แม้หนังระยะหลังๆ ของพี่ Nicolas Cage จะไม่ค่อยเข้าตา แต่ผมก็ยังตามไปดูเสมอครับ อารมณ์เหมือนเป็นคนรู้จักเก่าแก่ที่ติดตามกันมานาน ยังไงใจก็ยังนึกถึงและพร้อมจะแวะไปให้กำลังใจเสมอหากมีโอกาส
จริงๆ หนังเรื่องนี้น่าจะเข้าทางผมนะ เพราะนอกจากพี่ Cage จะนำแสดงแล้วยังจัดเป็นหนังประเภทสัตว์โลกน่ารักด้วย
พี่ Cage รับบท แฟรงค์ วอลช์ พรานมือฉมังที่สามารถจับเสือจากัวร์ขาวได้จากในป่า ซึ่งมีคนพร้อมจะให้เงินเขาเป็นหลักล้านเพื่อครอบครองเสือตัวนี้ เขาก็เลยขนย้ายมันไปพร้อมกับสัตว์ที่เขาล่ามาได้โดยทางเรือครับ และทีนี้ทางการก็ได้ใช้เรือลำเดียวกันนี้ในการขนนักโทษอย่าง ริชาร์ด ลอฟเลอร์ (Kevin Durand) มือสังหารระดับพระกาฬ ซึ่งอ่านถึงบรรทัดนี้ผมว่าหลายคนคงเดาได้ล่ะนะครับว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ
มันคือการเอา Die Hard มาเจอกับหนังสัตว์โลกน่ารักครับ เหล่าตัวเอกต้องสู้กับสัตว์ร้ายไปพร้อมกับรับมือกับผู้ร้าย ซึ่งก็คือสูตรที่หากทำดีๆ ก็น่าจะเวิร์กอยู่ แต่ถ้าต้องพูดกันตรงๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่ามันไม่เวิร์กหรอกครับ 555
หนังค่อนข้างเนิ่บครับ อารมณ์ตื่นเต้นไม่ใคร่จะมี และส่วนใหญ่มันจะเป็นอะไรที่เราเดาได้ เช่น เราเดาได้ว่าเดี๋ยวเสือจากัวร์ต้องออกมาอาละวาดแน่ และวายร้ายอย่างริชาร์ดต้องหาทางแหกกรงออกมา แต่ตัวละครในเรื่องจะคาดไม่ถึงครับ อย่างฉากที่ริชาร์ดจะหาเรื่องหนีออกจากกรงนี่ แค่ดูก็รู้แล้วครับว่าพี่แกลีลาเพื่อที่จะได้ออกจากกรง เพราะตั้งแต่นาทีแรกๆ ของการปรากฏตัวพี่แกก็ลีลามาตลอด แต่ก็แน่นอนครับว่าเจ้าหน้าที่จะไม่เอะใจ
ช่วงต้นก็แนะนำตัวละครครับ ซึ่งก็เรื่อยๆ นะ ไม่แย่แต่ก็ไม่ดี แต่พอถึงตอนที่พวกตัวเอกต้องสู้กับทั้งผู้ร้ายและสัตว์ร้ายหนังกลับค่อนข้างเรื่อยๆ ครับ ไม่ได้เร่งเร้าหรือตื่นเต้นอะไร พูดแบบชัดๆ เลยก็คือ เวลาส่วนใหญ่ในหนังจะเป็นการสนทนากันระหว่างตัวละครครับ ส่วนฉากไล่ล่าหรือต่อสู้จะมีไม่เยอะ และไม่เยอะที่ว่านี่ก็ไม่ได้มันส์อะไรด้วยครับ
ระหว่างการดูก็มีวาระที่หงุดหงิดบ้างล่ะครับ อย่างริชาร์ดนี่จริงๆ น่าจะโดนเก็บได้ตั้งหลายหนแล้ว แต่ก็มีอันให้พี่แกต้องรอดอยู่เรื่อยไป ก็เข้าใจน่ะนะครับว่าเป็นตัวร้ายหลัก จะให้ตายตั้งแต่แรกก็คงไม่ได้ แต่อย่างน้อยถ้าบทเขียนให้พี่แกร้ายเหนือชั้นกว่าที่เป็น ให้มาหักเหลี่ยมขับเคี่ยวกับแฟรงค์มากกว่านี้ หนังก็คงดูมีอะไรมากกว่าที่เป็นน่ะครับ
ยอมรับเลยครับว่าถ้าผมเป็นคนในเรือล่ะคงเครียดน่าดู เพราะอะไรน่ะเหรอครับ ก็เพราะคำสั่งที่ว่า “ต้องจับเป็นเท่านั้น” นี่แหละ คือพี่แฟรงค์ก็ไม่ยอมให้ใครฆ่าเสือ (แต่คนก็ต้องมาโดนเสือฆ่า) ส่วนเจ้าตัวร้ายริชาร์ดนั่นก็มีคำสั่งว่าห้ามฆ่าอีก คือถ้าทำได้ผมคงโดดออกจากเรือน่ะครับ 555 เพราะมันเหมือนจะบังคับให้รอความตายสถานเดียว
จริงๆ อันนี้ก็ถือเป็นสูตรสำเร็จชนิดหนึ่งของหนังแนวนี้นะครับ มีไม่รู้กี่เรื่องแล้วที่จะต้องมีตัวละครมาบอกว่า “ห้ามฆ่านะ ต้องจับเป็นนะ” แล้วก็ปล่อยให้พวกตัวร้ายฆ่าคนไปเรื่อย ก็อาจเพราะในเรื่องนี้เจอคำสั่งแบบนี้คูณสองล่ะมั้งครับ (ห้ามฆ่าทั้งเสือทั้งนักโทษ) ผมเลยออกจะรู้สึกว่ามันน่ารำคาญยังไงก็ไม่รู้สิแฮะ
ในแง่การแสดงนั้น พี่ Cage ก็เล่นได้ดีตามอัตภาพน่ะครับ แต่บทมันไม่เปิดโอกาสให้เขาแสดงอะไรน่ะ จริงๆ เอาใครมาเล่นก็ไม่ต่างกัน แต่อีกคนที่ทำให้รู้สึกแปลกตาไปสักหน่อยก็คือ Famke Janssen ครับ เหมือนเธอไปทำอะไรกับใบหน้ามาสักอย่าง ใบหน้าของเธอเลยออกจะแปลกไป ซึ่งผมก็ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้น่ะครับ เลยบอกได้แค่ว่าใบหน้าของเธอในหนังเรื่องนี้เปลี่ยนไปจากหนังเรื่องอื่นๆ จริงๆ
หนังกำกับโดย Nick Powell ที่ก่อนหน้าทนี้เคยทำ Outcast มาก่อน (พี่ Cage ก็แสดงครับ) ซึ่งไม่ว่าจะเรื่องนั้นหรือเรื่องนี้ผลลัพธ์ก็ไม่ค่อยจะเวิร์กเท่าไร จะดูหรือไม่ก็ไม่ต่างกันน่ะครับ และมีเกร็ดที่น่าสนใจคือผู้อำนวยการสร้าง Daniel Grodnik ได้บทหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 1995 แล้วครับ ซึ่งเขาก็รอถึง 22 ปีเลยครับกว่าหนังจะได้สร้าง แต่ก็อย่างที่บอกล่ะครับว่าผลลัพธ์มันไม่ใคร่จะเวิร์กสักเท่าไร
สรุปแบบตรงๆ ว่าเรื่องนี้ผ่านๆ ไปก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องชม ยกเว้นอยากดูพี่ Cage แบบไม่เกี่ยงว่าหนังจะเป็นอย่างไร ก็สามารถดูกันได้ แต่ต้องไม่คาดหวังนะครับ
ดาวครึ่งครับ
(5/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Thrillers