ภาค 4 ของหนังชุด Frankenstein จากค่าย Hammer Films นะครับ

วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ (Peter Cushing) กลับมาอีกครั้ง (ไปๆ มาๆ พี่แกชักจะเหมือนเจสันแล้วนะครับ ไม่ยอมตายสักที) และแน่นอนครับว่าเขาต้องเดินหน้าทำการทดลองเกี่ยวกับการปลุกชีพคนตายเช่นเดิม

แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่ปลุกชีพหรือทำให้ศพมีชีวิตอย่างเดียวแล้วครับ เพราะวิคเตอร์เริ่มมีคำถามเกี่ยวกับ “วิญญาณ” (Soul) ว่าคนที่ตายไปแล้วนั้น หากปลุกชีพโดยให้วิญญาณเดิมของเขากลับมาพร้อมทั้งมีสติต่างๆ แบบครบถ้วนนั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะคราวก่อนๆ เขาปลุกศพได้ก็จริง แต่วิญญาณของเจ้าของร่างนั้น ได้คืนมาบ้าง ไม่ได้คืนมาบ้าง ครั้งนี้จึงเป็นการทดลองว่าด้วยวิญญาณน่ะครับ

แล้วหนังยังมีพล็อตรองเกี่ยวกับความรักระหว่าง ฮานส์ เวอร์เนอร์ (Robert Morris) หนุ่มชาวบ้าน กับ คริสติน่า (Susan Denberg) ลูกสาวเจ้าของโรงแรม ที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรม และนั่นก็นำมาสู่ก้าวแรกแห่งการทดลองครั้งใหม่ของวิคเตอร์

ผมชอบภาคนี้นะครับ เป็นภาคที่มีอะไรน่าสนใจมากที่สุดในบรรดาภาคต่อทั้งหมดของหนังชุดนี้ เพราะมันมีประเด็นสาระชวนคิดว่าด้วยเรื่อง “วิญญาณ” ซึ่งแม้ในหนังมันจะไม่ได้มีการสานต่อประเด็นแบบล้ำลึกก็ตาม แต่ก็ทำให้คนที่ติดตามหนังชุดนี้รู้สึกได้ครับว่าทีมงานพยายามสร้างสรรค์ และการทดลองของวิคเตอร์ก็มีพัฒนาการมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ปลุกชีพศพอย่างเดียว

นอกจากนี้ในส่วนของดราม่าก็ถือว่ามีแบบพอเหมาะครับ มีความสยองผสมลงไปตามสไตล์ของหนังชุดนี้ ทำให้ Frankenstein Created Woman เป็นหนังครบรสครับ มีทั้งน่ากลัว โรแมนติก ฆาตกรรม ชีวิต และแฝงด้วยความลึกลับ แล้วก็ยังได้ Terence Fisher ผู้กำกับจาก 2 ภาคแรกกลับมาคุมงานอีกเช่นเคย

ที่รู้สึกชอบอีกอย่างคือ นอกจากเราจะได้เห็นการค้นคว้าเกี่ยวกับ “วิญญาณ” ของคนแล้ว เรายังจะได้เห็น “วิญญาณ” บางด้านบางมุมของวิคเตอร์ด้วยครับ เรียกว่าเราเห็นพี่ท่านเหมือนนักวิทยาศาสตร์โรคจิตมาหลายภาค แต่ในภาคนี้เราจะได้เห็นแง่มุมมนุษย์ของเขาด้วย ซึ่งผมว่ามันเป็นพัฒนาการที่น่าสนใจสำหรับหนังเรื่องนี้นะครับ

จุดดีต่างๆ ที่ผมได้บอกไปคือสิ่งสำคัญที่มา Mix รวมกัน แล้วทำให้หนังแฟรงเกนสไตน์ภาคนี้มี “วิญญาณ” และมีมิติ โดดเด่นกว่าตอนอื่นๆ เรียกว่าความดีใกล้เคียงกับภาคแรกเลยก็ว่าได้ครับ เพียงแต่ภาคแรกจะลงตัวในฐานะหนังสยอง ส่วนภาคนี้มันลงตัวบนส่วนผสมหลากแนว แต่ก็เข้ากันได้แบบพอดีๆ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)