ถ้าจะไว้อาลัย Patrick Swayze โดยไม่พูดถึงหนังเรื่องนี้ เห็นทีจะไม่ครบองค์ประชุมล่ะนะครับ

ก่อนที่เขาจะดังสุดๆ จากหนังเรื่อง Ghost เขาก็ยังมีผลงานเรื่องนี้อีกหนึ่งเรื่องล่ะครับ ที่ดังสุดๆ และฮิตแบบติดลมบน จนได้รับการบันทึกว่าเป็นหนังเรื่องแรกที่ขายได้ถึง 1 ล้านม้วนตอนออกเป็นวีดีโอครับ (ฮิตไม่ฮิตคิดดู )

เนื้อเรื่องอาจจะออกแนวน้ำเน่าสำหรับคนยุคนี้นะครับ แต่ก็ถือว่าใหม่สำหรับสมัยก่อน ว่าด้วยสาวน้อยวัย 17 ปีจากนิวยอร์ก ฟรานเซส เฮาส์แมน (Jennifer Grey) ที่มีพ่อแม่ร่ำรวยครับ ชีวิตที่ผ่านมาก็เจอแต่ความสุขสบาย เข้าสไตล์คุณหนูที่เอาแต่ใจนิดๆ ล่ะครับ

แล้วในช่วงวันหยุดเธอก็ไปพักกับครอบครัวที่สถานตากอากาศเคลเลอร์แมนครับ ไปเที่ยวไปเล่นตามประสาเด็กสาว ทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย แล้วเธอก็ไปพบเจอกิจกรรมที่เธอชอบมากๆ เข้า… เต้นรำไงครับ และไม่ได้ชอบแค่การเต้นเท่านั้น แต่เธอยังชอบครูสอนเต้นหนุ่มหล่อที่ชื่อ จอห์นนี่ แคสเซิล (Patrick Swayze) อีกด้วย แล้วก็พอดีที่คู่เต้นประจำของจอห์นนี่เกิดมีปัญหาส่วนตัว ไม่สามารถเต้นคู่กับเขาได้อีก (เธอท้องน่ะครับ แต่ไม่ใช่กับจอห์นนี่นะ) เขาเลยต้องหาคู่เต้นคนใหม่… ใช่ครับ ฟรานเซสสนใจแน่นอน

เพียงไม่นานครับ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ก่อตัว ผ่านทางการเต้นรำและความต่างที่เข้ากันพอดีของคนทั้งสอง เพราะฟรานเซสเป็นคุณหนูไงครับ ส่วนจอห์นนี่ก็ออกแนวหนุ่มบ้านนอกนิดๆ ที่มีเสน่ห์ และชอบขัดใจเธอเป็นพักๆ (เริ่มได้กลิ่นหรือยังครับ สูตรหนุ่มใจแข็งกับคุณหนูไฮโซไง ) จนในที่สุด ความรู้สึกก็พัฒนาเป็นความรัก พร้อมกับลีลาการเต้นของทั้งสองที่เข้าคู่กันมากขึ้นๆ

แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ พอเห็นลูกสนิทกับไอ้หนุ่มไร้หัวนอนปลายเท้าก็รับไม่ได้ล่ะครับ จึงออกปากสั่งเด็ดขาด ห้ามไม่ให้ฟรานเซสไปสุงสิงกับจอห์นนี่อีก เต้นรำก็ไม่ต้องไปเรียนทั้งนั้นแหละ โอ้ เมื่อความรักมีอุปสรรคแบบนี้ ทั้งสองจะฝ่าฟันไปได้หรือไม่หนอ ลุ้นๆๆ

ผมดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2544 ครับ หลังจากควานหาวีดีโออยู่นาน (แหม สมัยก่อนหาหนังดูทียังกับแทงหวยน่ะครับ โอกาสเจอไม่ง่ายเท่ายุคนี้หรอกที่สั่งได้ตามเน็ตได้แบบทันใจ ) ก่อนดูก็มีคำถามครับว่าทำไมหนังถึงฮิตหนอ หนังมีอะไรดีหนอ… พอดูจบปุ๊บก็รู้เลยหนอ

หนังมันสุโค่ยยยยยยยยยยยยย!

เข้าใจเลยครับว่าทำไมมันฮิตโดนใจวัยรุ่น ก็เล่นใส่ลูกเล่นเด็ดๆ สำหรับหนังวัยรุ่นมาแบบครบสูตร ตั้งแต่ดาราหล่อสวย เนื้อเรื่องง่ายๆ แต่ชวนฝัน ประเภทสาวน้อยน่ารักได้เจอหนุ่มในฝัน และหนุ่มธรรมดาก็ได้เด็ดดอกฟ้า ผสมเข้ากับเรื่องอุปสรรคในรักนิดๆ ก่อนจะจบลงอย่างแสนอิ่มเอม ด้วยชัยชนะในเรื่องความรักและการตัดสินใจของคนหนุ่มคนสาว

พร้อมเพลงประกอบที่เด็ดแบบไม่บันยะบันยัง เร้าใจได้อารมณ์ สนุกสนาน จนดูไปนี่อยากจะลุกขึ้นมาดิ้นกับเขาด้วยน่ะครับ (แล้วหนังก็ได้ออสการ์สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมไปครองตามระเบียบ)

ยังไม่พอครับ ที่เด็ดมากๆ คือฉากการเต้น ที่สนุก เร้าใจ ครบสูตรแห่งการเร้าอารมณ์ ซึ่งคนที่ออกแบบท่าเต้นก็ไม่ใช่ใครครับ เขาคือ Kenny Ortega ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจจะคุ้นชื่อเขาจากหนัง High School Musical ทั้งสามภาค แต่ถ้าเป็นคอหนังรุ่นเก่าย่อมจำได้ว่าเขานี่แหละ คือ ผู้ได้รับถ่ายทอดวิชาการเต้นมาจากยอดนักแสดงนักเต้นอย่าง Gene Kelly ดังนั้นแทบไม่ต้องบอกเลยครับว่าแกจะแน่แค่ไหนเรื่องฉากเต้นๆ ผมแนะนำให้ดูกันเองดีกว่า

หรือถ้าจะให้สรุปสั้นๆ ก็บอกได้เลยครับว่า สุโค่ย Again!

จริงๆ นะครับ เวลาแด๊นซ์กันทีก็ออกรสมากๆ เพลงดี ท่าก็มันส์ ตอนดูนี่ผมขยับเท้าอ้ะ (ทั้งๆ ที่นั่งดูอยู่นี่แหละ) ไม่แปลกใจเลยครับที่วัยรุ่นยุคนั้นจะปลื้มหนังเรื่องนี้ ก็มันจับใจวัยรุ่นได้อย่างอยู่หมัดขนาดนี้นี่หน่า

สาระดีๆ ของหนังก็มีในระดับพอดีคำครับ อย่างการตามความฝันของเรา ฝันให้ไกลไปให้ถึง ตามด้วยมุมมองความรักของวัยรุ่น ที่หนังก็ทำให้เราเข้าใจนะ ว่าฟรานเซสกับจอห์นนี่รักกันน่ะ และต่างฝ่ายต่างก็เป็นคนดีด้วย แต่กระนั้นในมุมพ่อแม่ก็ต้องเป็นห่วงลูกอยู่แล้ว กลัวว่าลูกจะคบคนดีจริงๆ หรือเปล่า และกลัวอนาคตด้วยว่า หากลูกสาวไปคบหากับคนเต้นกินรำกิน แล้วมันจะส่งผลดีต่ออนาคตหรือไม่ จะพากันไปลำบากหรือเปล่า ซึ่งหนังก็สอนเราแบบกลายๆ ล่ะครับ ให้เรียนรู้ที่จะมองให้ครบมุม คนเป็นพ่อแม่ก็ควรรู้มุมมองของลูก ส่วนลูกก็ต้องเข้าใจพ่อแม่ให้ถูกเช่นกัน

แต่ในที่สุด ลองว่าคนทั้งคู่ใฝ่ดี พ่อแม่ก็ยินดีเปิดทางให้เสมอล่ะครับ แต่เราต้องพิสูจน์ให้พวกท่านเห็นนะ ว่าความรักของเราไม่ใช่การหลง ความรักของเรานำไปสู่ทางเจริญ ไม่ใช่พากันไปเที่ยว มั่วสุม หรือทำให้การเรียนตกย่ำแย่ลง ของแบบนี้ต้องมองให้ครบมุมครับ

สรุปคือ… มันเยี่ยมในหลายๆ ด้านทีเดียวครับ แต่อาจไม่ถึงขั้นสมบูรณ์สุดยอด คนที่น่าจะชอบหนังเรื่องนี้คงเป็นวัยรุ่นน่ะครับ แล้วก็คนที่ผ่านชีวิตวัยรุ่นสไตล์ยุค 80 หรือ 90 มาน่ะจะสนุกไปกับหนังได้ไม่ยาก การเดินเรื่อง จังหวะต่างๆ นับว่าลงตัวครับ อันนี้ก็ต้องชม Emile Ardolino (Sister Act) ผู้กำกับที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ว่าเขาถ่ายทอดหนังได้ดีทีเดียวครับ

ความสำเร็จของหนังก็จัดว่ามากมายจริงๆ จากหนังทุน $5 ล้าน สามารถทำเงินทั่วโลกได้ถึง $213.9 ล้าน กำไรแค่ไหนคำนวณกันได้ตามสะดวกครับ

รายได้มหาศาลนี้ก็ส่งผลให้บริษัทผู้สร้างอย่าง Vestron Video ที่ลองทำหนังป้อนตลาดดู (เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 5 ครับ) สามารถยกระดับตนเอง กลายเป็นบริษัท Vestron Pictures ในชั่วข้ามคืน (แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหนังเรื่องไหนฮิตระเบิดได้ขนาดนี้อีกเลย ทำให้บริษัทนี้ต้องยุติบทบาทลงในอีก 5 ปีต่อมา)

แต่ถ้าพูดถึงหนังเรื่องนี้เพียวๆ ก็ต้องเรียกว่าประสบความสำเร็จในทุกด้านครับ ทั้งตอนเข้าโรง ตอนลงม้วนวีดีโอ เป็นซาวน์แทร็ก ทำให้ดาราดัง และอื่นๆ อีกมากมาย ด้านการแสดงนั้น ก็ต้องยอมรับครับว่า Swayze เท่ห์มาก เต้นได้พริ้วมากๆ ลีลาโปรยเสน่ห์ได้เยี่ยมสุดๆ ซึ่งเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาได้บทนี้ไปครองก็ด้วยลีลาการเต้นที่พริ้วนี่แหละครับ เพราะตอนแรกนั้น คนที่อยู่ในลิสต์ที่ทีมงานอยากให้มาแสดงบทนี้ก็มี Val Kilmer และ Billy Zane แต่ลีลาการเต้นของสองคนนั้นสู้ Swayze ไม่ได้สักคน ซึ่งจะว่าไป ผมว่าบทแบบนี้เหมาะกับ Swayze ที่สุดด้วยล่ะครับ ออกแนวเท่ห์บวกเถื่อนนิดๆ เข้าดีออก

ส่วน Grey ก็น่ารักดีครับ ดูเป็นคุณหนูนิดๆ แต่ก็มีความมั่นใจ โดยส่วนตัวแล้วผมว่าพระนางในเรื่องนี้ไม่ได้หล่อมาก สวยมายนะครับ แต่พวกเขาดูดี ดูเข้ากันได้ มีเคมีเข้ากันกำลังเหมาะดีน่ะ ซึ่งผมว่าทีมแคสติ้งก็เทพไม่ใช่ย่อย จับคู่มาเข้ากันได้แบบนี้ ขอปรบมือให้เลยครับ เวลาทั้งสองมองตากัน กอดกัน ดูได้อารมณ์เสน่หามากๆ ดูราวกับสองคนตกหลุมรักซึ่งกันและกันจริงๆ น่ะครับ อ้ะ แต่บอกก่อนนะครับว่าสองคนนี้ไม่ได้มีการปิ๊งกันกลางกองถ่ายเด็ดขาด เพราะ Swayze น่ะมีคนรักอยู่แล้วครับ แล้วเขาก็เป็นคนรักมั่นคงมากๆ ด้วย เพราะมีแฟนเพียงคนเดียวตั้งแต่อายุ 18 จนกระทั่งเสียชีวิต

อีกคนที่แสดงได้ดีก็คือ Jerry Orbach ในบทพ่อของฟรานเซส ที่ดูจะเป็นพ่อจอมเฮี้ยบ แต่เอาเข้าจริงเขาก็เป็นเพียงพ่อที่ห่วงลูกและหวังดีต่อลูกเท่านั้นเองล่ะครับ และในตอนท้ายเขาก็ยังมีเหตุมีผล ไม่ได้เอาแต่อารมณ์ด้วย… พ่อแบบนี้น่ารักดีนะครับ

อยากดูหนังวัยรุ่นสนุกๆ สบายๆ เต้นมันส์ๆ แบบพอดีๆ ไหมล่ะครับ… ผมแนะนำเรื่องนี้แบบเต็มๆ ไปเลยครับ เชื่อว่าน่าจะโดนใจวัยรุ่นล่ะน่า

สองดาวครึ่งกว่าๆ ครับผม

(7.5/10)