รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Grounded for Christmas (2019) คริสต์มาสนี้ รักไม่มีกั๊ก

grounded-for-christmas-366205

Grounded for Christmas หนังรักวันคริสต์มาสที่มาในสูตร “แกล้งเป็นแฟนหลอกๆ แต่สุดท้ายก็ได้เป็นแฟนกันจริงๆ” ครับ

คู่พระ-นางในเรื่องก็คือเบรดี้ (Corey Sevier) และนีน่า (Julianna Guill) ที่ประกอบอาชีพเป็นนักบินทั้งคู่ แต่พอดีว่าตอนนั้นในเมืองเกิดพายุหิมะลูกใหญ่ทำให้เที่ยวบินทุกไฟลท์ถูกยกเลิกครับ และพอพวกเขาไม่สามารถหาที่พักได้ นีน่าเลยเสนอว่าจะไปพักค้างกันที่บ้านของพ่อแม่เธอ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองมากนัก

แต่ทีนี้ทางครอบครัวของนีน่ามักจะชอบถามไถ่เรื่องว่านีน่ามีแฟนหรือยัง จะแต่งงานเมื่อไร จนนีน่าเองก็อึดอัดและเป็นเหตุให้เธอไม่อยากจะกลับบ้านในวันคริสต์มาสมาหลายปี สุดท้ายเลยขอให้เบรดี้ช่วยแกล้งเป็นแฟนเธอที เพื่อจะได้ตัดปัญหา และอีกอย่างก็คือพวกเขากะจะพักแค่คืนเดียวเท่านั้น เดี๋ยววันรุ่งขึ้นพอพายุซาแล้วก็ค่อยต่างคนต่างไป

แต่ที่ไหนได้พายุดันอยู่นานกว่าที่คิดครับ พวกเขาเลยจำต้องเป็นแฟนปลอมๆ กันต่อไปอีกหลายวัน แล้วนั่นล่ะคับที่ทำให้พวกเขาได้รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้น และแล้วกามเทพก็เริ่มแผลงศรให้พวกเขาเกิดความรักต่อกันจนได้

ช่วงต้นๆ ตอนพวกเขาปลอมเป็นแฟนกันอาจดูขัดๆ หรือดูไม่เข้าที่เข้าทางบ้าง ซึ่งก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นเจตนาของหนังก็ได้น่ะนะครับ ที่ทำให้พวกเขาดูผิดที่ผิดทาง บางอย่างดูแปร่งๆ ปร่าๆ แต่พอพวกเขาเริ่มรู้จักกัน ทีนี้อารมณ์โรแมนติกเริ่มไหลมาครับ พวกเขาดูเข้ากันมากขึ้นๆ ก็ถือว่าพระ-นาง Sevier และ Guill แสดงคู่กันได้ไม่เลวครับ

ตัวหนังนั้นถือว่ากลางๆ ครับ ช่วงครึ่งแรกหนังอาจดูเรื่อยๆ ยังไม่มีอะไรมากนัก แต่หนังจะมาดูเวิร์กเอาครึ่งหลัง เมื่อเบรดี้กับนีน่าเริ่มเปิดใจให้กัน ซึ่งไม่ต้องเดาก็คงรู้น่ะนะครับว่าพวกเขาได้ลงเอยกันแน่นอน แต่ก่อนจะถึงวาระนั้นมันก็ต้องมีอุปสรรคเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งอุปสรรคในเรื่องนี้ก็ถือว่าโอเคอยู่ครับ

อันนี้ต้องบอกก่อนว่าปกติหนังแนวนี้พอเรื่องดำเนินไปใกล้จะจบ มันต้องมีเหตุให้พระ-นางทะเลาะกันครับ ซึ่งก็มีหนังหลายเรื่องอยู่ที่ทำในจุดนี้ออกมาดูไม่เนียน บางเรื่องนี่เหมือนจู่ๆ ก็ให้พระ-นางขาดสติทะเลาะกันแบบดื้อๆ ซึ่งแบบนั้นก็ต้องถือว่าบทจุดนี้เขียนไม่เนียนเท่าไร แต่กับเรื่องนี้ถือว่าเนียนพอได้ครับ ดูจากเหตุจากอะไรแล้วก็ถือว่าพอเหมาะที่จะทำให้พระ-นางทะเลาะกัน ซึ่งจากนั้นเราก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะกลับมาหากันอีกครั้งได้อย่างไร (แต่สารภาพว่าผมก็ไม่ค่อยลุ้นเท่าไรครับ เพราะยังไงก็ต้องกลับมาคู่กันอยู่แล้วนี่หน่า 555)

โดยรวมแล้วหนังก็สนุกอยู่ครับ เพียงแต่ถ้าพูดกันถึงบรรยากาศวันคริสต์มาสประเภทไฟประดับประกอบฉากแล้วเพิ่มความสวยงามให้กับฉากนั้นๆ ในเรื่องนี้จะไม่ค่อยเท่าไรครับ แต่หนังเลือกที่จะเสริมอารมณ์แห่งวันคริสต์มาสด้วยเรื่องของครอบครัวแทน ไม่ว่าจะความรักของคนในครอบครัว ความห่วงใยและปรารถนาดีต่อกัน หรือตัวนีน่าเองที่เธอมักจะมองว่าครอบครัวไม่เข้าใจเธอจนเธออยากหลีกหนีไปที่อื่น แต่พอถึงคราวเมื่อเธอพบเรื่องไม่สบายใจ ก็มีครอบครัวนี่แหละครับที่คอยประคับประคองเธอให้ผ่านพ้นไปได้

หนังก็ชวนให้คิดถึงเรื่องสายใยในครอบครัวอยู่เหมือนกันครับ อันนี้ผมก็ยอมรับน่ะนะครับว่าไม่ใช่ทุกครอบครัวในโลกหรอกที่จะทำดีต่อกัน เพราะบางครอบครัวที่แหลกสลายหรือทำเป็นเหมือนคนแปลกหน้ากันน่ะ ก็มีอยู่จริงๆ ซึ่งใครเจอครอบครัวแบบนั้นก็น่าเห็นใจล่ะครับ แต่อย่างน้อยสิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือ เราต้องบอกตัวเองไม่ให้เป็นแบบนั้น ต้องระวังตัวเองไม่ให้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว หรือคนที่ก่อปัญหาให้กับชีวิตของคนอื่น – กล่าวคือ ถึงครอบครัวเราจะไม่ดี แต่เราก็ต้องพยายามทำตัวให้ดีกว่าที่ครอบครัวเราเป็น

หรือหากใครที่ครอบครัวรักใคร่กันก็อยากให้ถนอมเอาไว้ครับ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน เปิดใจคุยกัน ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องค่อยเลิกคุยก็ได้ แต่ขอให้ลองคุยสักหน่อยเถิด เผื่อมันจะเข้าใจกันได้ ซึ่งหนังก็สะท้อนแง่มุมเกี่ยวกับครอบครัวให้เราเก็บไปคิดแบบนิดๆ หน่อยๆ ครับ ไม่ได้ถึงกับลึกอะไร ตามสไตล์หนังแนวนี้น่ะครับ หลายเรื่องแล้วที่มีประเด็นน่าคิด แต่ตัวหนังกลับไม่ต่อยอดสักเท่าไร

หนังอาจไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ถือว่าไม่เลวครับ ดูได้แบบเพลินๆ กลางๆ เหมาะแก่การเปิดดูกับคนรัก หรือไม่ก็ดูเป็นเพื่อนแก้เหงาในวันหนาวๆ อะไรประมาณนั้น

สองดาวครับ

Star21

(6/10)