รีวิวหนัง/ภาพยนตร์

Did You Hear About the Morgans? (2009) มอร์แกนไฮโซ โกบ้านนา

a4877ac2a796c5ff92c2cf262731dbcbfb3fd0dd

มาครับ เรื่องนี้จะเล่าง่ายๆ ร่ายสั้นๆ เพราะมันไม่ค่อยจะมีอะไรให้พูดถึงเท่าไร

พอล (Hugh Grant) และ เมอรีล (Sarah Jessica Parker) สามีภรรยาตระกูลมอร์แกนที่สถานภาพชีวิตคู่กำลังง่อนแง่นเต็มพิกัดครับ แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกให้ทั้งคู่ไปเห็นเหตุฆาตกรรมเข้า แล้วเจ้าฆาตกรโหดนั้นก็ดันเห็นหน้าพวกเขาทั้งคู่ด้วย งานนี้ก็เลยโดนตามล่าเพื่อฆ่าปิดปาก

ทางการก็เลยรีบจัดแจงส่งพวกเขาเข้าสู่โครงการพิทักษ์พยาน เปลี่ยนชื่อและย้ายทื่อยู่ จากเมืองใหญ่แมนฮัตตันที่แสนทันสมัย ไปอยู่ที่เมืองเล็กๆ ในไวโอมิ่งแทน

แล้วที่นั่นแหละครับ ที่ไฟแห่งความรักและความเข้าใจเริ่มกลับมาลุกโชนอีกครั้ง ขณะเดียวกันเจ้าวายร้ายที่หมายจะฆ่าพวกเขาก็ยังไม่ยอมละความพยายาม ยังหาทางตามไปฆ่าพวกเขาอีก แต่ผมว่าเราๆ ท่านๆ ก็น่าจะเดากันได้นะครับ ว่าเรื่องมันจะสรุป Happy หรือ Sadly

ซึ่งก็คงจะ Sad ยากล่ะครับ เพราะคนกำกับและเขียนบทก็คือ Marc Lawrence เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ร่วมงานกับ Grant มาแล้วตั้ง 2 รอบ ได้แก่ Two Weeks Notice และ Music and Lyrics ซึ่งก็เป็นหนังรักสนุกๆ ทั้งนั้น

… แต่พอดูจนจบ ผมกลับออกแนว Sad แฮะ… เพราะมันไม่ค่อยจะสนุกเลยน่ะสิครับ

ผลงาน 2 เรื่องก่อนของ Lawrence แม้จะไม่ถึงกับสุดยอด แต่ก็เพลินน่ะครับ พูดได้เต็มปากว่าสนุกสำหรับหนังรักปนตลก ดูจบแล้วยิ้มได้ ไม่เสียดายเงินและเวลา (อีกอย่าง Soundtrack ก็ค่อนข้างเหมาะด้วย)

แต่มาเรื่องนี้ แม้โครงสร้างจะมาตามสูตรเดิมแบบสุดๆ ที่น่าจะสำเร็จได้ไม่ยาก ทว่าอะไรๆ มันกลับออกมาธรรมดาเกินคาด

เริ่มจากสองตัวละครตระกูลมอร์แกน ที่เสน่ห์และความน่ารักกลับน้อยจนแทบไม่ได้สัมผัสอะไรที่ซึ้งๆ เลย อย่าง Parker นี่ดูเรื่อยๆ ครับ เรื่อยมาก นิ่งมาก เสน่ห์ความน่ารักหรือความเปิ่นนี้น้อยมาก คนละเรื่องกับตอนเล่นเป็น แคร์รี่ แบรดชอว์ แห่ง Sex and the City เลยครับ

ตอนแรกๆ ก็พอเข้าใจครับ ว่าเธอต้องแสดงแบบ นิ่งๆ ไม่สนใจพระเอก อ้า อันนี้รับได้ เพราะบทกำหนดมาว่าพระเอกนางเอกต้องเย็นชากันในตอนแรก แต่ทำไมดูจนจะจบแล้ว มันยังไม่รู้สึกว่าเธอจะรักจะปลื้มพระเอกมากขึ้นเลยหว่า ได้แต่เกาหัวครับ

ส่วนเฮีย Hugh จริงๆ แกก็เล่นได้โอเคนะครับ มาสไตล์เดิมแบบในระยะหลังๆ ที่แกแสดงน่ะครับ เป็นหนุ่มสำเนียงอังกฤษ เปิ่นนิด ติดตลกหน่อย แต่สงสัยจะซ้ำไปหน่อยน่ะครับ ผมเลยรู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรเด่นนัก และลีลาของพี่ท่านออกจะไปไม่ค่อยได้กับการแสดงของ Parker ด้วย

ที่สำคัญคือ Chemistry หรืออารมณ์หวานๆ ระหว่างการเข้าพระเข้านางของพระเอกนางเอกเรื่องนี้ ดูชืดน่ะครับ ไม่รู้สึกว่าหวาน ไม่รู้สึกว่าน่าลุ้นให้กลับมารักสักเท่าไร ไม่เหมือนกับหนังรักสนุกๆ อร่อยๆ แห่งปีอย่าง The Proposal ที่พระนางเข้าขากันได้ดีสุดๆ มี Chemistry เด่นสุดๆ แม้บุคลิกลีลาจะต่างกันคนละโลกก็เถอะ

ลองว่าหนังรัก แต่ดูแล้วไม่รู้สึกว่ามีกลิ่นอายแห่งรัก ก็เป็นอันจบครับ อย่างอื่นแทบไม่ต้องพูดถึงแล้วล่ะ

ที่น่าเสียดายอีกอย่างก็คือ 2 ดาราคุณภาพ Sam Elliott และ Mary Steenburgen ที่อุตส่าห์มาเล่นประกบพระเอกนางเอก แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรเท่าไรครับ ทั้งๆ ที่สองคนนี้น่าจะมีบทเปี่ยมสาระประเภท สอนให้พระเอกนางเอกได้เรียนรู้เคล็ดลับแห่งความรักอันยิ่งยืน แต่ก็ไม่มีครับ เฮ่อ เสียดายจัง

สรุปว่าผิดคาดครับ ประเด็นดีๆ ที่น่าจะมี (อย่างการปรับความเข้าใจให้คนรักที่ห่างเหินกลับมารักกัน หรือ ความหมายแท้ๆ ของชีวิตคู่) ก็ไม่ค่อยมี ดาราก็นิ่ง เพลงก็นิ่ง ที่ผมโอเคที่สุดในหนังกลับเป็นบรรยากาศบ้านไร่ชายทุ่งที่ดูสงบ เล็กๆ แต่น่าอยู่ อืมม์ อันนี้ก็แอบเสียดายขึ้นมาอีกนิด เพราะถ้าคนทำหนังกล้าอีกนิด ใส่ฉากประเภทพระนางจากเมืองใหญ่เรียนรู้ความเรียบง่ายของคนในเมืองชนบท (หลังจากแสงสีในเมือง ทำให้พวกเขาหลงทางจนแทบจะเลิกกัน) ซึ่งตรงนี้จริงๆ ในหนังก็มีครับ ประเภทให้พระเอกนางเอกผูกมิตรกับชาวเมือง แต่ก็มีแค่นิดๆ เท่านั้นเอง

เอาเป็นว่าอย่าคาดหวังจนเกินไปครับ โดยเฉพาะคนที่ชอบ Two Weeks Notice และ Music and Lyrics แล้วคุณอาจจะพอดูได้ แบบเรื่อยๆ

ดาวครึ่งครับ

Star12

(5/10)