Action

Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows (2016) เต่านินจา จากเงาสู่ฮีโร่

13517418_1259307954100003_1624739697502421816_o

ภาคแรกถือว่าดูเอามันส์ได้เพลินๆ ครับ มาภาคนี้ก็อีหรอบเดียวกัน คือดูเอาสนุก เอามันส์ เอาฮา แล้วก็ดูแสงสีกับ Effect ซึ่งถ้าใครชอบอะไรพวกนี้ล่ะก็ เต่านินจาภาคใหม่นี่ก็ตอบโจทย์เลยล่ะ

จุดที่ผมสนใจในภาคนี้คือการเอาตัวร้ายระดับใหญ่ๆ สมัยการ์ตูนมารวมดาวขึ้นจอ เริ่มจากชเร็ดเดอร์ (Brian Tee) วายร้ายเจ้าเก่า, ร็อคสเตดดี้ กับ บีบ๊อบ คู่หูกลายพันธุ์บ๊องๆ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาตีกับพวก 4 เต่าไม่รู้กี่หน (แต่ก็มักจะแพ้ทุกที)

ไหนจะ แบ็กสเตอร์ สต็อกแมน (Tyler Perry) นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องที่จะกลายเป็นตัวร้ายกลายพันธุ์อีกตัวในอนาคต และ แครงก์ มันสมองจากต่างมิติที่หมายจะครองโลก

แต่ก็เผื่อใจไว้ก่อนดูแล้วครับว่ามันคงไม่ได้เด็ดจัดๆ อะไรหรอก ซึ่งก็เป็นตามนั้น อย่างที่บอกว่าดูเอาเพลินได้ โดยรวมก็มันส์เป็นพักๆ เหมือนลุยด่านไปเรื่อยๆ แต่ก็เหมือนหนังแนวนี้อีกหลายๆ เรื่องครับที่หากตัวละครเยอะเกิน การเฉลี่ยบทก็ทำได้ยากหน่อย จะให้มันลื่นจริงๆ จังๆ ก็คงไม่ง่าย

การที่ตัวร้ายเยอะก็เหมือนกับพวก Spider-man 3 น่ะครับ ไปๆ มาๆ ไม่เด่นแบบเต็มๆ สักตัว ยิ่งชเร็ดเดอร์นี่ดูบารมีลดลงเยอะเลย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีตัวร้ายตัวไหนที่จะทำให้เรารู้สึกว่ามันร้ายมากถึงขนาด 4 เต่าเอาชนะไม่ได้

คือถ้าตัวร้ายมันร้ายจริง ร้ายกว่าฝีมือของ 4 เต่าเราก็จะยังพอมีลุ้นน่ะครับ ลุ้นว่าจะโค่นยังไง จะสู้ไหวไหม แต่นี่ศัตรูเยอะจริง ทว่าดูไปดูมาก็รู้สึกว่าเต่านินจาทั้งขบวนของเราดูเก่งกว่า ชนะมันได้แน่ๆ เลยไม่ค่อยลุ้นเท่าไร

ยิ่งฝ่ายเต่านินจามี เอพริล โอนีล (Megan Fox) ที่ดูฉลาดและหัวไวกว่าพวกผู้ร้ายมารวมกันซะอีก แล้วเสริมด้วย เคซี่ย์ โจนส์ (Stephen Amell) กับ เวอร์นอน (Will Arnett) อีก คือดูแล้วรู้เลยว่าพวกผู้ร้ายคิดผิดแล้วที่เลือกเมืองที่คนเหล่านี้อยู่น่ะ (555)

ภาคนี้เปลี่ยนคนกำกับมาเป็น Dave Green ซึ่งจุดเด่นภาคนี้คือสีสันในแต่ละฉากครับ ดูสดและสวยมาก ยิ่งฉากตอนกลางคืนนี่แสงไฟตัดกับความมืดได้อย่างดีเลยล่ะ

แต่หากว่าถึงฉากบู๊แล้วภาคแรกจะดูมันส์กว่าและลุ้นกว่า ยิ่งตอนท้ายนี่ภาคแรกผมว่ามันลุ้นนะ ตอนยอดตึกถล่มแล้วโค่นลงมานี่ถือว่าพอลุ้นได้ แต่ภาคนี้แม้เรื่องที่เกิดจะดูใหญ่กว่าเดิม แต่ความลุ้นกลับไม่เยอะเท่าไร คือยังไงใจก็บอกว่าพวกเต่านินจาชนะแน่

ภาคต่อจะมีไหม? ก็ยากจะบอกได้ครับ เพราะรายได้ไม่เข้าเป้าแหงๆ ภาคก่อนได้ไป $490 ล้านจากทั่วโลก (ทำเงินในอเมริกา $191 ล้าน) แต่ภาคนี้ตอนนี้ได้ $154 ล้านจากทั่วโลก (ในอเมริกาได้ประมาณ $80 ล้าน) แม้จะยังพอมีหวังได้ $200 ล้านอยู่ แต่หืดจับแน่นอน และถือว่าน้อยกว่ารายได้ภาคแรกแบบเกินครึ่งด้วย (และไม่คุ้มทุน $135 ล้านที่ลงไปแน่นอนเช่นกัน)

ไปๆ มาๆ ผมชอบเต่านินจาภาคแรกสุดของชุดต้นฉบับน่ะครับ ที่ฉายปี 1990 น่ะ จริงที่มันอาจไม่เนี๊ยบนะ แต่มันดูจริง เพราะเอาคนจริงมาสวมชุดยาง แล้วชุดยางเหล่านั้นมันก็ดูสมจริง ยิ่งการแสดงออกทางหน้าตานี่ทำได้อย่างน่าทึ่งเลยล่ะครับ และเนื้อเรื่องมันมีมิติน่ะครับ มีปมให้ดราม่า

จำได้ว่าผมเห็นเต่าหลั่งน้ำตาในหนังภาคนั้น แต่ด้วยเรื่องราวมันทำให้ผมเชื่อนะ เรื่องราวมันเข้มข้นกว่าจริงๆ โดยเฉพาะสปลินเตอร์ที่เป็นทั้งอาจารย์และพ่อให้กับพวกเต่านินจาได้อย่างน่าเชื่อ ดูแล้วเชื่อจริงๆ ว่า 4 เต่ากับ 1 หนูนี้ผูกพันกันจริงๆ ^_^

สองดาวครับ

Star21

(6/10)