สารภาพว่าตอนแรกไม่ได้สนใจหนังชุดนี้เลยครับ ส่วนหนึ่งอาจเพราะหนังจีนหลายเรื่องที่ดูในยุคหลังๆ มันไม่ถูกจริตนัก
บางเรื่องก็ CG ล้นทะลัก บางเรื่องก็เน้นขำแบบมุกชนมุก เดินเรื่องแบบฉากชนฉาก แต่เรื่องราวไม่ค่อยกลมกล่อม เนื้อหาค่อนข้างเบา จนผมเองรู้สึกเลยว่าตัวเองดูหนังจีนน้อยลง
กับเรื่องนี้ก็ดูด้วยความบังเอิญครับ พอดีเห็นใน Netflix มีพากย์ไทย แล้วพอดีว่าผมชอบหวังเป่าเฉียงจาก Kung Fu Jungle และ Monk Comes Down the Mountain ก็เลยลองดูสักหน่อย
ครั้นพอดูจบก็พบว่าหนังดูเพลินดีเหมือนกัน แล้วก็ตามดูยาวไปจนถึงภาค 3 เลย
ผมชอบหนังมากกว่าที่คิดครับ จุดแรกเลยที่ชอบคือหนังไม่เลอะเทอะ หนังมีทิศทางของมัน นั่นคือเป็นหนังสืบสวนผสมฮาแล้วเจือลีลาแฟนตาซีลงไปอีกหน่อย
ตัวเอกคือฉินเฟิง (หลิวเฮ่าหรัน, Haoran Liu) หนุ่มอัจฉริยะที่ชอบไขคดี กับถังเหริน (หวังเป่าเฉียง, Baoqiang Wang) ลุงของฉินเฟิงที่จริงๆ ก็เป็นนักสืบอยู่ที่เยาวราชครับ แต่พี่ท่านออกแนวกะล่อนไหลไปเรื่อย เอาตัวรอดไปวันๆ มากกว่า
ทีนี้ฉินเฟิงก็แวะมาเที่ยวเมืองไทย ไปอยู่กับถังเหริน แต่พอดีที่ถังเหรินดันตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม งานนี้ลุงหลานเลยต้องร่วมมือกันตามสืบหาความจริงว่าตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น และใครคือฆาตกรตัวจริงกันแน่
หนังดูเพลินได้เรื่อยๆ ครับ ความฮามีมาเรื่อยๆ สำหรับผมแล้วหนังถือว่าฮาแบบกลางๆ ครับ คือไม่ได้ขำหนักมาก แต่ก็ตลกพอสนุกไปกับเรื่องราวได้
แน่นอนว่าทีมพากย์พันธมิตรคืออีกหนึ่งพลังฮาสำคัญครับ และผมว่าเป็นการพากย์ที่พอเหมาะกับตัวละครนะ อย่างน่าโต๊ะพากย์เป็นฉินเฟิง ก็ดูเป็นพระเอกละอ่อน คอยตบมุกแบบเนียนๆ ไม่หลุดจากคาแรคเตอร์ ส่วนน้าติ่งก็บ้าเต็มคราบกับบทถังเหรินครับ
เรียกว่าในหนังก็เล่นมุกท่าทางกันไป ทีมพากย์ก็ตบมุกคำพูดเข้าไป ทั้งสองส่วนสอดประสานกันสร้างความบันเทิงได้อย่างพอเหมาะ
อย่างที่บอกครับว่าผมชอบที่หนังไม่เลอะเทอะจนเกินไป ไม่เหมือนหนังจีนหลายๆ เรื่องที่ชอบเดินเรื่องแวะไปโน่นไปนี่ บางทีเรื่องก็ไม่ได้ต่อกัน แต่มันเป็นการใส่ฉากต่างๆ ลงมาเพื่อให้เวลามันครบมากกว่า
ในขณะที่เรื่องนี้แต่ละฉากแต่ละตอนก็ยังอยู่ในประเด็นการสืบคดีครับ อาจมีบ้างบางฉากที่ไม่ต้องใส่ลงมาก็ได้ (อย่างสารพัดฉากที่ตำรวจไทย (ในเรื่อง) มาตีกันเป็นต้น) แต่ก็ไม่เยอะเกินครับ ยังพอรับได้ แต่ขณะเดียวกันก็แอบคิดครับว่าถ้าซอยบางฉากออกไปบ้างหนังคงกระชับขึ้น (หนังเรื่องนี้ยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 16 นาทีครับ ก็จัดว่ายาวอยู่เหมือนกัน)
จุดต่อมาที่ชอบคือการไขคดีนี่นับว่าใช้ได้ครับ คดีมีความซับซ้อน มีการหักมุมอยู่พอตัว ซึ่งอันนี้ต้องบอกก่อนครับว่ามันอาจไม่ได้แปลกใหม่อะไรสำหรับคนที่ชอบดูหนัง/ซีรี่ส์/การ์ตูนแนวสืบสวน ประเภทอ่านคินดะอิจิ, โคนัน, ดูหนังอย่าง Sherlock Holmes หรือซีรี่ส์อย่าง CSI, NCIS และ Sherlock ต่างๆ มา อย่างผมเองก็ไม่ได้ชอบในเรื่องความสดใหม่ แต่ชอบในแง่การนำเสนอที่เล่าได้น่าสนใจ
โดยเฉพาะฉากตอนที่ฉินเฟิงไขคดีเป็นช็อตๆ แล้วฉากก็ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์หลักฐานต่างๆ ถือว่าออกแบบฉากบอกเล่าได้เข้าท่าดีครับ นับว่าสร้างสรรค์และฉากที่ว่านี่ก็กลายเป็นเอกลักษณ์ของหนังชุดนี้ไปเลย ประมาณว่าทุกภาคต้องมีครับ ถือเป็นไฮไลท์หนึ่งของหนังทีเดียว
จุดนี้ยอมรับว่าแอบเซอร์ไพรส์ครับ เพราะตอนแรกไม่คิดว่าหนังจะให้ความสำคัญกับเรื่องการไขคดีขนาดนี้ ตอนแรกนึกว่าจะแค่พูดๆ ไขๆ แบบหนังทั่วไป แต่นี่ถึงขั้นเนรมิตฉากจำลองสถานการณ์ใส่ลงมาเลย – จุดนี้แอบประทับใจครับ
ตัวละครในเรื่องรายที่น่าจดจำหน่อยก็ยกให้คุนไท่ (Yang Xiao) นายตำรวจที่สนิทกับถังเหริน, อาเซียง (Liya Tong) เจ๊เจ้าของห้องเช่าของถังเหริน และสโนว์ (จางจื่อเฟิง, Zifeng Zhang) สาวน้อยที่มีส่วนอย่างยิ่งในการไขคดี
โดยรวมแล้วหนังใช้ได้ครับ โอเคในแบบของมัน หนังอาจมีอะไรเว่อร์ๆ บ้าง แต่ก็อย่างที่บอกไว้น่ะครับว่าหนังเจือความเป็นแฟนตาซีแบบการ์ตูนลงไปด้วย ไม่ได้สืบสวนแบบจริงจังเต็มร้อย ถ้าดูแบบไม่คิดมาก เสพความสนุกผมว่าก็ตอบโจทย์อยู่นะ
หนังอาจไม่ถึงกับสุดยอดครับ แต่ดูสนุกเพลิน ฮาบ้าง สืบคดีบ้าง ดูคลายเครียดก็ได้ หรือจะดูเอาเนื้อหาหนังก็มีให้-ไม่เบาโหวง มีดราม่าสอดแทรกเล็กๆ ครบรสอยู่เหมือนกัน
อีกอย่างที่ผมชอบคือเพลงครับ หนังใส่เพลงประกอบลงมาได้เหมาะมากๆ ยิ่งใครคุ้นเคยกับเพลงจีนสมัยก่อนก็น่าจะสนุกล่ะครับ ทั้งเพราะทั้งชวนให้นึกถึงวันเก่าๆ เป็นส่วนเสริมความบันเทิงให้กับหนังได้อย่างดี (บ้านเราก็มีเพลงตาผุยชุมแพครับ เลือกมาได้เหมาะทีเดียว)
แต่ระหว่างดูอาจมีทุกข์แบบคนไทยเกิดขึ้นนิดๆ อย่างฉากที่ 2 ตัวเอกหนีตำรวจน่ะครับ พวกพี่ตั้งต้นหนีจากแถวเยาวราช แต่กลายเป็นว่าฉากต่อมาดันมาลงเอยที่ตลาดน้ำ อันนี้รู้สึกเลยว่าไม่เนียน (555)
ถือเป็นหนังจีนที่น่าลองครับ ดูแล้วพอเข้าใจเลยว่าทำไมมันฮิต ก็เพราะมันเพลินดีน่ะครับ เป็นส่วนผสมที่ไม่เลวคนชอบหนังตลกก็ดูได้ ชอบหนังสืบสวนก็ดูได้ ชอบหนังเอามันส์เอาเพลินก็ดูได้
ดูแบบไม่ต้องคาดหวังอะไรมากครับ ตอบโจทย์ความสนุกสนานล้วนๆ
สองดาวใกล้ครึ่งครับ
(6.5/10)