God Help the Girl อาจไม่ใช่หนังที่ลงตัวแบบเต็มที่นะครับ แต่พอดีหนังมันเข้าทางผมน่ะครับ 555

ผมนั้นเป็นคนชอบหนังที่มีเพลงเพราะๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้ตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ กับเรื่องของ อีฟ (Emily Browning) สาวน้อยที่ใช้การแต่งเพลงเป็นการบำบัดและระบายอารมณ์อันแปรปรวนของเธอเอง

อยู่มาวันหนึ่งเธอได้พบกับเจมส์ (Olly Alexander) และแคสซี่ (Hannah Murray) หนุ่มสาวที่มีหัวใจดนตรีเหมือนเธอ พวกเขาเลยรวมตัวกันตั้งเป็นวงดนตรีเล็กๆ ร่วมร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน

แล้วก็ตามสูตรครับ ปรากฏว่าเจมส์นั้นก็แอบรู้สึกดีๆ ต่ออีฟ ในขณะที่อีฟกลับไปสนใจหนุ่มหล่ออีกคนแทน (Pierre Boulanger) ก็เลยมีพล็อตรองว่าด้วยเรื่องรักในวัยรุ่น (แบบเพื่อนสนิท) ตามมาอีกอันหนึ่ง

พูดก็พูดเถอะครับ เนื้อหามันดูได้เรื่อยๆ คือบทยังไม่เข้มหรือลงตัวเต็มร้อย แต่สิ่งที่ทำให้ผมเพลินกับหนังอย่างมากคือเพลงครับ เพลงเพราะ ทุกเพลงล้วนน่าฟังและมีความหมายทั้งสิ้น จังหวะเป็นป็อบสไตล์อังกฤษ สนุกๆ น่าฟัง ชนิดที่เหมาะแก่การซื้อซาวน์แทร็กมาเปิดเพื่อฟังแก้เหงา ยามอยากได้เพลงเป็นเพื่อน หรือฟังเล่นตอนเดินทางไปที่ไหนสักแห่งเพียงลำพังน่ะนะครับ

จุดที่ผมทึ่งคือทุกเพลงแต่งโดย Stuart Murdoch ที่ควบตำแหน่งเขียนบทและกำกับหนังเรื่องนี้ด้วย นับว่าพี่แกเก่งไม่เบาเลยล่ะครับ

นอกจากนี้โลเกชั่นในหนังยังเวิร์ก เข้ากับโทนหนังวัยรุ่นมากทีเดียว เขาถ่ายทำกันที่เมืองกลาสโกว์ ในสก็อตแลนด์ครับ เมืองมันมีทั้งบรรยากาศเก่าๆ ผสมเข้ากับสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า เป็นอะไรที่สวยและได้อารมณ์ดี

และอีกจุดที่หนังเข้าทางผมพอดีคือ ผมเป็นคนชอบหนังที่เล่าเรื่องแบบ “ช่วงหนึ่งของชีวิตใครสักคน” ประมาณว่าหนังเล่าถึงชีวิตช่วงหนึ่งที่อีฟและผองเพื่อนได้มารู้จักกัน ได้มาเฮฮากัน ได้ผ่านเรื่องราวบางอย่างด้วยกัน แต่พอถึงจุดหนึ่งเรื่องราวของพวกเขาก็จะดำเนินต่อไป บางคนก็ยังดำเนินชีวิตไปด้วยกัน แต่บางคนก็แยกย้ายไปตามทางของตน ทิ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นไว้เป็น เหลือเพียงความทรงจำ

… ผมรู้สึกว่าอะไรแบบนี้มันเหมือนชีวิตจริงจังเลยครับ… มันย่อมมีช่วงเวลาที่เรากับเพื่อนได้อยู่ด้วยกัน รู้จักกัน ทำอะไรสนุกๆ ด้วยกัน แต่เมื่อถึงทางแยก เรากับเพื่อนบางคนก็อาจต้องเดินต่อไป บนเส้นทางคนละสาย จะได้เจอกันอีกไหมก็ไม่รู้…

ผมว่ามันเป็น… ความเศร้าที่แสนหวาน… เป็นการจากลาที่มีความหมาย… เป็นความทรงจำสีจางๆ ที่เราอาจลืมมันไป และอาจนึกขึ้นมาได้ในวันหนึ่ง

ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึง Stand By Me แล้วก็ Now and Then ครับ อารมณ์คล้ายกัน เพียงแต่ในแง่ของเนื้อหาแล้ว 2 เรื่องนั้นจะลงตัวกว่าเรื่องนี้อยู่พอสมควร

สรุปว่าถ้าชอบหนังวัยรุ่นดูเพลินๆ พร้อมเพลงเพราะๆ ผมว่าเรื่องนี้ไม่เลวเลยครับที่จะลองดูสักครั้งครา ^_^

สองดาวใกล้ครึ่งครับ

(6.5/10)