ผมว่าทั้ง Vin Diesel และผู้กำกับ David Twohy คงคาดไม่ถึงว่าตัวละครแอนตี้ฮีโร่นามว่า ริดดิก จะกลายเป็นคาแรคเตอร์ที่คอหนังชื่นชอบจดจำ จนทำให้มีหนังว่าด้วยริดดิกโดยเฉพาะตามออกมาอีก
สมัยนั้นผมก็นึกไม่ถึงครับ แว่บความคิดแรกก่อนดูหนังเรื่องนี้ก็คือ คิดว่านี่คงเป็นหนังแนวสัตว์โลกน่ารักดูเพลินๆ อีกเรื่อง ดูตัวประหลาดร้ายกาจไล่ล่าคน ดูคนวิ่งหนีและหาทางเอาตัวรอด ยังจำได้เลยครับว่าเคยคิดปรามาสไว้ว่าหนังคงไม่ได้สนุกอะไรมากมาย
และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่ผมประมาณการณ์ผิดไป
Pitch Black เป็นหนังสัตว์ประหลาดแนวเอเลี่ยน ว่าด้วยยานโดยสารลำหนึ่งโดนอุกกาบาตชนจนต้องร่อนจอดฉุกเฉินลงบนดาวใกล้เคียง โดยที่ยานลำนี้ก็บรรทุกทั้งคนธรรมดาทั่วไปและอาชญากรตัวร้ายนามว่าริดดิก (Diesel) แต่แล้วริดดิกสามารถหลบหนีไปได้ ผู้โดยสารที่เหลือก็เลยต้องคอยระวังว่าหมอนี่จะแว้งกัดมาทำอันตรายกับพวกเขาหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ต้องออกสำรวจดาวเพื่อหาอะไหล่และพลังงานสำรองมาซ่อมแซมยาน จะได้บินไปจากดาวดวงนี้เสียที
แต่พวกเขาหารู้ไม่ครับว่าอันตรายบนดาวดวงนี้น่ะ ไม่ได้มีแค่ริดดิก แต่มันยังมีอสุรกายแสนสะพรึงอาศัยอยู่ในถ้ำ คอยดักขย้ำเหยื่อที่ผ่านมา พวกมันมีจำนวนมากและร้ายกาจสุดๆ แต่ยังดีครับที่พวกมันกลัวแสงสว่าง มันจะไม่ออกมาเพ่นพ่านกลางแสงจ้า… แต่ปัญหาคือพวกเขาค้นพบว่า ดาวดวงนี้กำลังจะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา… กล่าวคือความมืดกำลังจะปกคลุมดาวดวงนี้ในเวลาอีกไม่ช้าไม่นาน และแน่นอนว่าพวกอสุรกายจะต้องออกมาอาละวาดจับพวกเขาไปเขมือบ
ในที่สุดเหล่าลูกยานกับริดดิกเลยจำต้องร่วมมือกันเอาชีวิตรอด หนีเจ้าสัตว์ร้ายนี้ให้ทันและหนีไปจากดาวนรกดวงนี้ให้ได้
สนุกครับ มันส์กว่าที่คิด ตอนแรกอาจเรื่อยๆ ช้าๆ ไม่มีอะไรมาก เหมือนหนังไซไฟทุนไม่สูงที่กราฟฟิคอาจไม่เนียน ยานก็ดูไม่ใหญ่ แต่จุดที่ดึงความสนใจคนดูคือการแสดงครับ Diesel ใส่วิญญาณ (แบบเถื่อนๆ) ลงไปในตัวริดดิกได้อย่างน่าจดจำ, Radha Mitchell ในบทแคโรลิน ฟราย นักบินร่วมของยาน เธอคนนี้ก็เล่นได้ดีทั้งมุมแอ็กชันและดราม่าครับ และดาราชูรสที่น่าพอใจอีกคนก็คือ Keith David ที่ขโมยซีนเพิ่มความสนุกให้หนังได้พอสมควร
ช่วงแรกก็เน้นการแสดง เน้นการขับเคี่ยวระหว่างลูกยานกับวายร้ายอย่างริดดิก แต่พอเจ้าอสุรกายเริ่มออกฤทธิ์ความสนุกก็เริ่มมาแล้วครับ โทนหนังดูหม่นมืดและมีความตื่นเต้นมากขึ้น ยิ่งพอดาวทั้งดวงตกอยู่ในความมืดนี่ความลุ้นไหลมาเทมา มีช่วงพักบ้างก็แค่นิดหน่อย นอกนั้นก็มีแต่ปล่อยของสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมได้แบบต่อเนื่อง
เป็นหนังที่เล่นกับสูตรสำเร็จของหนังสัตว์ประหลาดได้ดีครับ ตอนแรกแนะนำตัวละคร แนะนำสถานที่ ก่อนจะเข้าเรื่องลุ้นแบบต่อเนื่อง แต่ที่ผมชื่นชมเป็นพิเศษคือหนังสามารถนำเสนอแบบขับเน้นความเด่น 2 ประการให้ดำเนินไปพร้อมกัน
ความเด่นประการแรกคือความลุ้นตามสไตล์หนังเอเลี่ยน
ความเด่นประการที่สองคือตัวริดดิกที่มีความน่าสนใจไม่แพ้พวกอสุรกาย การคิด การพูด การตัดสินใจของพี่แกนี่คาดเดาได้ยาก บางทีก็คิดเหมือนเป็นพระเอก แต่บางทีก็ตัดสินใจแบบเอาตัวเองรอดไว้ก่อน มีทั้งด้านดีและด้านร้าย อะไรเหล่านี้ทำให้ริดดิกกลายเป็นสีสันชั้นดีให้กับหนังครับ มันชวนให้ลุ้นด้วยล่ะว่าถึงที่สุดแล้วนายริดดิกนี่จะพาทุกคนไปให้รอดหรือพาทุกคนไป “ทำให้ตัวเองรอด” กันแน่
หนังเลยครบครับ ทั้งความสนุกตื่นเต้น สยองชวนลุ้นสไตล์หนังสัตว์ประหลาด ตามด้วยคาแรคเตอร์ตัวละครที่ส่วนใหญ่ดูเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อ มีปมและปูมหลัง ไม่ได้เป็นพวกแบนราบไร้มิติแบบที่หนังแนวนี้มักปล่อยปละให้ตัวละครไม่มีรายละเอียดเท่าไร แค่ออกมาตายเพียงอย่างเดียว
โดยรวมเลยบอกได้ว่านี่คือหนังที่คอแนวสัตว์โลกน่ารักน่าจะชอบครับ มันสนุก มันเพลิน มันลุ้น มันมีบทที่แน่น (ในระดับหนึ่ง) จนน่าติดตาม และมันมีจุดพลิกผันยากแก่การคาดเดาในหลายช่วง อย่างบทบาทของริดดิกนี่ก็หนึ่งอย่างแล้วครับ ไหนจะมีปมและการตัดสินใจของแต่ละตัวละครอีก ที่มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจโง่ๆ หรือไร้เหตุผลครับ แต่มันคือการตัดสินใจที่สมเหตุผลและส่งผลต่อความรู้สึกของคนดูไม่ใช่น้อยทีเดียว
ในแง่รายได้ถือว่าสวยงามในระดับหนึ่ง หนังลงทุนไป $23 ล้าน ได้คืนมา $53 ล้านจากทั่วโลก เรียกว่าคุ้มทุน ส่วนกำไรค่อยมาเพิ่มทีหลังตอนออกแผ่นลงเคเบิ้ล ฯลฯ
ทราบไหมครับว่าจริงๆ แล้วในบทร่างแรกๆ ของหนังเรื่องนี้ บทริดดิกนั้นจะไม่ใช่ผู้ชายนะครับ แต่เป็นผู้หญิงแกร่ง แต่ดูท่าว่าทีมงานจะเกรงว่ามันจะมาซ้ำรอยกับหนัง Alien เลยเลือกที่จะทำให้ริดดิกเป็นผู้ชายประกบกับตัวเอกผู้หญิง แล้วแบ่งความเด่นตีคู่กันไปแทน ซึ่งผลที่ได้ก็ออกมาเข้าท่าดีครับ
เป็นหนังอีกเรื่องที่พอเขียนถึง นึกถึง ก็เกิดอารมณ์อยากดูซ้ำขึ้นมา
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังแนะนำ Recommended, Horror, Monster Movies, Sci-Fi