จริงๆ หน้าหนัง Slumberland ถือว่าเข้าทางผมนะครับ ออกแนวผจญภัยแฟนตาซี แต่ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันผมถึงมองข้ามไป คือไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่ก็ยังดีครับที่ตัดสินใจเลือกดู แล้วผลก็คือชอบครับ สนุกดี

เรื่องของสาวน้อยนีโม่ (Marlow Barkley) ที่เพิ่งสูญเสียพ่อไป เธอจึงต้องมาอยู่อาศัยกับน้องชายของพ่อที่ชื่อฟิลิป (Chris O’Dowd) แล้วนีโม่ก็เข้าสู่โหมดหมดอาลัยกับชีวิตครับ เธอคิดถึงพ่อมาก จนอยู่มาวันหนึ่งเธอก็ฝันถึงชายประหลาดร่างยักษ์ที่ชื่อฟลิป (Jason Momoa) นายคนนี้ออกตัวว่าเป็นเพื่อนซี้ในฝันของพ่อเธอ และได้ทวงถามถึงแผนที่อะไรสักอย่าง แล้วนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลกแห่งความฝัน

ของดีของเด่นอย่างแรกของหนังเรื่องนี้คือ Barkley ครับ หนูน้อยคนนี้แสดงได้ดีมาก สื่ออารมณ์ได้ดี ยามเหงายามดาวน์หรือยามตื่นเต้นสนุกสนานเธอสามารถสื่อมันออกมาได้ผ่านแววตาและท่าทาง ดูเป็นสาวน้อยที่มีความน่ารักและความกล้าหาญผสมผสานกัน ทำให้นึกถึง Saoirse Ronan เลยครับ ถ้าเลือกบทดีๆ นี่ผมว่าอนาคตน่าจะไกลทีเดียว

ส่วน Momoa ก็น่าจะสนุกกับบทครับ ออกแนวกวนๆ โก๊ะๆ ถือเป็นสีสันที่เข้าท่า โดยส่วนตัวแล้วผมก็ดีใจกับเขานะ เห็นหน้าเขามาตั้งแต่สมัยเล่นซีรี่ส์ Baywatch ตอนนั้นยังหน้าละอ่อนดูเนี๊ยบๆ แต่ความเด่นอะไรยังไม่เยอะ จนมาตอนนี้นี่ล่ำบึ้กผสมความเถื่อนนิดๆ กลายเป็นคาแรคเตอร์ที่ใครๆ ก็จำได้ ในบรรดาดารานำจากสำนัก Baywatch นี่ถือว่าเขามาได้ไกลกว่าใครเพื่อนครับ

อีกรายที่ผมไว้ใจมาตั้งแต่รู้ว่าแสดงเรื่องนี้ด้วยก็คือ O’Dowd รายนี้เล่นได้ดีทั้งดราม่าและเอาฮา สำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกันครับ เขาแสดงเป็นคนที่ปิดกั้นตัวเองจากความแปลกใหม่และหวือหวาทุกชนิด อาชีพของเขาคือผลิตลูกบิดและกลอนประตูแบบดั้งเดิม ไม่เน้นแฟชั่นตามกระแสใดๆ อะไรเหล่านี้สะท้อนตัวตนของเขาได้ดีครับ และไปๆ มาๆ ตัวละครนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปมสำคัญของเรื่องที่จัดว่าน่าจดจำทีเดียว

ผมชอบฉากที่เขาดูวีดีโอเก่าๆ ที่ถ่ายตัวเขากับพี่ชายน่ะครับ ฉากนั้น Barkley และ O’Dowd รับส่งอารมณ์กันได้ดีอย่างยิ่ง สารภาพว่าตอนท้ายของซีนนี่ทำเอาน้ำตาไหลทีเดียว เป็นฉากที่กินใจมากๆ

อีกรายที่ผมถือว่าเล่นได้พอดีพอเหมาะ ไม่มากไปไม่น้อยเกินคือ Weruche Opia ในบทเอเยนต์กรีน เจ้าหน้าที่แห่งสลัมเบอร์แลนด์ที่คอยไล่ตามจับฟลิปมาตั้งหลายสิบปี รายนี้ดูสมเป็นเจ้าหน้าที่ประเภททำงานไม่ไว้หน้า ทำงานแบบเต็มที่ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ถึงขั้นไร้จิตไร้ใจไร้ความเมตตา เรียกว่าแม้จะเคร่งแต่ก็ยังมีความน่ารักอยู่บ้าง

การเล่าเรื่องถือว่าลื่นใช้ได้ครับ การผจญภัยก็สนุกพอตัว ซึ่งคนกำกับเรื่องนี้ก็คือ Francis Lawrence ที่เติบโตทางอาชีพมากับสายมิวสิกวีดีโอ หนังที่เขาทำนี่ยังไม่เคยผิดหวังนะ ต่างกันแค่สมหวังมากสมหวังน้อยก็ว่ากันไป แต่ทุกเรื่องถือว่าดูได้สนุกดี ตั้งแต่ Constantine เรื่อยมาจนถึงเรื่องนี้ ดูสนุก ดูเพลิน ครบรสหนังแฟนตาซีผจญภัยที่ผสมปมดราม่าลงไปแบบพอดีๆ

ในแง่จินตนาการก็ถือว่าเวิร์กครับ หนังมีความแฟนตาซีแบบกำลังดี แต่ละฉากสวยงาม มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง แล้วก็มาพร้อมความยิ่งใหญ่ โดยรวมแล้วถือว่าสมทุน $150 ล้านครับ นี่ยังแอบคิดเลยนะว่าถ้าได้ดูเรื่องนี้ในโรงมันจะตื่นตาถึงใจแค่ไหน เพราะหลายฉากนี่ทำออกมาได้ดีจริงๆ

มีโอกาสคงดูซ้ำครับ ถือเป็นหนังที่ตอบโจทย์ความบันเทิงผสมจินตนาการได้น่าพอใจมากเรื่องหนึ่ง

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)