แทบจะไม่ต้องบรรยายอะไรอีกแล้วนะครับสำหรับซีรี่ส์แนวสืบสวนที่โด่งดังสุดๆ แห่งยุค กับเรื่องราวของกลุ่ม CSI เจ้าหน้าที่นิติเวชที่ต้องมาสืบคดีจากศพและหลักฐานต่างๆ ที่หล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งนำทีมโดย กิล กริสซั่ม (William Petersen) หัวหน้าโคตรเซียนที่เชี่ยวชาญการสืบ การประยุกต์และการสังเกตแบบสุดๆ ครับ จากหลักฐานต่างๆ เขาสามารถทำนายเหตุที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ ดูไปก็แทบจะคารวะล่ะครับ คนอะไรจะโคตรเซียนได้ขนาดนั้น

ส่วนลูกทีมก็มี แคเธอรีน วิลโลว์ (Marg Helgenberger) อดีตนักเต้นเปลื้องผ้าที่ผันตัวเองมาเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวน, วอร์ริค บราวน์ (Gary Dourdan) CSI ผิวดำที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการพนัน, นิค สโตคส์ (George Eads) รายนี้หน้าดี ล่ำสันครับ และ ซาร่า ไซเดิล (Jorja Fox) CSI สาวที่เพิ่งย้ายมาพร้อมความมั่นใจและอารมณ์ที่ร้อนเอาเรื่องเลย

พวกเขาทั้งหมดก็มาร่วมกันสืบคดีครับ โดยปีแรกนี้ส่วนมากจะเป็นการสอนมวยของพี่กริสซั่ม สอนลูกทีมว่าควรดูจุดไหน ควรทำอะไรก่อนหรือหลัง แล้วก็พยายามช่วยลูกน้องกำจัดจุดอ่อนในตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปอย่างแนบเนียนครับ พี่กริสซั่มไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้านายที่เอาแต่คอยชี้นิ้วสั่งการ เขารู้ว่าควรทำอย่างไรกับลูกน้อง (อันนี้พี่ท่านเลยน่านับถือขึ้นไปอีก)

แล้วหนังยังมีตัวละครอีกรายครับ นั่นคือ ผู้กอง จิม แบรส์ (Paul Guilfoyle) ซึ่งตอนแรกเขาเป็นหัวหน้าหน่วย CSI ครับ แต่ต่อมาเขาก็โดนย้ายกลายเป็นสารวัตรตำรวจแทน ซึ่งตัวละครนี้ตอนแรกก็ดูเหมือนจะเฮี้ยบและทำท่าจะไม่ลงรอยกับชาว CSI นะครับ เห็นมีตีมีงัดข้อกับวอร์ริคด้วย แต่พอเขาเป็นตำรวจก็รู้สึกว่าบุคลิกพี่แกจะเปลี่ยนไป เป็นคนเฮฮา แล้วก็ขี้เล่นด้วยซ้ำ คาดว่าคงเพราะช่วงต้นของซีรี่ส์ทิศทางมันอาจจะยังไม่เข้าที่น่ะครับ แล้วทีมงานก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนมันเริ่มจะมาลงตัวเอาช่วงตอนที่ 10 กว่าๆ ไปนั่นแหละ ซึ่งไปๆ มาๆ บทจิม แบรส์นี่ก็กลายเป็นสีสันไม่แพ้ชาว CSI ไป

แล้วหนังก็ยังมีบทสมทบที่โผล่มาแบบเล็กๆ น้อยๆ นะครับ แต่จะโผล่ทุกตอนในปีต่อๆ ไป คนแรกก็คือ ดร.อัล ร็อบบินส์ (Robert David Hall) เจ้าหน้าที่ชันสูตร กับ เกร็ก แซนเดอร์ส (Eric Szmanda) เจ้าหน้าที่ CSI ระดับ 1 ที่ตอนหลังๆ พี่ท่านก็เริ่มบ้าขึ้นครับ ไม่ใช่เสียสตินะครับ แต่หมายถึงทำตัวฮาๆ มากขึ้น เอาแค่การแต่งตัวนี่ก็เหลือเกินแล้วครับ แล้วพอพี่กริสซั่มเห็น ก็อึ้งครับ มองแบบนิ่งๆ จนเกร็กต้องรีบเดินหลบ แต่แค่นี้ก็ฮามากแล้วล่ะครับ

ในปีแรกนี้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างมันส์สุดๆ ครับ เพราะการที่พี่กริสซั่มแกสอนลูกน้องมันก็เหมือนเป็นการสอนเราไปในตัวด้วย การสืบตามการนึกตามก็เลยทำให้เราพลอยสนุกไปด้วย อันนี้ซีรี่ส์ทำสำเร็จนะครับในการดึงคนดูให้มีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราวได้น่ะ

ส่วนนักแสดงนั้น คัดฝีมือมาทุกคนครับ แต่ละคนเหมาะกับบทมากๆ โดยเฉพาะ Petersen กับบทพี่กริสซั่ม ที่ดูๆ ไปแล้วนึกถึงสมัยที่พี่เขาเคยเล่นเป็นวิล เกรแฮมใน Manhunter (หนังที่สร้างจากนิยาย Red Dragon ตอนแรกของเรื่องราวฮันนิบาล เลคเตอร์น่ะครับ) เรื่องนั้นเขาก็เหมือนกันครับ มานั่งสืบคดี วิเคราะห์หลักฐานแล้วนำไปสู่การคลี่คลายคดี ผมนังเคยมานั่งนึกเล่นๆ เลยว่ากริสซั่มนี่เป็นพี่วิลที่เปลี่ยนชื่อมารึเปล่าหว่า เพราะฝีมือพอกันเลยจริงๆ เรื่องราวมันสนุกก็เพราะได้ดูเขาไขคดีนี่แหละครับ

ช่วงต้นๆ ของซีรี่ส์ดูเหมือนหนังจะทำให้เรื่องราวแต่ละตอนมันต่อๆ กันไปนะครับ แต่ซักพักหนังก็ทำแบบจบในตอนแล้วก็เป็นเช่นนั้นเรื่อยมา ซึ่งก็ถือว่าถูกแล้วล่ะครับ มันสมบูรณ์ในตัวเองดี

ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะได้สัมผัสความมันส์ของเรื่องราวซีรี่ส์นี้แล้วนะครับ แต่ใครที่ยังไม่ได้ดูก็ขอแนะนำให้ดูครับ ซัก 6 ตอนก็ได้ (ก็เช่ามา 3 แผ่นน่ะครับ) หากท่านไม่ชอบก็ไม่ว่ากัน แต่ผมเชื่อว่าท่านน่าจะติดนะครับ

เอาล่ะ ตกลงว่าเรื่องราวดีและคดีเข้มข้นทุกตอน ดาราฟอร์มแข็งมากๆ เพลงนำตรงไตเติ้ล “Who Are You” จังหวะก็เร่งเร้าดี เรื่องราวดำเนินอย่างฉับไวครับ น่าติดตามสุดๆ เป็นซีรี่ส์สืบสวนชั้นเยี่ยมที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ นะครับ ซีรี่ส์อื่นๆ อาจจะมีอืด มีนอกเรื่องบ้าง แต่เรื่องนี้สืบคดีอย่างเข้มข้นกันเลย

และเหนืออื่นใด พี่กริสซั่ม… โคตรเทพครับ

สี่ดาวสถานเดียวครับ

(9/10)