Christmas with the Darlings อีกหนึ่งหนังรักวันคริสต์มาสครับ ตัวเอกคือ เจสสิก้า ลิว (Katrina Law จากซีรี่ส์ Arrow) ผู้ช่วยสาวของนักธุรกิจใหญ่ชาร์ลส์ ดาร์ลิงตัน (Steve Bacic) ซึ่งพอดีว่าชาร์ลส์จะต้องไปทำธุรกิจที่ยุโรปครับ เขาเลยขอให้เจสสิก้าช่วยรับหน้าที่ดูแลหลาน 3 คนของเขาระหว่างที่เขาไม่อยู่
ขณะเดียวกันแม็กซ์ (Carlo Marks) น้องของชาร์ลส์ก็มาร่วมดูแลหลานๆ ด้วย ทีนี้ก็คงพอจะเดาได้ล่ะนะครับว่าระหว่างการดูแลเด็กๆ หัวใจของแม็กซ์และเจสสิก้าก็จะต้องเกิดอาหารปิ๊งปั๊งกันอย่างแน่นอน ตามสูตรครับ ตามสูตร
สำหรับเรื่องนี้ หนังมีเนื้อเรื่องที่ดีครับ เพราะไม่ใช่แค่ให้พระเอกนางเอกมารักกันอย่างเดียว แต่ยังให้ความรักก่อตัวท่ามกลางการดูแลเด็กน้อยทั้ง 3 คนซึ่งเป็นกำพร้าครับ ดังนั้นหนังก็เลยเดินเรื่องใน 2 ส่วนพร้อมกัน คือส่วนที่พระ-นางเกิดความรู้สึกดีต่อกันทีละน้อย และอีกส่วนคือความรักความห่วงใยที่พวกเขามีให้เด็กๆ ซึ่งก็ทำให้เกิดวาระน่ารักๆ อยู่เป็นระยะครับ
ครับ เนื้อเรื่องดี แต่ถ้าถามว่าการเล่าเรื่องลื่นหรือไม่ ก็ตอบได้ว่าพอดูได้เพลินๆ ครับ การเดินเรื่องยังไม่ถึงกับลื่นไหลมากนัก แต่อย่างน้อย Marks กับ Law ก็แสดงคู่กันได้ดีครับ ดูแล้วเชื่อว่าพวกเขามีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ในขณะที่ตัวละครเด็กๆ นั้นผมก็นึกถึงหนังสมัยก่อนนะ เพราะปกติตัวละครเด็กๆ จะช่วยเสริมเพิ่มชีวิตชีวาให้กับหนัง ด้วยความน่ารัก ไร้เดียงสา หรือแก่นแก้วบางประการของพวกเขา ทว่าดาราเด็กในเรื่องอาจไม่ถึงกับโดดเด่นหากเทียบกับหนังยุค 90 ว่าง่ายๆ คือการแสดงนั้นยังค่อนข้างดูเป็นการแสดงน่ะครับ ไม่ถึงกับเป็นธรรมชาติมากนัก เลยทำให้ความน่ารักจากเด็กๆ ไม่ค่อยเปล่งรัศมีเท่าไรสำหรับเรืองนี้
ขณะเดียวกันบรรยากาศวันคริสต์มาสก็ถือว่ากลางๆ ครับ การประดับประดาไฟหรือภาพสวยๆ อะไรอาจจะไม่โดดเด่นนัก แต่หนังเลือกจะสร้างบรรยากาศความเป็นคริสต์มาสผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ตัวละครมาทำร่วมกัน ซึ่งถ้าว่ากันถึงกิจกรรมแล้วมันก็ดูเป็นคริสต์มาสอยู่น่ะครับ ไม่ว่าจะทำคุกกี้คริสต์มาสด้วยกัน หรือประดับต้นคริสต์มาสด้วยกัน เพียงแต่ในเชิงอารมณ์แล้วกลิ่นอายแบบหนังคริสต์มาสก็อาจจะยังไม่ถึงเครื่องนัก (กลิ่นอายแบบความอบอุ่น ความรัก ความอาทรระหว่างกัน อะไรเหล่านี้เราเห็นเป็นภาพครับ แต่ในแง่อารมณ์มันยังไม่มากถึงระดับที่จะบิ้วให้เกิดความรู้สึกเหล่านั้นในใจเราได้)
โดยส่วนตัวผมว่าหนังดูได้เรื่อยๆ ครับ อย่างน้อยพระ-นางก็เข้าคู่กันได้น่ารักดี และหนังยังสอดแทรกเรื่องของการให้เวลากันและกันในครอบครัว การห่วงใย เอื้ออาทร การหมั่นสังเกตว่าเด็กๆ มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปไหม มีอะไรในใจหรือเปล่า หากมีเรื่องไม่สบายใจ ผู้ใหญ่อย่างเราๆ นี่แหละครับที่เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้เด็กน้อยบรรเทาเรื่องไม่สบายใจนั้นลง หรือพวกเขาอาจมีเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ ก็มีผู้ใหญ่อย่างพวกเราอีกนั่นแหละครับที่จะช่วยประคับประคองสอนวิชาชีวิตให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นจากประสบการณ์ที่พวกเขาได้พบพาน
อีกอย่างที่ผมชอบก็คงเป็นเรื่องที่พระเอกและนางเอกต่างก็มีปมชีวิตของตนครับ อย่างแม็กซ์ก็มีปมเรื่องการรับผิดชอบในหน้าที่การงาน เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาค่อนข้างที่จะเป็นคนรักอิสระน่ะครับ จนทำให้พี่ชายอย่างชาร์ลส์มองว่าแม็กซ์จะออกแนวลอยไปลอยมา เลยไม่ใคร่จะไว้ใจในเรื่องการทำงาน อันทำให้แม็กซ์ต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ชาร์ลส์เห็น ซึ่งเรื่องของแม็กซ์ก็ให้แง่คิดในเรื่องการทำงานเหมือนกัน ว่าคนเรานั้นสามารถทำอะไรได้อีกมากมายหลายอย่างครับ ขอเพียงมีความตั้งใจและความพยายามที่มากพอ สิ่งที่เรามุ่งหวังก็อาจสัมฤทธิ์ผลได้
ส่วนตัวของเจสสิก้าเองก็มีปมเกี่ยวกับงานเหมือนกันครับ นั่นคือการเลือกที่จะทำงานที่ตนใฝ่ฝันมานาน ซึ่งบางทีกว่าจะตัดสินใจเลือกได้ก็ต้องให้เวลาตัวเองในการไตร่ตรองค้นหาคำตอบ และที่สำคัญคือต้องมี “ความกล้า” หากงานที่ว่าเป็นเส้นทางใหม่ที่ตนไม่เคยได้ลองมาก่อน เพราะมันไม่มีอะไรการันตีครับว่าหากเลือกงานนั้นแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นไปอย่างที่หวัง ของแบบนี้นอกจากต้องคิดดีๆ แล้วยังต้องกล้าที่จะก้าวไปยังทางสายใหม่ พร้อมทั้งตั้งใจทำงานให้เต็มที่ และพร้อมที่จะปรับตัวตามสถานการณ์เพื่อให้สามารถเริ่มต้นงานใหม่ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังต้องเตรียมพร้อมที่จะรับกับสิ่งที่ไม่คาดฝันด้วย – เพราะบางทีเวลาเราจะทำงานใหม่ ก่อนทำเราอาจมองเห็นแต่ด้านบวก ไม่ได้เตรียมใจที่จะรับ “ด้านลบของงานนั้น” ซึ่งเราก็ควรตั้งตัวตั้งรับสำหรับมุมลบที่ไม่คาดฝันเอาไว้ด้วยครับ
สรุปแล้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วก็สบายใจดีครับ แต่กระนั้นก็… เหมือนเดิมน่ะครับ แบบที่ผมมักจะเขียนบ่อยๆ ยามเขียนถึงหนังรักในวันคริสต์มาสยุคใหม่ๆ ผมจะรู้สึกว่าหลายๆ เรื่องมันจะขาดเสน่ห์บางประการของหนังแนวนี้ไป เป็นเสน่ห์ที่หนังยุค 90 – 2000 จะมี แต่หนังยุคใหม่หลายเรื่องเหมือนจะหายๆ ไป เช่น ลีลาลูกเล่น เทคนิคการเล่าเรื่องที่มีสีสัน หรือการบิ้วอารมณ์ให้เราอิน ฯลฯ อย่างเรื่องนี้ก็จะเล่าแบบเส้นตรงจนดูธรรมดาไปสักหน่อย
ก็ดูแบบไม่คิดมากได้ครับ ดูเพื่อรับพลังบวก ก็สบายใจดี
สองดาวกว่าๆ ครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Christmas Movies, Comedy, Drama, Romance