นี่คือชอลิ้วเฮียงฉบับปี 2001 ครับ โดยเริ่มเรื่องที่สมัยพี่ชอยังหนุ่มๆ ครับ เขาได้พบกับลี้คิมฮวงและได้รับถ่ายทอดวิชามีดบินเสียวหลี่มาจากลี้คิมฮวงด้วย (เอาเข้าไป)
จากนั้นเขาก็ต้องไปผจญภัยในยุทธจักร ได้เจอกับมือกระบี่อันดับหนึ่งซิอี้เหยิน, คดีฆาตกรรมปริศนาที่พัวพันถึงอดีตของนักดาบจากแดนอาทิตย์อุทัยต้กกูอี้หลาง, ตีกับวังน้ำทิพย์ (หรือวังน้ำเย็นแล้วแต่ทีมพากย์จะแปลครับ), การค้นหาชาติกำเนิดตนเอง และอื่นใดคือการประมือกับองค์กรนักฆ่าที่มีชื่อว่าพรรคข่ายฟ้าอีกด้วย
โดยเรื่องราวแล้ว มันก็ดัดแปลงมาจากนิยายชอลิ้วเฮียงน่ะครับ ใครเคยอ่านพอได้ดูคงจะร้องอ๋อเป็นฉากๆ ทีเดียว ที่ดัดแปลงเอามายำกันโดยโครงหลักๆ มาจากตอน กลิ่นหอมกลางธารเลือด, ศึกวังน้ำทิพย์ และ ยืมศพคืนวิญญาณ นะครับ และคำถามสำคัญคือตกลงหนังฉบับนี้เป็นไง คำตอบของผมคือ นี่เป็นชอลิ้วเฮียงฉบับที่ธรรมดาที่สุด มันส์น้อยที่สุดเท่าที่เคยสร้างกันมาครับ (นี่เอาเฉพาะชอลิ้วเฮียงฉบับหนังชุดนะครับ และนับเฉพาะที่เจิ้งเส้าชิวกับเหมียวเฉียวเหว่ย เคยเล่นด้วย ไอ้เวอร์ชั่นหลิวเต๋อคายนั้นละเอาไว้คับ เพราะอันนั้นมันออกจะแหม่งๆ ไงก็ไม่ทราบ เป็นชอที่ไม่ค่อยจะใช่ชอซักเท่าไหร่ แต่ถ้านับเวอร์ชั่นนั้นด้วย ฉบับนี้ก็สนุกกว่าครับ)
ก็ต้องขอเทียบกันหน่อยล่ะครับ เพราะชอลิ้วเฮียงก็มีการสร้างมากหลายฉบับแล้ว (และผมจะเอาแต่ละฉบับมาพูดยาวๆ กันในโอกาสต่อไป) ก็มีดั้งเดิมปี 1979 ของเฮียเจิ้งเส้าชิว โคตรพี่ชอในตำนานครับ ไม่มีใครเล่นได้ดีเท่านั้นอีกแล้ว และฉบับของพี่แกก็เข้าท่าด้วย ต่อมาก็ของเหมียวเฉียวเหว่ยที่เอาเนื้อเรื่องตอนศึกวังค้างคาวไปดัดแปลง นั่นก็ยังจัดว่าเจ๋งและเพลงยังเพราะสุดๆ ด้วย ต่อมาก็เวอร์ชั่นปี 1995 ที่ช่อง 7 เคยเอามาฉาย ที่เจิ้งเส้าชิวกลับมาเล่นเป็นพี่ชออีกครั้ง นั่นก็น่าพอใจ ส่วนอันนี้มันถือว่าอ่อนกว่าฉบับที่ผมเคยกล่าวมาทั้งหมดเลยครับ
ก่อนอื่น ถ้าให้ว่าจริงๆ ผมว่าพี่เยิ่นเสียนฉีแกไม่เหมาะจะมาเล่นเป็นชอลิ้วเฮียงเท่าไหร่ บุคลิกไม่ให้อ้ะคับ มันต้องขรึมได้และเจ้าชู้แบบไม่โจ่งแจ้ง (เจ้าชู้แบบสุภาพบุรุษน่ะครับ ใครอ่านนิยายหรือเคยดูฉบับพี่เจิ้งเส้าชิวมาจะเข้าใจ) แต่ในเรื่องนี้พี่แกขี้เล่นมากไปหน่อย คือพี่แกเล่นยังกะหลุดมาจากบทเล่งฮู้ชงเลยอ้ะคับ แทบไม่ต่างกันเท่าไหร่
ส่วนเนื้อเรื่องนั้นแม้จะอิงมาจากนิยาย แต่ก็แปลงไปเยอะ และทำออกมาได้ไม่ค่อยมีจินตนาการเท่าไหร่อ้ะคับ ในนิยายตอนตีกันนี่อย่างมัน อีกอย่างคือฉบับก่อนๆ มันตีกันมันส์จริงๆ แต่กับอันนี้มันดันธรรมดาครับ การทิ้งปมก็ไม่ค่อยเร้าใจอะไรนักด้วย ฉากต่างๆ ก็ค่อนข้างจืดตาครับ มันเหมือนกับที่เราเห็นๆ กันมาแล้วน่ะจากเรื่องพวกอุ้ยเสี่ยวป้อหรือเณรน้อยยอดอัจฉริยะอะไรเทือกนั้นน่ะครับ
นั่นก็คือข้อด้อยครับ แต่ข้อดีก็ยังพอมีนะ คือดารารับเชิญที่มากันเพียบ ไม่ว่าจะเจิ้งอี้เจี้ยน (เล่นเป็นลี้คิมฮวงครับ พอไหว), จางเหว่ยเจี้ยน (เป็นไต้ซือหวูเฉิง หรือที่รู้จักกันในนามบ้อฮวยนั่นเอง ซึ่งโดยส่วนตัว บทนี้มันก็ขัดตาไม่น้อยอ้ะคับ ปกติพี่แกเล่นเน้นฮาจนเกินไป มาเรื่องนี้มันเลยแปลกๆ อ้ะ และบทนี้ไม่ควรจะเน้นฮาขนาดนี้ด้วย), อู๋ม่งต๊ะ (ในบทจอมโจรปลิดดาว ซือคงเจอะซิน),ฉีเส้าเฉียน (พี่แกมาอีกแล้วครับเรื่องนี้) นอกจากนี้สาวก็ยังเยอะด้วยครับ ไม่ว่าจะหลี่จือ, หลินซินหยู, หยังกงหยู, หยวนหย่งอี้ก็มาครับ
อีกตัวละครนึงที่ขัดใจไม่น้อยก็คือแมวขี้เมาโอ้วทิฮวย (หลีเย่าเสียง) ที่พี่แกมาดยังกะกีเปียงังอ้ะ (เพื่อนคนที่เป็นเศรษฐีของชอลิ้วเฮียงครับ แต่ในเรื่องนี้ไม่มีนะ) รวมไปถึงบทย่งย้งก็ดันเป็นอีกแบบ เฮ่ยๆๆๆ (นี่เป็นความทุกข์ของคนที่ชอบชอลิ้วเฮียงล้วนๆ ครับ)
ครับ ก็เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่เคยชมชอลิ้วเฮียงมาก่อนเลยไม่ว่าจะฉบับไหน แล้วดูภาคนี้ ก็น่าจะโอเคครับ มันก็เรื่อยๆ ตามมาตรฐานของหนังจีนยุคหลัง (หรืออีกนัยนึงคือหนังจีนหลังปี 1996)
แต่ถ้าคุณดันเคยผ่าไปชมชอลิ้วเฮียงมาก่อน โดยเฉพาะในกรณีที่คุณเคยชมเวอร์ชั่นเจิ้งเส้าชิวมาแล้วล่ะก็ ต้องทำใจครับ อย่างผมนี่ก็ล่อพาราไปหลายเม็ดเหมือนกันกว่าจะทำใจได้ (555) จริงๆ มันก็ไม่เลวร้ายหรอกครับ ดูได้น่ะ เรื่อยๆ เพียงแต่ต้องพยายามอย่าเอาไปเทียบกับฉบับเก่าครับ ดูสบายๆ
ผมอาจจะขี้บ่นไปหน่อยนะครับ แต่ทำไงได้อ้ะคับ มันคิดงั้นจริงๆ อ้ะ อีกอย่างการที่ทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้คาดหวังจนเกินไปด้วย อาจจะดูหนังสนุกขึ้นน่ะครับ
เรื่อยๆ แบบสองดาวครับ
(6/10)