สิ่งที่ผมได้รับรู้ก่อนดู Texas Chainsaw Massacre ภาคนี้ก็คือ หนังสร้างโดย Legendary Pictures ครับ และพอหนังสร้างเสร็จค่ายก็ฉายรอบทดลอง ผลปรากฏว่าคนดูส่ายหน้ากันเป็นทิวแถว (บางกระแสบอกว่าถึงขั้น “หายนะ”) ในที่สุดทางค่ายก็ตัดสินใจขายสิทธิ์ให้ Netflix หนังเลยส่งตรงลงออนไลน์มาให้เราดูกัน
ในเบื้องต้นผมเลยไม่คาดหวังครับ และผลลัพธ์สำหรับผมก็ถือว่าพอไหวนะ
ว่ากันถึงจุดดีก่อน ผมว่าหนังโหดในระดับน่าพอใจครับ ใครเป็นคอหนังแนวเชือดเลือดสาด แขนขาขาดอยู่ไม่ครบนี่น่าจะโอเค หนังถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้ได้ไม่เลว พี่เลทเธอร์เฟซภาคนี้โหดและอำมหิตอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะฉากฆาตกรรมเป็นหมู่คณะนี่ยอมรับเลยว่าสยองและชวนหดหู่เอาเรื่อง
เนื้อเรื่องภาคนี้ว่าด้วยเหล่าวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเดินทางมายังเมืองฮาร์โลว์ในเท็กซัส โดยกะว่าจะฟื้นฟูเมืองร้างแห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่ไปๆ มาๆ พวกพี่เขาดันไปก่อเรื่องปลุกนรกเข้า ทำให้พี่เลทเธอร์เฟซแกกลับมาอีกครั้งครับ งานนี้เลยต้องหนีตายเอาชีวิตรอดกันจ้าละหวั่น
พูดก็พูดครับ ผมแอบเข้าข้างพี่เลทเธอร์เฟซนะ เพราะจริงๆ ตอนแรกพี่เขายังไม่ทำอะไรใครครับ แต่เรื่องมันดันบานปลายเพราะเหล่าตัวเอกใช้อารมณ์ ใจร้อนไปหน่อย นรกเลยแตกแบบหยุดไม่อยู่
และหนังถือว่าเดินตามรอย Halloween ภาคใหม่ครับ เพราะสิงหาสับภาคนี้นี่เขากำหนดให้เป็นภาคต่อโดยตรงจากสิงหาสับภาคแรก มีการนำพาตัวละครอย่างแซลลี่ ผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียวจากภาคแรกกลับมามีบทบาทอีกครั้ง (ซึ่งในเรื่องใช้นักแสดงคนใหม่ครับ เป็น Olwen Fouéré มารับบท เนื่องจาก Marilyn Burns เจ้าของบทแซลลี่ดั้งเดิมได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2014 ครับ) ซึ่งจริงๆ มันก็น่าสนใจดี
แต่ปัญหาประการสำคัญของหนังภาคนี้คือตัวละครส่วนใหญ่ออกแนวน่ารำคาญครับ บางทีก็ใช้อารมณ์จนเป็นเรื่อง บางทีก็ทำอะไรแบบไม่ฉลาด ซึ่งก็พอเข้าใจน่ะครับว่าบทหนังเขาก็ต้องเขียนมาแบบเอื้อให้เรื่องมันเกิด เอื้อให้พี่เลทเธอร์เฟซได้ร่ายรำเลื่อยยนต์ แต่ใจก็คิดน่ะครับว่าเขียนบทให้ตัวละครดูฉลาดกว่านี้ก็ได้ มันจะได้มีลุ้น มีความสดใหม่ให้ตื่นเต้น
ประมาณว่านี่ขนาดตัวละครฉลาดแล้วนะ แต่พี่เลทเธอร์เฟซยังรอบจัดกว่า สามารถหาทางฆ่าได้อะไรแบบเนี้ย มันก็น่าจะสนุกอยู่
ยอมรับว่าแอบหงุดหงิดหลายจังหวะ บางช่วงเราแทบจะตะโกนเลยนะว่า “หนีสิครับ หนีเร็วๆ จะอยู่ให้มันมาเหรอ” หรือบางช่วงตัวละครมีโอกาสเล่นงานเลทเธอร์เฟซได้แท้ๆ แต่ก็ดันไม่ทำ (แม้บทจะพยายามใส่เหตุผลในจุดนี้ แต่บอกตรงๆ ครับว่าผมส่ายหน้าเลย คือมันไม่ใช่เน่อ)
แม้ตอนดูจะแอบบ่นบ้าง แต่อย่างน้อยด้านความโหดเลือดสาดก็โอเคได้อยู่ครับ ใครคาดหวังอะไรตรงนี้บอกเลยว่าตอบโจทย์พอสมควร
และผมบอกไว้ว่าหนังเดินตามรอย Halloween ใช่ไหมครับ ถ้าพูดถึงประเด็นนี้ก็ขอบอกเลยว่ามุกคล้ายๆ กัน คือให้แซลลี่มาทำตัวเหมือนลอรี่ สโตรด มาทวงแค้นที่พี่เลทเธอร์เฟซทำไว้เมื่ออดีต แต่ความสนุก ความลุ้น ความมันส์นี่สู้ไม่ได้ครับ – ก็พูดตรงๆ น่ะนะครับว่าบทของแซลลี่นี่ก็ออกแนวความแค้นบังตา ปัญญาหล่นหายเหมือนกัน
แง่คิดสำคัญของเรื่องคงหนีไม่พ้น จะทำอะไรให้ใจเย็นๆ ครับ อย่าใจร้อน อย่าใจเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเกิดกรณีพิพาทเกิดความขัดแย้ง อย่าด่วนคิดว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกเสมอไป ใจต้องนิ่งลงสักนิด ค่อยๆ เจรจากันดีๆ
และที่สำคัญกว่านั้นคือ แถบไหนถิ่นไหนที่เขาว่ามีฆาตกรโหดลอยนวล หรือมีอาถรรพ์มีตำนานร่ำลือกันแล้วล่ะก็… อย่าไปยุ่ง! อย่าไปเฉียดกรายในระยะ 10 กิโลเลยจะดีที่สุดครับ
โดยรวมแล้ว หนังจัดว่าเวิร์กในแง่ของฉากโหดครับ แต่เนื้อเรื่องไม่ใคร่จะเวิร์กนัก
เกือบสองดาวครับ
(5.5/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Horror, Slasher Movies, Thrillers