าที่ได้เหมาะ และเป็นพลังที่พยุงให้หนังดูได้เรื่อยๆ ไปจนจบ

ส่วนพล็อตก็ออกจะเรื่อยๆ ครับ ไม่ถึงกับเด่นเป็นพิเศษอะไร อย่างที่บอกน่ะครับว่าหลักๆ มันก็คือหนังรักวันคริสต์มาสนั่นแหละ แม้จะมีรายละเอียดหลายอย่างน่าสนใจ แต่สุดท้ายหนังก็เลือกที่จะบอกเล่าบนโครงสร้างสูตรสำเร็จ เน้นที่เรื่องรักและความสัมพันธ์ ในขณะที่ประเด็นดีๆ ที่หนังเปิดมาก็ถูกพูดถึงในระดับผิวๆ เท่านั้น – แอบคิดเหมือนกันว่าถ้าหนังบอกเล่าเรื่องความรักของพระ-นาง ขนานไปกับเรื่อง A Christmas Carol ตีความใหม่ หนังอาจมีอะไรน่าสนใจมากขึ้นก็ได้

สองดาวครับ

(6/10)