ผลงานลำดับถัดมาที่ บรูซ ลี ลงมือกำกับและเขียนบทด้วยตัวเองครับ หลังจากความสำเร็จของหนังสองเรื่องแรก คราวนี้เฮียบรูซของเราเลยมีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้นครับ ในการเขียนบท เลือกโลเกชั่น ซึ่งเฮียบรูซและทีมงานก็เดินทางเสาะแสวงหาสถานที่ใหม่ๆ ที่จะเอามาใช้เป็นลานประลองฉากแอ็กชันในหนังเรื่องถัดไป

จากการตระเวนในที่สุดเขาก็ได้พบกับสถานที่นั้น… ได้แก่ที่ โคลอสเซียม ที่อิตาลีนั่นเอง

The Way of the Dragon ได้ชื่อว่าเป็นหนังฮ่องกงเรื่องแรกที่ได้ยกกองไปถ่ายทำที่ยุโรปตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนเรื่องราวก็ถือเป็นการพลิกแนวทางหนังของเฮียบรูซอยู่เหมือนกันครับ จากเดิมที่หนังของเขาจะออกแนวบู๊แบบจริงจัง แต่คราวนี้กลายเป็นแนวแอ็กชันผสมตลก ซึ่งก็ทำออกมาได้เข้าท่าซะด้วย

เปิดเรื่องมาหนังก็แนะนำให้เราได้รู้จักกับถังหลง (เฮียบรูซแน่นอน) ที่เดินทางจากฮ่องกงมายังกรุงโรม ประเทศอิตาลี่ เพื่อช่วยญาติของเขาที่กำลังประสบปัญหาถูกพวกมาเฟียมาก่อกวนกิจการร้านอาหาร ซึ่งเจ้าของร้านก็และนางเอกของเรื่องก็รับบทโดยเหมียวเข่อซิ่ว นางเอกคนเดิมจาก Fist of Fury นั่นเองล่ะครับ

แนวทางการแก้ปัญหาของถังหลงก็ไม่ยากครับ พอมีมาเฟียมาเมื่อไรก็ต้องโดนซัดยัดหมัดเข้าให้หมอบกระแต ซึ่งพวกมาเฟียนั่นก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้จะส่งลูกน้องไปกี่คนแล้วโดนถังหลงซัดจนหมอบทั้งหมดก็ตาม ก็ยังอุตส่าห์ไปควานหายอดฝีมือคนใหม่มาถล่มถังหลงอีก อันนำมาสู่ฉากการต่อสู้ระหว่างถังหลงกับโคลท์ (Chuck Norris) ยอดฝีมือจอมวายร้ายที่หมายจะสังหารถังหลงให้จงได้ตามคำสั่งของมาเฟีย

แล้วถังหลงจะปกป้องร้านอาหารกับชีวิตตนเองได้หรือไม่ ก็ต้องตามไปดูหนังกันล่ะนะครับ

ลีลาของหนังนั้น จัดว่าสนุกเข้าขั้นอีกนั่นแหละครับ ช่วงต้นๆ นี่ยังไม่หนักบู๊ แต่หนักฮาครับ โดยเฉพาะตอนที่ถังหลงมาถึงสนามบินใหม่ๆ แล้วก็ก่อวีรกรรมสารพัดไม่ว่าจะหลอกเด็กจนกลัวหรือกินอาหารในร้านอาหารจนคุณป้าบริกรมองตามปริบๆ ก็นับว่าเฮียแกพลิกไปเล่นขำได้ฮาดีเหมือนกัน และฉากที่ฮามากๆ คือตอนที่ถังหลงเดินไปเจรจาโดยใช้ภาษามือแบบโหดๆ กับเจ้าพ่อน่ะครับ ซึ่งเราจะได้เห็นหนังอีกหลายเรื่องทีเดียวที่เอามุขนี้มาใช้ (อย่างใน Kung Fu Hustle ก็ใช้ครับ)

ครั้นพอถึงฉากบู๊ก็ไม่ผิดหวังครับ ลีลาความว่องไวยังเด็ดเช่นเดิม แล้วก็ยังแทรกเรื่องโรแมนติกมานิดๆ ก่อนจะปิดท้ายความมันส์ที่การประมือกับในโคลอสเซี่ยม ซึ่งจากบันทึกนะครับ นี่เป็นหนังเรื่องสุดท้ายครับที่ได้ไปถ่ายทำกันในโคลอสเซี่ยมจริงๆ และฉากที่ว่านี่ก็ไม่ผิดหวังครับ เฮียบรูซ กับ Norris ออกลีลากันได้ดุเดือดทีเดียว

ดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำออกมาได้ดีครับ มันส์ด้วย ตอนฮาก็ฮาด้วย นิ้งหน่องๆ เสริมบุคลิกขี้เล่นนิดๆ ของถังหลงได้ดีเลยล่ะ การเดินเรื่องก็สนุก และหนังยังถ่ายภาพสวยๆ ในกรุงโรมมาฝากผู้ชมด้วยนะครับ ถือว่าครบเครื่องทีเดียวในฐานะหนังแอ็กชันเรื่องหนึ่ง ที่มีอะไรมากกว่าฉากบู๊

แล้วหนังก็ประสบความสำเร็จแบบสุดๆ อีกเช่นเคย เรียกว่าตอนออกฉายนั้นเล่นเอาการจราจรในฮ่องกงป่วนกลายเป็นจลาจลไปเลยล่ะครับ ถนนรถติดระนาวเพราะคนออกมาดูหนังเรื่องนี้กัน บางรอบคนดูก็ทะลัก เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จของ บรูซลี จริงๆ

บอกได้สั้นๆ ว่า ถ้าคุณเป็นคอหนังกังฟูล่ะก็ อย่าพลาดครับ หนังสนุก มันส์ มีตลกผสม และเฮียบรูซก็แสดงได้อย่างน่าปรบมือจริงๆ

สองดาวครึ่งกว่าๆ ครับ

(7.5/10)