Action

Fantastic Four: Rise of the Silver Surfer (2007) สี่พลังคนกายสิทธิ์: กำเนิดซิลเวอร์ เซิรฟเฟอร์

Untitled06849

ผมดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนที่มันออกฉายครับ แล้วก็เอามาดูซ้ำอยู่เป็นพักๆ (ก็คือถ้าดูภาคแรกเมื่อไรก็ต้องจัดภาคนี้ต่อท้ายทุกทีไป) แต่ผมก็ไม่เคยเขียนถึงเลย เหตุผลก็ง่ายๆ ครับ นั่นคือไม่รู้จะเขียนอะไรดี 555

จริงๆ ผมว่าหนัง Fantastic Four ชุดนี้เนี่ยต้องถือว่าทำออกมาโดยมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน ภาคหนึ่งประมาณไหนภาคสองก็ประมาณนั้น ในแง่ความสนุกนี่ผมว่าพอๆ กันเลยครับ คือมันอาจไม่ได้สนุกมากหรือน่าจดจำสุดๆ แต่ถ้าถามว่าดูแล้วเพลินไหม? ตอบโจทย์บันเทิงของหนังซูเปอร์ฮีโร่ไหม? ผมว่ามันก็ตอบโจทย์นะ ตัวละครแต่ละตัวก็มีคาแรคเตอร์ชัดเจน มีปมระหว่างตัวละคร มีฮีโร่ มีตัวร้าย มีการปะทะกัน มีฉากช่วยเหลือผู้คน มี Effect มี CG ให้เพลินตา แล้วก็มีการทิ้งเชื้อสำหรับภาคต่อ เนี่ยครับ ครบสูตรครบถ้วนจริงๆ

ภาคนี้กลุ่ม F4 ของเราต้องเผชิญกับการมาของซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ที่ตรงดิ่งมายังโลกตามบัญชาของกาแลคตัส ซึ่งรายหลังนี่ก็มาเพื่อดูดกลืนโลกทั้งใบครับ F4 เลยต้องหาทางยับยั้ง แล้วก็แน่นอนว่าตัวร้ายจากภาคก่อนอย่าง วิคเตอร์ วอน ดูม (Julian McMahon) ก็ตามมาแจมด้วย

ดูภาคนี้ต่อจากภาคแรกแล้วเหมือนดูหนังเรื่องเดียวกันครับ เพราะดาราชุดเดิม ผู้กำกับคนเดิม (Tim Story) คนทำดนตรีคนเดิม (John Ottman) อารมณ์และบรรยากาศก็เหมือนเดิม แต่กระนั้นผมก็ยังแอบชอบภาคแรกมากกว่า ในแง่ของการเดินเรื่องที่พอเหมาะลงตัวกว่า ในขณะที่ภาคนี้พล็อตเยอะขึ้นครับ ไหนจะเรื่องส่วนตัวของ F4, การกลับมาของดูม, ซิลเวอร์ เซิร์ฟเฟอร์ก็มาอีก ในแง่เนื้อหานั้นมีอะไรให้เล่าเยอะ แต่หนังก็เลือกที่จะเล่าแบบง่ายๆ เอาปมนั้นมาต่อปมนี้ เอาปมนี้ไปคลายปมนั้น ซึ่งถ้าดูแบบไม่คิดมากมันก็ง่ายดีน่ะครับ แต่ถ้าจะดูแบบเอาเรื่องหรือเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ แล้ว F4 ภาคนี้ก็จะดูอ่อนไปเลยเหมือนกัน

และจุดสำคัญอีกอย่างคือการปะทะกันระหว่าง F4 กับตัวร้ายที่แม้ภาคนี้จะดูใหญ่ขึ้น แต่ตัวร้ายนี่บทจะแพ้ก็แพ้ง่ายเหลือเกิน ผมว่าภาคแรกตอนจะสยบดูมนี่ดูเหนื่อยและเหงื่อตกกว่าภาคนี้อีกนะครับ ภาคนั้นนี่ F4 ต้องรวมพลังกันแบบเต็มที่ ในขณะที่ภาคนี้เหมือนจะรวบรัดตัดความจนดูง่ายเกินไปสักหน่อย

ดังนั้นโดยรวมๆ แล้ว ภาคนี้ก็พอๆ กับภาคแรกน่ะครับ แต่จะแอบแพ้กันนิดหน่อยในบางจุด แต่ถ้าไม่คิดมากและดูเอามันส์มันก็สนุกดีครับ

Untitled06850

เกร็ดน่ารู้ที่อยากบอกคือ ตอนแรกนั้น นิค ฟิวรี่จะถูกใส่ลงมาในเนื้อเรื่องด้วยนะครับ แต่จนแล้วจนรอดก็มีการเปลี่ยนเอานิคออก แล้วใส่ตัวละครนายพลเฮเกอร์ (Andre Braugher) ลงไปแทน

ภาคนี้ลงทุนไป $130 ล้าน ซึ่งมากกว่าภาคแรกที่ลงทุนไป $100 ล้านครับ แต่ภาคแรกน่ะทำไป $333 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ภาคนี้ทำเงินทั่วโลกไปเพียง $301 ล้านเท่านั้น ซึ่งในสายตาสตูดิโอแล้ว มองว่ามันคือความล้มเหลวครับ และนั่นทำให้แผนทำภาคต่อ รวมถึงภาคแยกที่จะเป็นเรื่องของซิลเวอร์ เซิรฟเฟอร์แบบเดี่ยวๆ ก็เลยโดนพับไป

ครับ ถ้าเอาหนังชุดนี้ไปเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีโร่หลายๆ เรื่องก็อาจให้รู้สึกว่าหนังชุดนี้ดูธรรมดาน่ะนะครับ แต่ถ้ามองเฉพาะหนังชุดนี้แบบไม่เปรียบเทียบอะไรกับใครแล้ว ผมว่ามันก็ดูเอาสนุกได้ครับ อย่างน้อยคือ 4 ดาราที่มารับบท 4 ฮีโร่ ไม่ว่าจะ Ioan Gruffudd (มนุษย์ยางยืด), Jessica Alba (สาวล่องหน), Chris Evans (มนุษย์เพลิง), Michael Chiklis (มนุษย์หิน) แต่ละคนก็ทำหน้าที่ได้ดี สามารถสร้างคาแรคเตอร์เด่นๆ ให้เราจดจำได้ ยิ่ง McMahon ในบทดูมนี่ถือว่าเหมาะมากๆ ทีเดียว ซึ่งความสนุกที่เราได้รับนั้นก็ด้วยพลังการแสดงดีๆ ของพวกเขานี่แหละครับ

ผมมั่นใจว่าตัวเองต้องหยิบหนังชุดนี้มาดูอีกแน่นอนครับ ดูแก้เหงา ดูแก้เบื่อ ดูเมื่ออยากดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ลงสูตรสำเร็จ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนก็คงมีวาระแบบนี้เกิดขึ้นในห้วงอารมณ์เหมือนกัน (อารมณ์ที่ไม่ได้อยากดูหนังซูเปอร์ฮีโร่เข้มข้นหนักแน่น แค่อยากดูคนเหนือมนุษย์มาสร้างความสนุกตรงหน้าจอ)

สองดาวครับ

Star21

(6/10)