รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Christmas with You (2022) คริสต์มาสนี้… ขอมีเธอ

Untitled08719

Christmas with You หนังรักดูง่ายอีกเรื่องที่ดูได้เพลินๆ ครับ

แองเจลิน่า คอสต้า (Aimee Garcia) นักร้องชื่อดังที่เริ่มเข้าสู่ขาลง เธอเลยต้องแต่งเพลงใหม่ให้ฮิตติดชาร์ต แต่ยิ่งคิดสมองยิ่งตันเธอเลยผ่อนคลายสมองโดยการแวะท่องโซเชียล แล้วเธอก็พบกับคลิปของคริสติน่า ตอร์เรส (Deja Monique Cruz) สาวน้อยที่ประกาศตัวว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเธอ และยังร้องเพลงของแองเจลิน่าได้อย่างน่าประทับใจ

ในที่สุดแองเจลิน่าเลยตัดสินใจไปเยี่ยมเธอถึงที่ครับ อันทำให้เธอได้รู้จักกับมิเกล (Freddie Prinze Jr.) พ่อของคริสติน่าที่เป็นครูสอนดนตรี แล้วก็พอดีครับที่มิเกลแต่งเพลงๆ หนึ่งค้างเอาไว้ซึ่งเป็นเพลงที่เนื้อหาดีจนแองเจลิน่าประทับใจ เธอเลยยื่นข้อเสนอให้เขามาแต่งเพลงร่วมกัน และนั่นล่ะครับ คือจุดเริ่มของสายใยรักที่ค่อยๆ ก่อตัว

พูดแบบไม่อ้อมค้อม ใครชอบหนังแนวรอมคอมคริสต์มาสแบบนี้ก็จัดไปได้เลยครับ อยากได้อะไรก็ได้ตามนั้น พระ-นางน่ารัก มีวาระกุ๊กกิ๊ก ห้อมล้อมด้วยบรรยากาศคริสต์มาสที่ประดับประดาด้วยแสงไฟ และปกคลุมด้วยหิมะขาว ตัวละครสมทบก็เป็นใจให้พระ-นางรักกัน แล้วพอถึงจุดหนึ่งก็จะมีเหตุให้พวกเขาต้องแยกกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่ในตอนท้าย ด้วยเสียงเพรียกจากหัวใจ พวกเขาก็จะหวนมาเจอกันอีกครั้ง จบแบบ Happy – ตามสูตรเป๊ะ

ช่วงต้นๆ ตอนที่หนังเล่าชีวิตของแองเจลิน่านั้นผมออกจะนิ่งๆ ครับ แต่พอเธอได้ก้าวเข้ามาสู่ครอบครัวตอร์เรสแล้ว บรรยากาศมันเริ่มจะน่ารัก มิเกลก็ดูเป็นคุณพ่อแสนดีและแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ส่วนแองเจลิน่าก็ออกแนวเปิ๊บป๊าบนิดๆ ถือเป็นคู่ที่น่ารักดีครับ อาจไม่ถึงกับเคมีเข้ากันเต็มร้อย แต่ก็ถือว่าน่าพอใจ ทำให้เราอมยิ้มไปกับสายใยของพวกเขาได้

สิ่งที่อาจพร่องไปสักนิดในหนังเรื่องนี้คือภาพวิวสวยๆ ครับ หนังไม่ค่อยมีภาพวิวงามๆ เพราะส่วนใหญ่หนังเดินเรื่องในบ้าน หรือไม่ก็ในสถานที่ปิด ไม่ได้มีฉากโล่งๆ ขนาดฉากที่พระ-นางไปเดินเล่นกันกลางต้นสนประดับแสงไฟ ภาพยังออกมาดูแคบเลยครับ ก็เดาว่าทุนอาจจำกัด หรือไม่ทีมงานก็อาจไม่เน้นส่วนนี้นัก ซึ่งก็แอบเสียดายนิดๆ ครับ เพราะจริงๆ หนังถือว่าทำออกมาเวิร์กอยู่ ถ้าได้วิวสวยๆ มาเสริมล่ะก็คงจะแจ๋วเลย

Untitled08720

Prinze Jr. ดูอายุเยอะขึ้นครับ ฉากแรกๆ ตอนเห็นหน้านี่แอบใจหายเลย ส่วนหนึ่งอาจเพราะไม่ค่อยได้เห็นเขานัก เลยยังจำภาพสมัยตอนเล่น She’s All That พอมาเห็นอีกทีก็ตระหนักเลยว่ากาลเวลาไม่คอยใครจริงๆ ส่วนในแง่การแสดงยังถือว่าโอเคครับ เขาดูเป็นคนสุขุม น่ารัก อบอุ่น เป็นคน Nice จนไม่แปลกใจที่แองเจลิน่าจะชอบเขา

ส่วน Garcia ก็ไปได้ดีกับบทนี้ครับ ดูเป็นนักร้องดังที่กำลังอยู่ในช่วงสับสน พฤติกรรมเลยอาจมีโก๊ะบ้างอะไรบ้าง ซึ่งก็สะเทือนบางสิ่งในใจเธอได้ดี และสิ่งหนึ่งที่รู้สึกเลยก็คือ มิเกลทำให้เธอนิ่งขึ้นครับ เธอดูจะเกร็งน้อยลงและเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้นเรื่อยๆ ยามอยู่กับเขา ก็เป็นอะไรที่สื่อความหมายได้ดี

อีกคนที่ถือว่าแสดงได้เข้าท่าเกินคาดคือ Cruz ครับ ฉากที่เธอพูดถึงแม่แล้วน้ำตาไหลนี่เล่นเอาอึ้งไปเลยเหมือนกัน แสดงได้ถึงเอาเรื่อง และอีกรายที่บทอาจไม่เยอะ แต่โผล่ประกบนางเอกตลอด และแอบแสดงอารมณ์ความรู้สึกให้คนดูได้รับรู้ตลอดอย่าง Zenzi Williams ในบทโมนีค รายนี้ถือว่าขโมยซีนแบบเงียบๆ ครับ และเธอก็ทำให้เราเชื่อว่าเธอนั้นหวังดีต่อนางเอกจริงๆ แม้จะไม่ได้พูดอะไรมากมายก็เถอะ

หนังมาพร้อมแง่คิดขาประจำของหนังแนวนี้ครับนั่นคือ “คุณจะเลือกอะไรระหว่างความสำเร็จกับความรัก?” ซึ่งหากเป็นสมัยก่อนผมคงตอบตามสูตรได้ไม่ยากครับว่า ต้องความรักมาก่อนสิ แต่พอใช้ชีวิตมาในระดับหนึ่งก็ตระหนักครับว่า มันขึ้นอยู่กับสถานะชีวิตของผู้ตอบ บางคนอาจเลือกความรัก แต่บางคนก็ต้องเลือกงาน หรือถ้าเลือกทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันเลยได้ก็คงดี หรือไม่ก็เลือกแบบลำดับความสำคัญ ให้บางเรื่องมาก่อนบางเรื่องในบางเวลา – ดังนั้นคำตอบต่อคำถามนี้จึงยากจะตัดสินถูกผิดได้แบบชัดเจนครับ เพราะชีวิตใครก็ชีวิตเขา ทางเลือกใครก็ทางเลือกมัน – หลายครั้งในชีวิตจริงก็มีบริบทหลายอย่างต่างไปจากในหนังครับ

และมันก็ไม่เลวครับหากเราจะเอาคำถามเหล่านี้แวะมาถามตัวเราเองบ้าง เพื่อตรวจเช็คอะไรบางอย่างในใจตน ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นอีกนิด

สรุปว่าหนังออกมาฟีลกู้ดครับ ดูแล้วมีความสุข อาจไม่ถึงขั้นอิ่มเอม แต่ก็ถือว่าอิ่มใจพอตัว

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)