“ความหวัง คือสิ่งเดียวที่แข็งแกร่งกว่าความกลัว”
ที่จริงคำนี้มาจากปาก ปธน. สโนว์ (Donald Sutherland) ในภาคแรก แต่ฟังแล้วมีความหมายและมันอธิบายหนังได้อย่างดีเลยยกมาตรงนี้ครับ
ถ้าใครถูกจริตภาคแรก (แบบผม) ก็น่าจะสนุกกับภาคนี้ครับ แคทนิส (Jennifer Lawrence) กับพีต้า (Josh Hutcherson) ต้องมาแข่งฮังเกอร์เกมอีกครั้งตามแผนของ ปธน. สโนว์ที่หมายจะดับประกายความหวังของชาวเมืองเขตต่างๆ ซึ่งรอบนี้การผจญภัยมีอะไรลุ้นๆ มากกว่าคราวก่อน เนื้อเรื่องก็ปูสู่ภาคต่อไปได้เข้าท่าทีเดียว
สารภาพตรงๆ ว่า ดูภาคแรกรอบแรกแล้วไม่ถึงกับชอบ กระทั่งมาดูภาค 2 แล้วชอบเลยย้อนไปดูภาคแรกใหม่ ก็รู้สึกชอบมากขึ้น ถ้าถามว่าเพราะอะไรก็คงเพราะตอนแรกผมยังไม่อินไปกับโลกของ Hunger Game ออกจะขัดนิดๆ ที่ต้องมาเห็นคนฆ่ากัน อารมณ์เดียวกับตอนดู Battle Royale รอบแรกน่ะครับ คือชอบน่ะชอบอยู่ เข้าใจสาระ+สัญญะที่หนังบอก แต่ขัดใจที่เห็นเด็กต้องมาฆ่ากันเอง ทว่าพอดูใหม่ ปรับใจดูรายละเอียด ดูสารที่หนังพยายามบอกก็รู้สึกโอเคมากขึ้น
หนังเรื่องนี้ถ้าดูเอามันส์อย่างเดียวจะน่าเสียดายครับ เพราะมันแทรกประเด็นการแก่งแย่งแข่งขัน, การยอมตาม, พลังแห่งกระแสที่สามารถกลืนกินคำว่า “ผิดชอบชั่วดี” ได้, การควบคุมมนุษย์, เหตุที่มนุษย์คุ้นชินกับการโดนควบคุม และแน่นอนว่ามีประเด็นความหวัง, ความรัก, การเสียสละ, ความพยายาม, ไมตรีมิตรภาพ และการเติบโตสอดแทรกลงไปเช่นกัน
คนอื่นบอกว่าสนุกหรือไม่สนุก อย่าเชื่อเร็วเกินไปครับ เพราะเราเท่านั้นที่จะบอกได้ ว่าเราจะชอบหนังหรือไม่
ส่วนผม ผมพูดได้เต็มปากว่า ผมชอบ… โจแฮนนา (Jena Malone) ครับ (55555)
สองดาวครึ่งบวกๆ ครับ
(7.5/10)
หมวดหมู่:Action, Adventure, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Mystery, Sci-Fi, Thrillers