ผมชอบหนังเรื่องนี้จังเลยครับท่านทั้งหลาย
สาเหตุประการสำคัญที่ทำให้หนังสนุกโดนใจผมต้องยกให้พี่ Kevin James พระเอกของเรื่อง คนอะไรน่ารักดีแท้ๆ ผมล่ะชอบพี่แกมาตั้งแต่ Hitch แล้วครับ เล่นได้น่ารักและฮาจนขโมยซีน Will Smith ได้ตั้งหลายรอบ
ส่วนเรื่องนี้ เขาก็มาพร้อมบทที่เหมาะกับตัวเขาอย่างแรงครับ พอล บลาร์ท รปภ. ร่างอ้วนประจำห้างที่ดีแสนดี ไม่มีพิษภัย ขณะเดียวกัน ด้วยความน่ารักของพี่แก ทำให้ไม่มีใครเคารพในฐานะ รปภ. เลยครับ ประมาณว่าจะเดินไปห้ามใคร เตือนใครไม่ให้ทำผิดกฎของห้าง ก็โดนเมินหรือไม่ก็ศอกกลับตลอด
แล้วก็ตามสูตรครับ คนดีๆ หงอๆ เวลาจะรักใครก็ได้แต่แอบชอบแอบรัก และสาวน้อยรายนั้นก็คือ เอมี่ (Jayma Mays) ที่เขาเทียวไล้เทียวขืออยู่แทบทุกวัน แต่พอจะเอ่ยปากชวนเธอหรือจีบเธอเมื่อไรล่ะเป็นอันไปไม่เป็นสักกะที
ช่วงแรกๆ หนังก็ค่อยๆ บอกเล่าล่ะครับว่านายพอลคนนี้ดีแค่ไหน น่ารัก และเป็นพระเอกแบบหลบใน ตามสไตล์คนร่างใหญ่ที่ไม่มั่นใจในตนเอง ซึ่งผมว่าหนังทำสำเร็จนะ ช่วงแรกนี่คนดูเทใจให้พอลกันไปหมดแล้ว เพราะแกดีจริง ซื่อจริง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับซื่อบื้อติงต๊อง เขาแค่มีดีในตัว แต่ไม่มีความกล้าเท่านั้นเอง
จากนั้นหนังก็เข้าครึ่งหลังครับ พอแนะนำตัวละครต่างๆ และบอกเล่าความน่ารักบนความน่าสงสารของพอลได้พักหนึ่งแล้ว ก็พอดีครับ ที่ห้างเกิดมีพวกโจรร้ายตรงเข้ามาหมายปล้นครั้งใหญ่ ซึ่งพอลก็อยู่ในเหตุการณ์พอดีครับ และประจวบเหมาะว่าเอมี่ สาวที่เขารักก็ต้องเป็นตัวประกันด้วย เอ้า แบบนี้ พอลจะหงออยู่ต่อไปไม่ได้ งานนี้ก็ต้องมีชนล่ะครับ แม้ฝ่ายตรงข้ามจะมีปืน พอลก็ต้องของัดพุงและพละกำลัง (บนเนื้อนุ่มๆ) ออกมารับมือกันหน่อย
ก็คิดอยู่เหมือนกันครับว่าหนังไปโดนต่อมอเมริกันชนที่ตรงไหนถึงทำรายได้เป็นบ้าเป็นหลังไปตั้ง $146 ล้าน ตอนออกฉาย พอดูก็ถึงบางอ้อล่ะครับ หนังมันฮา สนุก น่ารัก เสน่ห์สำคัญอยู่ที่ตัว James ทั้งนั้นเลยครับ เขาเล่นได้น่ารัก น่าเห็นใจจนเราอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยให้เขาสมหวังในความรัก รวมถึงรอดชีวิตจากพวกโจรที่มีอาวุธครบมือด้วย
เป็นสูตรที่สำเร็จตลอดกาลนะครับ และถ้าคนทำหนังปรับเก่งๆ หน่อยล่ะทำหนังสนุกออกมาได้อีกหลายเรื่องครับ เพราะจริงๆ แล้วโครงเรื่องมันออกสไตล์ Die Hard หรือหนังแนวพี่ Arnold, Steven Seagal แล้วก็ Sylvester Stallone ขยันทำออกมา ประมาณว่าพระเอกหนึ่งเดียวท้ารบกับผู้ร้ายทั้งกอง
แต่ถ้าพระเอกเป็นคนเก่งชัวร์ๆ บึ้กๆ มันก็ไม่ลุ้นเท่าไร ทว่าถ้าทำให้พระเอกไม่เก่งมาก แต่น่ารักเยอะจนคนดูเป็นห่วงและไม่อยากให้เป็นอะไรไปล่ะก็ ดีกรีความลุ้นมันจะพุ่งแบบไหลมาเทมาเลยล่ะครับ
อย่างที่หนังเรื่องนี้จัดให้เราดูไงครับ เนื้อหาเดิมๆ แต่เพิ่มความน่ารักน่าเอาใจช่วยของพระเอกลงไป ก็ได้ความสนุกตื่นเต้นมาเป็นกอบเป็นกำแล้ว ก็ขอชื่นชม Steve Carr ผู้กำกับด้วยล่ะครับ ผมว่าแกทำหนังประเภทนี้ได้ดีเลยนะครับ ประมาณว่าพระเอกน่ารักๆ ไร้พิษภัย แต่พยายามที่จะทำสิ่งถูกเพื่อให้ทุกคนมีความสุข อย่างเรื่อง Daddy Day Care ก็เหมือนกันครับ เป็นเรื่องของคุณพ่อที่อยากให้ลูกมีความสุขเลยเปิดการสอนบทเรียนชีวิตที่บ้านซะเลย แม้จะไม่ได้มีหลักตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด แต่ก็เป็นการสอนสิ่งที่จำเป็นจริงๆ สำหรับชีวิต
บอกได้เลยว่าถ้าแกขยันทำหนังแนวนี้ รับรองรุ่งไปเรื่อยๆ แน่
เช่นเดียวกับ James ครับ ถ้ารับบทคนน่ารักๆ เมื่อไรล่ะได้เลย เล่นได้ถึงตลอด หน้าตาแกตอนหงอก็ยังดูฮาอีกด้วย นี่ถ้ามีใครนึกอยากทำหนังตลกคู่หูตำรวจหรือนักสืบเนี่ย จับแกไปเล่นได้เลยครับ เล่นคู่กับคนแข็งๆ หน่อย รับรองได้ฮาแน่นอน รู้สึกว่าเรื่องนี้แกก็เขียนบทด้วยนะครับ นับว่าแกเข้าใจคาแร็คเตอร์ที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ เลยล่ะ
ก็ ผมชอบน่ะนะครับ มันสนุก ดูเพลิน พระเอกน่าเอาใจช่วยดี ดูได้สบายๆ แบบไม่ต้องเครียดหรือคิดมาก ถือว่าคุ้มทีเดียวครับสำหรับคอหนังแอ็กชั่น คอเมดี้ เพราะมันลงตัว ออกรสกำลังเหมาะ ดูซ้ำในวันต้องการความสบายหรือความมั่นใจล่ะก็ น่าจะโอเคนะครับ
ดูแล้วก็เอามาย้อนดูตัวได้ ว่าความดี ความเจ๋งของคนน่ะ ไม่จำเป็นต้องมากับความหล่อเท่ห์เสมอไป และไม่ต้องถึงขั้นฉลาดตลอดศก แค่เป็นคนดี ตั้งใจดี และมีความมั่นใจที่จะนำเอาสิ่งดีๆ ที่เรามีนั้นมาสื่อสารแบ่งปันให้คนอื่นได้เห็น แค่นั้นเราก็ดูเจ๋งได้มากแล้วล่ะครับ
สองดาวใกล้ครึ่ง กำลังอร่อยครับ
(6.5/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, Comedy