“ทำไมต้องกังวลว่าเราจะทำได้ดีหรือไม่? การไม่ได้ทำต่างหากล่ะครับ ที่น่ากังวลกว่า”
คำกล่าวของวอลต์ ดิสนี่ย์ สุภาพบุรุษนักฝันที่สร้างสรรค์โลกแสนหฤหรรษ์ให้เด็กๆ และหนังเรื่องนี้ก็เล่าถึงเหตุการณ์จริงตอนที่ดิสนี่ย์ (Tom Hanks) ต้องการนำ Mary Poppins มาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่พี.เอล. เทรเวอร์ส (Emma Thompson) เจ้าของบทประพันธ์หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมให้สร้าง จนดิสนี่ย์ต้องเชิญคุณเทรเวอร์สมาเจรจาเกลี้ยกล่อม และแสดงให้เห็นว่างานเขียนแสนรักของเธอจะได้รับการดูแลอย่างดีเพียงไร
Mary Poppins ฉบับหนังนั้นสร้างออกมาละมุนน่ารักมากๆ ครับ หลายฉากเรียกน้ำตาผมได้ (โดยเฉพาะฉากแม่เฒ่าขายอาหารนก) และการได้มาดูเรื่องราวเบื้องหลังของหนังก็ทำให้ผมเข้าใจฉากแต่ละฉากในหนัง Mary Poppins ได้ลึกซึ้งขึ้น
จุดจับใจผมคือการแสดงดีๆ นอกจาก 2 ดารานำยังมี Colin Farrell, Paul Giamatti และ Jason Schwartzman แต่ละคนนี่ขอยกนิ้วให้เลยครับ เพราะตอนพวกเขาเล่นเป็นเกรียนก็เกรียนจนน่าตื้บ ครั้นพอมาเล่นบทละมุนๆ แบบเรื่องนี้ แววตาพวกพี่แกก็อ่อนโยนขึ้นมาเหมือนสั่งได้ พวกพี่เขาเจ๋งจริงครับ
การเล่าเรื่องอาจไม่เร่งเร้า ซึ่งเป็นสไตล์ปกติของผู้กำกับ John Lee Hancock (The Rookie และ The Blind Side) ที่เน้นให้ตัวละครเดินเรื่องมากกว่าจะเร้าสถานการณ์ให้หวือหวา เลยทำให้หนังของเขาดู “จริง” ขณะเดียวกันก็ไม่แปลกหากหลายคนดูแล้วไม่รู้สึกอะไร เพราะหนังไม่เร้าและไม่เขียนสถานการณ์ให้จงใจดราม่า
Saving Mr. Banks จึงจัดเป็น “หนังไม่ปรุง แต่หนักเครื่อง”
ใครชอบหนัง Feel Good แบบ Feel Real ล่ะก็ ขอแนะนำครับ
สองดาวสามส่วนสี่ดวงครับ
(7.5/10)