Adventure

Pete’s Dragon (2016) พีทกับมังกรมหัศจรรย์

14103063_1307263962637735_6009715092878173227_o

บอกตรงๆ ว่าผมดีใจมากเลยล่ะครับที่ระยะหลัง Disney กล้าทำหนังสไตล์นี้ออกมามากขึ้น หนังประเภทดูสนุกและอบอุ่น เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีน่ะครับ ^_^

จริงๆ เมื่อ 40 – 50 ปีก่อนค่ายนี้ก็ขยันทำหนังแฟนตาซีสำหรับทุกคนในครอบครัวออกมาเยอะครับ แต่พอถึงยุคหนึ่งผู้ชมเริ่มน้อยลง หนังแนวนี้ก็เลยพลอยน้อยลงไปเรื่อยๆ หรือไม่ก็โดนจับไปลงทีวีหมด ไม่ค่อยได้เข้าโรงสักเท่าไร

แต่สงสัยคงเพราะ Disney อยู่ตัวมากขึ้น (ด้วยกำไรจากสารพัดหนัง Marvel และ Star Wars) อีกทั้งหนังแฟนตาซีระยะหลังๆ ที่ค่ายนี้ทำออกมาก็ทำเงินเป็นส่วนใหญ่ (อย่างต้นปีนี่ The Jungle Book ก็เพิ่งโกยไปหมาดๆ)

ทั้งหมดทั้งปวงเลยทำให้ค่ายกล้าที่จะสร้างหนังสไตล์นี้มากขึ้น และกล้าที่จะลงทุนทำในหลายๆ ฟอร์มมากขึ้น (หมายถึงฟอร์มใหญ่ก็ทำ หรือฟอร์มกลางๆ ที่อาจไม่ทำเงินมากมาย แต่ก็ยังกล้าที่จะทำออกมาป้อนตลาด)

สำหรับเรื่องนี้เป็นการรีเมคจากหนังชื่อเดียวกันนี้เมื่อปี 1977 ซึ่งพล็อตก็มาทางเดียวกันครับ ว่าด้วยตำนานแห่งมังกรที่อาศัยอยู่กลางป่าลึก แต่ลองขึ้นชื่อว่า “เป็นตำนาน” แล้วคนส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เชื่อครับ คิดว่าเป็นเพียงนิทานก่อนนอนที่ผู้ใหญ่เล่าต่อกันมาเท่านั้นเอง

และคุณคงพอเดาได้นะครับว่าสำหรับในหนังน่ะ มังกรมีจริง เพียงแต่ไม่เคยมีใครรู้ จนกระทั่ง พีท (Oakes Fegley) เด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับมังกรในป่ามานานได้รับการช่วยเหลือจาก เกรซ (Bryce Dallas Howard) เจ้าหน้าที่ป่าไม้คนหนึ่ง

พีทเล่าเรื่องมังกรของเขาให้ใครๆ ฟัง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ นอกจากคุณมีชชัม (Robert Redford) พ่อของเกรซที่เชื่อเรื่องนี้มานาน แล้วก็ยังมีนาตาลี (Oona Laurence) เด็กน้อยอีกคนที่เชื่อเขา

หนังทำให้นึกถึง E.T. ผสมกับ The Jungle Book แล้วก็บวกด้วย The BFG ที่เพิ่งฉายไปเมื่อต้นปีครับ เป็นหนังแฟนตาซีผจญภัยสำหรับทุกคนในครอบครัวที่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ซึ่งพอดูแล้วชวนให้นึกถึงหนังแนวนี้ของ Disney เมื่อสมัยยุค 60 – 80 จริงๆ

แต่ต้องบอกก่อนเลยครับว่าหนังรสไม่จัดนะ มันไม่หวือหวา ไม่มีลูกเล่นอะไรมากมาย หนังนำเสนออย่างเรียบง่าย โทนดูอ่อนโยน ไม่ได้เป็นหนังแฟนตาซีผสมตลก ไม่มีตัวละครต๊องๆ มาเรียกเสียงฮา ไม่มีผู้ร้ายเพี้ยนๆ ที่คอยทำชั่วแบบขำ ทุกอย่างเลยดูพอเหมาะครับ ดูเป็นแฟนตาซีสำหรับครอบครัวที่จริงจัง แต่ไม่หนักจนเกินไป

โดยรวมๆ ผมรู้สึกเพลินกับเรื่องนี้มากกว่า The BFG นะ เพราะถ้าว่ากันถึงการเดินเรื่องแล้วเรื่องนี้ถือว่าเพลินครับ แม้เนื้อเรื่องจะไม่ซับซ้อนอะไร แต่หนังใช้โทนแฟนตาซีแบบติดดินเป็นพลังสำคัญชวนให้เราติดตามไปจนจบ แม้จะไม่มีอะไรเกินคาดเดาก็เถอะ

ดาราถือว่าเล่นได้เหมาะกับโทนหนังครอบครัวแบบนี้เลยครับ ทั้ง Howard และ Redford ในขณะที่ดาราเด็กก็ถือว่าแสดงกันได้ดี แม้จะไม่ถึงขั้นที่ Neel Sethi เคยทำไว้ใน The Jungle Book ก็เถอะ แต่ก็ถือว่าโอเคแล้วครับ ส่วนหนึ่งก็อย่างที่บอกว่าหนังรสไม่จัดจ้าน การแสดงก็เลยอาจไม่หวือหวาอะไร

เป็นหนังแฟนตาซี+ดราม่าสำหรับครอบครับที่น่าสนใจครับ บอกก่อนเลยว่ามันไม่ได้สดใหม่อะไรหรอก แต่มันทำออกมาดี อบอุ่น สนุก เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะประทับใจล่ะครับ ^_^

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)