รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

ก่อนบ่าย เดอะมูฟวี่ ตอน รักนะ… พ่อต๊ะติ๊งโหน่ง (2007) Konbai The Movie

1228362865

วันนี้ระดมอัพแล้วก็อัพหนังไทยเยอะหน่อยด้วยครับ เพราะรู้สึกว่านานทีปีหนจะวนไปพูดถึงหนังไทย ซึ่งในมุมหนึ่งหนังไทยก็มีที่ดีจริงๆ น่ะไม่เยอะหรอกครับ ส่วนมากไม่ตามกระแสก็ขายดารา แต่กระนั้นถ้าจะบอกว่าหนังไทยบ้านเราไร้สาระ ไม่มีอะไรน่าพูดถึงเลยนั่นก็ออกจะแรงไปหน่อย แม้แต่หนังไทยที่ทำลงแผ่น ว่าแย่ขนาดไหนแต่ก็ยังมีอะไรน่าเอามาพูดถึงอยู่ดีน่ะครับ

เรื่องนี้ก็เป็นหนังแนวตลกที่ส่วนใหญ่คนดูก็เฉยๆ ผมเองก็ไม่ได้สนใจใคร่ดูเท่าไร รอออกแผ่นแล้วค่อยคว้ามาบริโภค เพราะคิดในใจว่าน่าจะเหมือนตอนนั่งดูรายการ ก่อนบ่ายคลายเครียด อยู่กับบ้านน่ะแหละ พอได้ดูหนังก็เป็นเช่นนั้นแหละครับ เพียงแต่จะมีรายละเอียดทางสถานที่และมีดาราตลกมาร่วมทีมกันแสดงเยอะกว่าหน่อยเท่านั้น

แต่ก่อนผมจะดูหนังผมก็มีโอกาสได้ชมบทสัมภาษณ์ของคุณธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือคุณอาเป็ด เชิญยิ้มนั่นเอง ก็ขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมสมัยเด็กชอบดูตลกมา และตลกคณะที่ผมว่าเด็ดมากๆ มีอยู่สี่คณะได้ คณะแรกคือคณะของอาดี๋ ดอกมะดันที่สมัยนั้นจะมีคุณไจแอนท์ คุณโรเบิร์ต คุณพี่เป้า (ล้อเลียนสายัณห์) แก๊งนี้เรียกเสียงฮาจากผมได้แบบสุดขีด แล้วก็คณะเด๋อ ดอกสะเดาที่ยุคนั้นจะมีพี่คนหนึ่งแกทำผมตั้งๆ ตรงกลางหัวน่ะครับ ยุคนั้นฮามาก แล้วก็ชวนชื่นที่ผมว่าตลกมากนะครับ ผมชอบมาตั้งแต่ก่อนพวกเขาจะดังทางทีวีอีก แล้วที่ชอบอีกหนึ่งคือคณะของอาเป็ด สมัยที่พี่หนูยังอยู่ ฮามากครับ บ้ากันเต็มที่ ทุกวันนี้ผมยังเอาวีซีดีมาเปิดเลย ฮาไม่มีตกยุค ฮากว่าตลกสมัยนี้เยอะ (ว่าตามจริงคือตลกสมัยนี้เอามุกจากพวกพี่ๆ เขามานั่นแหละครับ โดยเฉพาะโปงลางสะออนนี่ หลายมุกจริงๆ ที่มาจากตลก 4 คณะนี้)

ตอนผมดูบทสัมภาษณ์อาเป็ดก็บอกว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากทำเรื่องนี้คือ อยากทำเพื่อรำลึกหนังสไตล์เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง หนังตลกดังๆ สนุกๆ ของสามตลกรุ่นเก๋า เด่น เด๋อ เทพ ประมาณว่าคนสามคนที่ทำตัวต๊องๆ หน่อยออกผจญภัยไปทำอะไรด้วยกันแบบฮาๆ น่ะครับ ผมก็เลยสนใจอยากดูเรื่องนี้ขึ้นมาหน่อยนึง

เนื้อเรื่องก็ตามนั้นเลยครับ มีตัวเอกสามคน เป็นชาวเขาพูดจาไม่ชัด นามว่า ทีป้อ (อ๊อฟ ศุภณัฐ) หล่อซา (นุ้ย เชิญยิ้ม) และ หม่าจู (จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม) แล้วการผจญภัยก็เริ่มเมื่อมีสาวน้อยน่ารักนามว่าคุณแอนนี่ (อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท) แวะมาเยี่ยมเยือนหมู่บ้าน แล้วทีป้อก็รักเธอทันทีครับ พอเธอจากไปทีป้อก็ตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงไปตามหาเธอ ระหว่างทางก็มีการผจญภัยบ้าๆ บอๆ ตามประสาน่ะแหละ กว่าจะได้เจอคุณแอนนี่ก็เล่นเอาเหงือกบานไปเลย แต่พอเจอแล้วทีป้อก็ต้องช็อกเพราะเธอมีคู่หมั้นอยู่แล้ว

ทว่า ทีป้อกลับได้รู้ความจริงว่าคู่หมั้นของคุณแอนนี่ มีเจตนาไม่ดีบางอย่างต่อเธอ… แบบนี้พ่อต๊ะติ๊งโหน่งของเราเลยตั้งใจจะออกโรงเพื่อปกป้องคุณแอนนี่ แม้จะเอาชีวิตเพื่อนๆ เข้าแลกก็เถอะ (อ้าว )

ส่วนใหญ่ที่ดูก็บอกว่าหนังไม่มีอะไร ไม่ขำเท่าไร… แต่ผมกลับโอเคกับหนังพอสมควรน่ะครับ คือ หนังมันไม่ได้ฮากระหน่ำเต็มที่ จริงๆ ต้องบอกว่าอารมณ์เหมือนดูก่อนบ่ายจริงๆ อาจเพราะทีมตลกประจำชุดนั้นมากันครบ โดยเฉพาะน้าโย่งกับพวกน่ะครับ มากันครบทีมเลย แต่ใช่ว่าจะไม่ดีนะครับ ทุกคนยังคงเป็นดาราตลกที่เล่นตลกได้ลื่นไหล มุกฮาหน้าตายนี่ยังขำอยู่ โดยเฉพาะตอนที่พี่หม่ำกับพี่โน้ตแกปรากฏตัวเนี่ย ฮาได้เรื่อยๆ จริงๆ ยิ่งคุณพงษ์พัฒน์… แหม ทำไปได้ ออกมาฮาน่ะนั่น

ส่วนหนึ่งคงเพราะผมทำใจน่ะครับ คิดว่าหนังมันก็น่าจะประมาณก่อนบ่ายน่ะแหละ พอดูปุ๊บก็จริงครับ เลยไม่ผิดหวังอะไรมาก (แหม จะให้หนังมันเป็น Scary Movie หรือ American Pie ก็ใช่ที่น่ะเน้อะ) แต่จุดที่ผมมองมากกว่าคือพล็อตหลักของหนังน่ะครับ แม้มันจะอ่อนเบามากๆ แต่ผมว่าอาเป็ดก็ยังมีทิศทางทำตามเจตนาอยู่ นั่นคือทำให้มันออกมาในสไตล์เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่ง สามหนุ่มทำตัวเป๋อเหลอ เรียกเสียงฮา ก็ยังโอเคน่ะครับ แล้วก็พล็อตหลักประเภทรักมั่นเธอคนเดียวนี่ก็เป็นสไตล์เหมือนหนังแบบเก่าจริงๆ (ยุคนี้เน้นสวิงกิ้งกันไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ ) ถ้ามองจากสายตาคนสมัยนี้ สิ่งที่อาเป็ดนำเสนออาจจะติดเชยๆ แบบความคิดและค่านิยมของคนเก่าๆ แต่ผมกลับชอบนะ ชอบกว่าหนังตลกอีกหลายเรื่องที่ขยันทำออกมา เพราะส่วนมากหนังตลกเหล่านั้จะไม่ค่อยมีทิศทาง ไม่ค่อยมีสาระอะไรด้วยซ้ำไป ตั้งแต่พวกผีหัวขาดไล่มาเรื่อยๆ จนถึงผีตาหวานกับอาจารย์ตาโบ๋น่ะครับ สาระทิศทางไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เหมือนกับฉากมาชนฉาก มุกชนมุกให้มันจบๆ ไป แต่เรื่องนี้ผมว่าค่อยมีทิศทางหน่อย มีพล็อตผสมมุก มากกว่าจะมีแต่มุกกับมุกอย่างเดียว แต่ก็ต้องยอมรับล่ะครับว่า หนังยังไม่ดีเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เอาล่ะครับ ถ้าว่ากันถึงหนัง เทียบกับหนังอีกหลายเรื่องหนังอาจไม่ได้มีคุณค่าทางวรรณศิลป์หรือทางศิลปะภาพยนตร์แต่อย่างใด แต่อย่างน้อยหนังก็ขายขำครับ สนุกได้เรื่อยๆ แบบไม่ต้องคิดมากให้ปวดหมอง ดูจบแล้วก็จบกัน แต่ก็แอบได้แง่คิดสนุกๆ ถึงความซื่อของคนน่ะครับ อ้าใช่ นี่ก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้นิดๆ คือในเรื่องเนี่ย คนดีได้รับผลดี เป็นหนังให้กำลังใจคนได้เหมือนกันนะ

สมัยก่อนผมชอบมองหนังตกลพวกนี้ว่าไร้สาระ… แต่เมื่อมองย้อนมาที่สังคมไทย บ้านเราคือสยามเมืองยิ้มนี่หน่า ดังนั้นหากหนังสักเรื่องจากประเทศเราจะขยันเรียกรอยยิ้ม แม้มันจะไม่มีสาระใดๆ แต่อย่างน้อยขอให้มันไม่ได้ทำร้ายใคร มันก็โอเคนี่เน้อะ ดีออก ตราบใดที่คนยังตีตั๋วเข้าไปดูหนังคลายเครียด ได้ออกมาพร้อมรอยยิ้มก็ดีแล้วนี่

แต่แม้จะยิ้มแค่ไหน ก็ต้องรู้จักหาสาระให้ตัวบ้างเน้อะครับผม จะได้ยิ้มอย่างเต็มที่ มีทั้งมุมสบายและมุมสมอง

สำหรับเรื่องนี้ ผมอาจดูด้วยความคิดเชิงบวกอยู่บ้าง แล้วก็นับถืออาเป็ดเขาด้วยน่ะครับ (แหม ตลกคนหนึ่งสามารถเดินบนเส้นทางนี้แล้วกลายเป็นหนึ่งในตลกแถวหน้าได้ ผมว่าท่านก็มีความน่านับถืออยู่ไม่ใช่น้อยล่ะครับ) โดยรวมๆ ก็ไม่ผิดหวังนะครับ เหมือนดูก่อนบ่ายเวอร์ชั่นยาว สนุกดี ได้รอยยิ้มแม้จะไม่กระหน่ำก็เถอะ

อ้อ ผมรู้นะครับ คุณหนุ่มๆ ที่เข้าไปดูสาเหตุหนึ่งก็เพราะอยากไปดูคนที่เล่นเป็นเมียน้าโน้ตใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆ อะไรจะอลังการได้ขนาดนั้น คนนี้ชื่อพันช์น่ะครับ พชรมน แสนเสนาะกุล บอกไว้เป็นข้อมูลแล้วกัน ที่เหลือก็ไป Google โลด

แต่พอดูเรื่องนี้แล้วคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้… ถ้ามีคนเอา เทพบุตรต๊ะติ๊งโหน่งมาทำแบบเอาดาราต้นฉบับมาเล่นเลยน่าจะสนุกนะครับ ประมาณว่าเชิญอาเด่น อาเด๋อ อาเทพ กลับมารับบทเดิม แล้วก็เล่นเรื่องตลกปนชีวิตว่าหลายสิบปีผ่านมา แต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็กลับมาผจญภัยกัน ผมว่าไม่เลวนะ เหมือนที่บุญชูกับวัยอลวน 4 ทำออกมาไงครับ หรือ Rocky กับ Rambo ที่ทำออกมาใหม่ไง น่าสนดีออก ถ้าอาเป็ดจะทำเรื่องหน้า ลองเอาพล็อตนี้มาทำก็ดีนะครับ ผมว่าสามารถทำให้เป็นหนังตลกและหนังดีไปในเวลาเดียวกันได้เลยล่ะ อีกอย่างฝีมือท่านอาตลกแต่ละคน เรื่องเล่นให้ขำน่ะสบาย ส่วนเรื่องเล่นให้ซึ้งผมว่าก็ทำได้นะเอ้า น่าลองนะ

เอาเถอะครับ นั่นคืออนาคต ส่วนตัวหนังตอนนี้ก็พอดูได้เรื่อยๆ

สองดาวครับ

Star21

(6/10)