วันนี้หลับตาเปิดหนังสือบันทึกส่วนตัว แล้วจิ้มครับว่าจะเอาหนังเรื่องไหนมาบอกเล่าเก้าสิบห้าดี ก็ได้เรื่องนี้มาเลยเชียว กับตำนานผีดิบแวมไพร์กลางอวกาศ (ชื่ออิตาลีคือ Terrore nello spazio ครับ)

เรื่องเริ่มเมื่อยานอวกาศสองลำเกิดตกไปยังดาวลึกลับที่ยังไม่เคยมีการสำรวจมาก่อน กัปตันมาร์ค มัคเกอรี่ (Barry Sullivan) หัวหน้าทีมจึงออกเดินทางเพื่อสำรวจ ก่อนจะพบความจริงอันน่าสะพรึง เมื่อปีศาจร้ายกระหายเลือดได้ตามล่าพวกเขา เพื่อหมายเอาชีวิตให้ถึงตาย!

หนังเรื่องนี้แก่เก่าเล่ายี่ห้อมากครับ ผมดูไปแล้วยอมรับว่าไม่ใคร่จะสนุกไปด้วยเท่าไร มันธรรมดาครับเรื่องความสยองตื่นเต้น น่าติดตามก็ไม่มากมาย ซ้ำที่คาตาอย่างแรงคือสเปเชียล เอฟเฟกต์ที่ไม่เนียนอย่างแรง ดูตลกไปเลยน่ะครับทั้งๆ ที่หนังดูมีฟอร์มและทุนสูงอยู่ ทำให้อารมณ์ตอนดูไม่คล้อยตามเท่าไร พาลจะฮาด้วย บางฉากดูออกว่าเป็นเอฟเฟกต์เมคขึ้นมา แต่ตัวละครในเรื่องทำท่า อะโห อะฮ่า … กลุ้มเล็กๆ

ก็ต้องทำใจกันเล็กน้อยครับ หนังเก่านี่หน่า แต่ถึงกระนั้นขนาดผมดูแบบไม่คิดมากก็ยังอดเฉยแหลกไม่ได้ เป็นงานกำกับของ Mario Bava ผู้กำกับชาวอิตาลี่ที่มีชื่อเสียงมากในการทำหนังสยองขวัญ งานที่ทำได้สยองพองขนสุดขีดก็มีเช่น I Tre volti della paura (1963) หรือ Black Sabbath กับ La Maschera del demonio (1960) หรือชื่อฝรั่งว่า Black Sunday สองเรื่องนี้ลองไปหาทัศนาได้เลยครับแล้วท่านจะประจักษ์ในความสามารถทางการสร้างความขนพองสยองเกล้าของ Mario Bava

คอหนังแดนสปาเก็ตตี้อาจคุ้นนามสกุล Bava ว่าเหมือนเคยได้ยินที่ไหน หากท่านเป็นคอหนังสยองล่ะต้องจำนาย Lamberto Bava ผู้กำกับจอมนองเลือดอีกคนของอิตาลี่ได้ ผลงานก็มี Demons 2 ภาคไงครับ ซึ่ง Lamberto ก็คือลูกชายของ Mario นั่นเอง (แหม ทำหนังโหดทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะ)

และเรื่องนี้ Lamberto ถือว่าได้ทำงานเกี่ยวกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในฐานะผู้ช่วยของพ่อ ก่อนจะค่อยๆ สั่งสมประสบการณ์กลายเป็นผู้กำกับในเวลาต่อมา

แต่จุดที่น่าพูดถึงก็ในฐานะที่หนังมีกลิ่นอายบางอย่างน่าสนใจ ในฐานะหนังที่เล่าเรื่องสยองกลางอวกาศ ถือว่า Planet of the Vampires ทำได้โอเค (สำหรับยุคนั้น) ว่ากันว่าสไตล์ของหนังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดหนังอย่าง Alien, Pitch Black และ Mission to Mars แต่สำหรับ Alien แล้วทั้ง Ridley Scott และคนเขียนบทอย่าง Dan O’Bannon อ้างว่าพวกเขาไม่เคยดูหนังเรื่องนี้สักหน่อย … ก็ว่ากันไป

นั่นล่ะครับ สิ่งเดียวที่ผมว่าพอจะเข้าท่าในเรื่องคือบรรยากาศในบางจังหวะ ซึ่งผมว่าถ้าตัดเรื่องบทที่อ่อนและเอฟเฟกต์หลอกๆ ไปได้หนังจะดูดีขึ้นเยอะ

สรุปคือหากจะดูหนังเอาบรรยากาศสยองกลางอวกาศที่เวิ้งว้างก็ไม่เลวครับ แต่อย่าคาดหวังเรื่องบทเชียวล่ะ

สองดาวหมิ่นๆ จะไม่ได้ครับ

(6/10)