โรงเรียนกำจัดผี หรือ Ghost Busting นั้นถือว่าประสบความสำเร็จครับ ในบ้านเราก็จัดว่าดังพอตัว จนทีมงานจากหนังเรื่องนั้นยกกันมาทำหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะผู้กำกับ Sze Yu Lau, ได้พี่หวังจิ้งมาเขียนบทให้ และนำแสดงโดย เฉินไป่เสียน, ชิวซู่เจิน, จงฟะ, ชาร์ลี เฉา เรียกว่ายกพลจากเรื่องนั้นกันมาเลยล่ะ
ด้วยเหตุนี้ในบ้านเราก็เลยใช้ชื่อ “โรงเรียนกำจัดผี 2” นำมาเรียกลูกค้าอีกรอบ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นภาคต่อกันเลยก็ตาม (แบบเดียวกับ ขู่เฮอะ แต่อย่าหลอก น่ะครับ ภาค 1 กับ 2 เป็นคนละเรื่องกัน)
หนังว่าด้วยภาพถ่ายใบหนึ่งที่หมอผีได้สะกดวิญญาณผี 4 ตนเอาไว้ โดยในภาพนั้นมีผีสุดชั่วร้ายอยู่ 3 ตน (นำโดย Ying Kwan Lok) ในขณะที่อีก 1 ตนเป็นสาวรับใช้ (จางเหมี่ยน) ที่จิตใจของเธอนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้ชั่วร้ายเหมือนเจ้านาย
แล้วทีนี้ภาพถ่ายที่ว่าก็หลุดออกมาจากที่คุมขังครับ มันไปอยู่ในครอบครองของหนุ่มแว่นจอมลามก (ชาร์ลี เฉา) ซึ่งบ้านของนายคนนี้อยู่ติดกับบ้านของนายตำรวจคนหนึ่ง (เฉินไป่เสียน) แล้วเพียงไม่นานหนุ่มลามกที่ว่าก็โดนวิญญาณในภาพเล่นงานครับ แล้วจากนั้นเหล่าวิญญาณร้ายก็ออกมาอาศัยอยู่ในบ้านแทน และพวกมันก็เริ่มหาเหยื่อมาดื่มเลือด
ทีนี้ครอบครัวของนายตำรวจบ้างบ้านก็เริ่มสงสัย เพราะมันชอบมีเสียงแปลกๆ ดังมาจากบ้าน และพอพวกเขาเข้าไปแอบสังเกตการณ์ ก็ได้เห็นว่าแท้จริงแล้วเพื่อนบ้านของพวกเขานั้นเป็นผี ดังนั้นการหาวิธีสยบผีก็เลยเริ่มต้นขึ้นครับ
หนังชวนให้นึกถึง Fright Night ผสมกับ The Burbs ส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าดูได้เพลินๆ สำหรับหนังผีผสมตลกครับ แต่บอกได้อย่างหนึ่งว่าในเรื่องนี่ช่วงฉากน่ากลัวก็ถือว่าดูน่ากลัวไม่น้อย อย่างฉากหัวคนขาดกระเด็นหรือฉากที่จู่ๆ ผีตนหนึ่งก็ปากฉีกกว้างถึงหู อะไรเหล่านี้นี่ก็ทำเอาเหวอได้เหมือนกันครับ
ในแง่ความฮาก็ถือว่ามาเรื่อยๆ ครับ จริงๆ โดยโทนหลักแล้วหนังมันออกแนวฮาครับ แต่ก็อย่างที่บอกว่าบทจะน่ากลัวก็น่ากลัวอยู่ แต่ก็ไม่ถึงกับมากจนหลุดโทนจากหนังตลกไป (แค่เกือบๆ จะหลุดน่ะครับ ในบางฉากน่ะนะ)
ถ้าเทียบกับโรงเรียนกำจัดผีแล้ว เรื่องก่อนหน้าจะดูมีอะไรมากกว่าหน่อยหนึ่ง ในขณะที่ภาคนี้หนังค่อนข้างใช้เวลาไปกับการสืบพอสมควร จนบางทีก็แอบรู้สึกเหมือนกันว่าเมื่อไรเรื่องจะเดินไปข้างหน้าเสียที แต่ก็ไม่มากครับ เพราะส่วนใหญ่หนังจะเสิร์ฟความฮาและแทรกความสยองลงมาเรื่อยๆ เลยทำให้แม้จะมีช่วงอืดบ้าง พายเรือในอ่างบ้าง แต่ก็พอทำเนา พอรับได้ครับ
ไคลแม็กซ์การปราบผีนั้นก็ถือได้ว่ามันส์ดีครับ ผีในเรื่องแต่ละตนก็ปราบยากตามสูตรนั่นแหละ กว่าจะโค่นลงแต่ละตัวก็ทำเอาลุ้นไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งจุดสนุกของการปราบผีก็ยังอยู่ตรงกิมมิคฮาๆ ที่หนังใส่เข้ามาน่ะครับ ไม่ว่าจะมนต์เชื่องช้า วิชาที่มีไว้สะกดผีให้ทำอะไรเชื่องช้าลง เราจะได้วิ่งหนีมันทันอะไรประมาณนี้ แต่ก็ไม่วายที่จะต้องมีตัวละครใช้วิชานี้พลาดจนก่อให้เกิดความฮาตามมา
หรือตอนไปสู้กับบอสใหญ่นั้นหนังก็มีลูกเล่นครับ ไม่ได้ให้คนไปสู้กับผีแบบธรรมดา แต่มีการทะลุเข้าไปในมิติของภาพถ่าย อันทำให้เกิดเงื่อนไขลุ้นๆ ตามมาอีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยชูรสให้กับตอนไคลแม็กซ์ได้ไม่เลวเลย
ในจุดนี้ก็ทำให้คิดน่ะนะครับ ถ้าว่ากันถึงหนังที่พอถึงตอนไคลแม็กซ์แล้วมักมีอะไรลุ้นๆ อะไรที่คาดไม่ถึง หรืออะไรที่เซอร์ไพรส์คนดูแล้ว ผมจะนึกถึงหนังจีนฮ่องกงสมัยก่อนทุกทีครับ โดยเฉพาะหนังปราบผีนี่ มุกในการปราบแม้บางอันจะซ้ำกับหนังเรื่องอื่นแบบเต็มๆ แต่บางอันนี่ก็ทำเอาเราอึ้ง ทำเราแทบจะอุทานออกมาเลยว่า “พี่คิดได้ไงอ้ะ”
อย่างในเรื่องนี้ที่เด็ดอีกอย่างคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการสู้กับผีครับ ประมาณว่าในเรื่องนี้จะมีตัวละครหนึ่งที่เชี่ยวชาญวิชาปราบผี แต่พอดีมีเหตุขัดข้องทำให้พี่แกไม่สามารถไปช่วยปราบได้ คนที่เหลือเลยตัดสินใจไปขนของวิเศษจากบ้านของคนนั้นเอามาสู้กับผีแทน ซึ่งอุปกรณ์วิเศษทั้งหลายนี่แหละครับที่ทำให้หนังทั้งสนุกและฮามากขึ้นกว่าเดิม
มองแบบจริงๆ แล้ว หนังไม่ได้ดีเด็ดสุดยอดหรอกครับ แต่มันดูสนุก ดูเพลิน ดูแล้วฮาดี และสำหรับเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว หนังเรืื่องนี้ก็จัดว่าทำออกมาได้สนุก ตอบโจทย์ความบันเทิง+สยองหน่อยๆ ได้อย่างดน่าพอใจแล้วครับ
สองดาวครับ
(6/10)