ถ้าอยากดูหนังมันส์แต่ไม่รู้จะดูอะไร ก็งัดของเก่ามาดูครับ เพราะปีก่อนมีหนังมันส์เข้าตา 3 เรื่อง ได้แก่ John Wick, The Equalizer แล้วก็ Lucy

สนุกจริงครับ หนังสร้างสรรค์ความมันส์เชิงแอ็กชันโดยใช้ฐานของหนังไซไฟเป็นตัวผสมเสริมความสนุกและความเว่อร์ (ยุทธวิธีในการปรุงคล้าย The Matrix) ลีลามันส์ๆ ในเรื่องแม้จะเกินจริง แต่ก็รับได้ไม่ยากเย็นครับ และยังออกมาครีเอทไม่เลวด้วย

Scarlett Johansson เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับบทนี้สุดๆ เพราะเธอต้องแสดงหลายอารมณ์ครับ ทั้งยามกลัว ยามโกรธ ยามแกร่ง และยามเหนือโลก แววตาของเธอบอกสเตตัสได้ชัดเจน ในขณะที่ดาราสมทบก็พอเหมาะ ไม่ว่าจะ Morgan Freeman ที่เล่นได้ดีอยู่แล้วในคนฉลาดรักษ์โลกอย่างศาสตราจารย์นอร์แมน ตามด้วย Min-sik Choi ในบทตัวร้ายมิสเตอร์จังที่น่ากระทืบ ไร้จิตสำนึก และเหี้ยม (จน ม. ม้าวิ่งหนี 5555)

เป็นงานที่เวิร์กของผู้กำกับ Luc Besson แม้มันจะลงตัวคลาสสิคเท่า Léon แต่ก็ถือว่าเทียบชั้น The Fifth Element ได้อยู่ครับ

ในแง่แอ็กชันหนังมันส์และดูได้เรื่อยๆ ครับ ขณะเดียวกันหนังก็แทรกแง่คิดชวนมองไว้หลายประการ จะมองให้เป็นปรัชญาก็ได้ครับ มองว่ามนุษย์เราสามารถวิวัฒน์ไปได้แค่ไหน มองว่าทุกวันนี้เราใช้ศักยภาพที่แท้จริงของเรามากน้อยเพียงใด ในแต่ละเวลานาทีที่เราใช้ไปนั้น

เรากำลังพ่นลมหายใจให้หมดไปวันๆ หรือเรากำลังทำอะไรสักอย่างที่มีความหมาย?

ไม่จำเป็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นต้องมีความหมายในระดับโลกก็ได้ครับ อย่างน้อยก็ให้มีความหมายต่อตัวเรา ต่อชีวิตคนรอบตัวเรา นั่นก็ถือว่ามีความหมายแล้วล่ะครับ

ถ้ามองในแง่หนึ่ง ตัวละครในหนังก็อาจจะไม่ได้มีมิติมากมาย และอาจจะออกแนวโมโนโทนด้วย นั่นคือที่ดีก็ดีเต็มที่ทำเพื่อประโยชน์ของโลกเต็มที่ (อย่างศาสตราจารย์นอร์แมน) ที่เห็นแก่ตัวก็ทำชั่วแบบไร้ลิมิต (แบบมิสเตอร์จัง)

คนที่เป็นแบบนี้ก็มีอยู่จริงครับ และปฏิเสธไม่ได้ทุกวันนี้โลกเราก็มีคนแบบนี้แหละครับเป็นดั่งตัวเฟืองที่ก่อทั้งเรื่องดีและร้ายผสมผเสกันไป ^_^ นี่แหละครับ โลกที่เราอยู่

สรุปว่าจะดูเอามันส์หรือว่าดูเอาไอเดียแง่คิดก็ได้ครับ คุ้มทุกกรณี

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)