รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

The Great Gatsby (2013) เดอะ เกรท แกตสบี้ รักเธอสุดที่รัก

12107894_1089763634387770_779522412532034370_n

The Great Gatsby เป็นหนังภาพสวยที่ดูแล้วอิ่มในของสวยๆ งามๆ ดีครับ (ในขณะที่เนื้อเรื่องดูแล้วแอบหดหู่เล็กๆ อยู่เหมือนกัน)

หนังเล่าถึงความรักอันมั่นคงของมหาเศรษฐีอย่างเจย์ แกตสบี้ (Leonardo DiCaprio) ที่มีต่อเดซี่ (Carey Mulligan) สาวสวยที่แต่งงานกับหนุ่มสังคมจอมเจ้าชู้อย่าง ทอม (Joel Edgerton) ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็บอกเล่าผ่านสายตาของนิค คาร์ราเวย์ (Tobey Maguire) นักเขียนที่กำลังไล่ตามความฝัน ที่ต้องมาเป็นประจักษ์พยานในเรื่องความรักครั้งนี้

สิ่งที่จับใจผมคือภาพสวยๆ ครับ ไม่ว่าจะงานปาร์ตี้ที่แกตสบี้ชอบจัด หรือภาพแสงไฟยามค่ำ ภาพคฤหาสน์หลังงาม ฯลฯ อะไรพวกนี้มันงดงามดีครับ ซึ่งผมว่าแต่ละภาพแต่ละช็อตคงสาแก่ใจผู้กำกับ Baz Luhrmann อยู่เหมือนกัน เพราะหนังเรื่องนี้ถือว่าเขาได้เนรมิตอะไรต่อมิอะไรสมใจอยากไม่ใช่น้อย (ลงทุนไป $105 ล้านโดยประมาณน่ะครับ)

และในภาพสวยๆ ที่ว่านี้มันก็สื่อถึงความไร้แก่นสารของชีวิตได้ดีเหมือนกันครับ เหมือนสะท้อนสังคมที่ฟุ้งเฟ้อ คนใส่หน้ากากเข้าหากัน เพราะส่วนใหญ่ที่มางานของแกตสบี้ก็เข้าข่ายเพื่อนกินทั้งสิ้น มาสนุก มาเฮฮา แล้วก็ลาจาก ยิ่งยามไหนที่แกตสบี้ลำบากนี่ก็หายหัวกันหมด

ผมเกือบจะใช้คำว่า “สะท้อนสังคมไฮโซ” ลงไป แต่มาคิดดูอีกทีผมว่ามันไม่ใช่แค่คนรวยหรอกครับที่จะเจออะไรแบบนี้ มันมีในทุกระดับชั้นนั่นแหละ อย่างคนหาเช้ากินค่ำที่นัดเพื่อนมาก๊งมาเมามาสังสรรค์ แต่ครั้นพอเกิดปัญหาต้องการความช่วยเหลือ ก๊งก็แยก วงก็แตก ต่างคนต่างเอาตัวรอด ไม่มีใครช่วยใคร อันนี้ก็มีเหมือนกัน เรียกว่าเจอได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะจนหรือรวย

ในแง่การแสดงก็ถือว่าแต่ละคนเล่นได้ดีตามที่บทเปิดโอกาส อย่าง DiCaprio ก็ดูไปได้ดีกับบทแกตสบี้ ผมชอบฉากที่พี่แกทำท่าตื่นๆ อายๆ ตอนจะไปหาเดซี่น่ะครับ ดูทั้งขำและน่ารักดี ครั้นพอถึงยามเหนื่อยอ่อนก็ดูโทรมและน่าเห็นใจเหมือนกัน เพียงแต่บทนี้ไม่ได้รับการเปิดโอกาสให้เล่นอะไรมากไปกว่านั้น

คนที่ถือว่าเล่นได้ดีกว่าใครเพื่อนผมยกให้ Maguire ที่ตัวละครนี้ดูมีมิติอารมณ์ชัดเจนสุด ส่วนคนอื่นๆ ถือว่าโอเคตามที่บทกำหนดครับ อันที่จริงต้องบอกว่า ก็โอเคพอๆ กับ DiCaprio นั่นแหละ เพราะบทแต่ละคนก็กำหนดหน้ามาชัดเลยว่าคนนี้ดี คนนี้เจ้าเล่ห์ ดูแล้วก็กึ่งๆ อารมณ์การ์ตูนหน่อยๆ เหมือนกัน

จัดเป็นหนังที่คนชอบหนังเพลง หรือชอบหนังโชว์อลังการดาวล้านดวงน่าจะชอบและเพลินไปกับมันครับ ส่วนสาระจริงๆ ก็เจ็บแสบดี มันสะท้อนความจริงในมุมหนึ่งได้แบบตรงๆ แต่บอกก่อนครับว่าถ้าใครมุ่งหมายว่านี่จะเป็นหนัง Feel Good ล่ะก็ ขอให้ปรับความคิดสักเล็กน้อยก่อนดูครับ เพราะมันออกแนวน้ำเน่าสะท้อนสังคมที่สวมหน้ากากเข้าหากันมากกว่า ^_^

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)