รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Too Close for Christmas (2020) คริสต์มาสหรรษา พาใจเรามาใกล้กัน

Untitled07167

Too Close for Christmas หนังโรแมนติกวันคริสต์มาสครับ เรื่องของเฮลี่ย์ ปาร์คเกอร์ (Jessica Lowndes) สาวเก่งนักจัดอีเว้นท์ที่ต้องมาใช้เวลาในช่วงคริสต์มาสกับ พอล บาร์เนตต์ (Chad Michael Murray) หนุ่มขวานผ่าซากที่เธอยังแอบโกรธเขาอยู่ เนื่องจากเขามีส่วนทำให้เธอกับแฟนเก่าต้องเลิกกันไปเมื่อปีก่อน

แต่ก็ตามสูตรครับ เมื่อเฮลี่ย์กับพอลได้ใช้เวลาร่วมกัน เฮลี่ย์ก็เริ่มรู้สึกดีกับพอลมากขึ้นทีละน้อย เช่นเดียวกับพอลที่สัมผัสได้ถึงความน่ารักของเฮลี่ย์… ก็คงเดากันได้น่ะนะครับว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะมาลงเอยกันหรือไม่

ครับ หนังถือว่าดูได้เพลินๆ ตามแบบฉบับหนังสูตรสำเร็จ อาจไม่ถึงกับสุดยอด แต่ก็ดูเอาความสบายใจได้แบบสบายๆ ครับ สิ่งที่ถือว่ายอดเยี่ยมอย่างมากของหนังเรื่องนี้ผมยกให้ความสวยของภาพครับ เพราะเหตุการณ์ของหนังเกิดในช่วงคริสต์มาส เราก็จะได้เห็นฉากหลังเป็นบรรยากาศของเทศกาล มีไฟประดับสวยๆ ให้เห็นอยู่เกือบตลอด ซึ่งผู้กำกับภาพ Jonathan Yapp ก็สามารถวางช็อตจับภาพสวยๆ มาเสิร์ฟบนจอได้อย่างเหมาะเหม็ง สำหรับผมแล้วนี่ถือว่าเป็นอาหารตาชั้นเยี่ยมครับ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ร่วมฉากร่วมเทศกาลกับเขาด้วย ได้อารมณ์ประมาณว่าไปที่ไหนก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขยังไงยังงั้น

ในขณะที่เนื้อเรื่องก็ตามสูตรครับ ตอนแรกพระเอกนางเอกจะต้องไม่ถูกกันก่อน เขม่นกันเป็นพักๆ แต่แล้วก็จะต้องมีเหตุให้พวกเขามาทำอะไรร่วมกัน แล้วตอนนั้นต่างคนต่างก็จะตระหนักว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนดี มีมุมน่ารักอยู่เหมือนกัน แล้วใจพวกเขาก็จะเริ่มสะกัดกัน ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำในส่วนนี้ได้โอเคครับ อีกทั้ง 2 ดารานำ Murray และ Lowndes ถือว่าเล่นคู่กันได้ดี หลายครั้งครับเวลาที่พวกเขาพูดคุยแบบเปิดใจกัน หรือแบ่งปันความคิดความเห็นกัน ดูเคมีเข้ากันไม่เลว

ผมชอบคาแรคเตอร์ของพอลครับ แม้พี่ท่านจะดูเป็นคนตรงๆ แต่เขาก็มีข้อดีคือเป็นคนที่ช่างสังเกต เขาจะสามารถจับความรู้สึกของนางเอกได้ว่าตอนนั้นอยากหรือไม่อยากทำอะไร หรือตอนนั้นกำลังไม่สบายใจอยู่ไหม ผมว่ามันน่ารักครับ เป็นอะไรที่น่ารักดี และ Murray ก็แสดงบทแบบนี้ได้เข้าท่าด้วย

ดนตรีของ Christopher Guglick ก็ถือว่าพอเหมาะครับ อย่างฉากพอลกับเฮลี่ย์นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน ดนตรีที่คลออยู่เบื้อหลังช่วยเสริมอารมณ์ให้ฉากนี้ได้อย่างพอเหมาะทีเดียว ไม่มากไป แล้วก็ไม่น้อยไปครับ

เป็นหนังรักวันคริสต์มาสอีกเรื่องที่ดูแล้วสบายใจดีครับ ดูเพื่อผ่อนคลายได้เพลินๆ เลย แต่ก็ต้องบอกกันอยู่เสมอๆ ครับว่าความครบเครื่องอาจจะไม่มากเท่าหนังรักสมัยยุค 90 – 2000 ซึ่งถ้าจะมองถึงจุดอ่อนของหนังก็จะพบว่าเรื่องนี้เหมือนกับหนังแนวนี้อีกหลายๆ เรื่องที่จะโฟกัสแต่พระ-นางเป็นหลัก ในขณะบทตัวละครสมทบโดยรอบจะมีบทบาทน้อย ทั้งๆ ที่หากเป็นหนังสมัยก่อนแล้ว บทสมทบนี่แหละครับเป็นเครื่องชูรสชั้นดี ช่วยเสริมความอร่อยให้กับหนังได้อย่างยอดเยี่ยม (จำได้เลยว่าสมัยนั้น ดาราหลายคนแจ้งเกิดหรือเป็นที่จดจำได้ก็เพราะบทสมทบชูรสแบบนี้แหละ)

อีกอย่างคือประเด็นเชิงสาระในหนังที่แม้จะมีใส่ลงไปบ้างแต่ก็เป็นในระดับผิวๆ เท่านั้นครับ เช่น การที่พอลเป็นคนชอบเดินทางไปที่ต่างๆ ทั่วโลกก็เหมือนกับเป็นการตามหาอะไรสักอย่างมาเติมเต็มให้กับชีวิต แต่แล้วพอเขาได้เจอเฮลี่ย์เขาก็เริ่มตระหนักครับว่าเธอนี่แหละคือสิ่งที่เติมเต็มเขาได้ โดยที่เขาไม่ต้องเดินทางค่อนโลกเพื่อตามหาอะไรอีก แต่ก็อย่างที่บอกครับว่าประเด็นนี้ถูกบอกแบบผ่านๆ ไม่ได้ลงลึกอะไร ซึ่งจริงๆ ผมก็มองประเด็นนี้ออกเป็น 2 แบบนะ แบบแรกคือบทถูกเขียนมาเพียงผิวๆ แบบนี้จริงๆ หรือจริงๆ แล้วตัวบทมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ผู้กำกับหรือผู้สร้างซอยออกจนเหลือเท่าที่เห็น ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเป็นอันไหน แต่ที่แน่ๆ คือรู้เพียงว่าประเด็นเกี่ยวกับตัวละครไม่ค่อยได้รับการลงลึกสักเท่าไรเท่านั้นเอง (แบบนี้ก็เป็นกันหลายเรื่องเหมือนกันครับ)

เอาเป็นว่าดูได้เรื่อยๆ (ขอเพียงอย่าคาดหวังน่ะนะครับ) ระดับความน่าพอใจถือว่ากลางๆ ครับ เนื้อเรื่องอาจพื้นๆ แต่หนังมาเด่นตรงการวางช็อตสวยๆ ได้บรรยากาศวันคริสต์มาสครับ

สองดาวครับ

Star21

(6/10)

Untitled07168